จะเค้กพื้นฐานสำหรับมือใหม่ หรือเค้กคลาสสิก เค้กสุดป๊อบแบบมืออาชีพก็เอาอยู่
สิ้นสุดการรอคอย! วันนี้ KRUA.COได้รวบรวม 30 สูตรเค้กสูตรเด็ด ทั้งคัพเค้ก โรลเค้ก ชีสเค้ก เค้กปอนด์ กระทั่งเค้กที่อยู่ในกระแสตลอดอย่าง Basque burnt cheesecake ชีสเค้กซูเฟล่ เค้กลาวาหรือ fountain cake ที่ทุกสูตรทำได้จริง จะเซฟสูตรเก็บไว้ทำกินเองก็ได้ แต่ทำขายก็ยิ่งรวยไปอี๊ก เราได้รวบรวมแบ่งตามประเภทเค้ก เหมาะกับทำมือใหม่และมือเก๋าด้วยขั้นตอนวิธีทำอย่างละเอียด
คัพเค้ก
เป็นเค้กที่เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะเนื้อเค้กผสมง่ายๆ วิธีทำไม่ซับซ้อน ทำได้หลายรสชาติ แถมเวลาแต่งหน้าเค้กก็ไม่ยุ่งยากเหมือนเค้กก้อนใหญ่ แต่งหน้าได้ง่ายด้วยฟรอสติ้งอย่างบัตเตอร์ครีม แต่มืออาชีพก็สามารถทำคัพเค้กแฟนซีแต่งหน้าด้วยน้ำตาลปั้น (fondant) หรือเอาไปจัดเรียงใส่กล่องเป็นเซ็ตเค้กวันเกิดได้เช่นกัน ว่าแล้วเราไปดูสูตรและวิธีทำคัพเค้กยอดฮิตรสต่างๆ กันเลย
สูตร คัพเค้กเรดเวลเวท
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 145 กรัม
– เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– ผงโกโก้ 15 กรัม
– น้ำส้มสายชู 1½ ช้อนชา
– บัตเตอร์มิลก์ 125 กรัม
– สีผสมอาหารสีแดงชนิดน้ำ 35 กรัม
– เนยสดชนิดจืด 60 กรัม
– น้ำตาลทราย 160 กรัม
– กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
– ไข่ไก่ 1 ฟอง
ส่วนผสมสำหรับครีมชีสฟรอสติ้ง
– ครีมชีส 500 กรัม
– น้ำตาลไอซิ่ง 300 กรัม
– เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
– น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
– เกลือป่น ⅛ ช้อนชา
อุปกรณ์จำเป็น ถ้วยกระดาษขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว พิมพ์คัพเค้ก สกู๊ปตักไอศกรีม สปาตูลา
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบนและไฟล่าง เตรียมไว้ เรียงถ้วยกระดาษใส่พิมพ์คัพเค้ก ร่อนแป้งเค้ก เบกกิ้งโซดา และเกลือ เข้าด้วยกันในอ่างผสม เตรียมไว้ ผสมผงโกโก้ น้ำส้มสายชู บัตเตอร์มิลค์ และสีแดง คนส่วนผสม ให้เข้ากัน พักไว้
2. ตีเนยสดด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า โดยใช้ความเร็วปานกลางจนเนยขึ้นฟูเป็นสีครีมนวล ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีจนฟูเข้ากันเป็นครีม ใส่กลิ่นวานิลลาในไข่ไก่ แล้วใส่ไข่ไก่ในเนยสดที่ตี ตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งที่ร่อนไว้ สลับกับส่วนผสมผงโกโก้ที่พักไว้ (โดยแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน ของเหลว 2 ส่วน) เริ่มด้วยแป้งสลับกันไปแล้วจบด้วยแป้ง ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. ใช้สกู๊ปตักไอศกรีมหรือช้อนตักส่วนผสมเค้กใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของถ้วย ไล่อากาศในเนื้อเค้กโดยใช้ไม้ปลายแหลมคนให้ทั่วเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 18-20 นาที หรือจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้ม ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดมาแสดงว่าเค้กสุก นำออกจากเตาอบ พักเค้กบนตะแกรงจนเย็น
4. ทำครีมชีสฟรอสติ้ง โดยตีครีมชีสด้วยเครื่องตีเค้กโดยใช้หัวตีใบพัด ตีจนครีมชีสเนียน จึงค่อยๆใส่น้ำตาลไอซิ่งทีละน้อยจนหมด จากนั้นใส่เนยสด ตีให้เข้ากัน ใส่น้ำมะนาวและเกลือป่นเล็กน้อย ตีต่อให้เข้ากันจนเนื้อเนียน พักไว้
5. ตกแต่งคัพเค้กโดยนำเนื้อคัพเค้กที่อบเสร็จ 1 ชิ้น มาบิเป็นผงละเอียด เตรียมไว้สำหรับโรยหน้า นำครีมชีสฟรอสติ้งปาดบนคัพเค้ก โดยปาดให้ทั่วชิ้นก่อน ปาดด้านข้างให้เรียบโดยเอียงคัพเค้กลงเล็กน้อย จากนั้นปาดหมุนเข้าตรงกลาง โรยผงคัพเค้กที่เตรียมไว้
Tips ครีมชีสและเนยที่นำมาตีควรนุ่ม เวลาตีส่วนผสมจะเนียนเข้ากันดี สามารถขูดผิวมะนาวหรือผิวเลมอนใส่ลงไปได้เพื่อให้มีกลิ่นหอม
สูตร คัพเค้กวานิลลา
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 135 กรัม
– ผงฟู 2 ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืด 130 กรัม
– น้ำตาลทราย 125 กรัม
– กลิ่นนมเนย 1 ช้อนชา
– ไข่ไก่ 2 ฟอง
– นมสดชนิดจืด 2 ช้อนโต๊ะ
– โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 4 ช้อนโต๊ะ
– บัตเตอร์ครีม 200 กรัม
– สีผสมอาหารสีเหลือง สีเขียว สีส้ม สีฟ้า สีชมพู อย่างละ ⅛ ช้อนชา
– เม็ดน้ำตาลสีต่างๆสำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์จำเป็น ถ้วยกระดาษขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว พิมพ์คัพเค้ก สกู๊ปตักไอศกรีม สปาตูลา
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบนและไฟล่าง เตรียมไว้ เรียงถ้วยกระดาษใส่พิมพ์คัพเค้ก ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกันในอ่างผสม เตรียมไว้
2. ตีเนยสดด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า โดยใช้ความเร็วปานกลางจนเนยขึ้นฟูเบาเป็นสีครีมนวล ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ใส่กลิ่นนมเนย ตีจนขึ้นฟูเข้ากันเป็นครีมและน้ำตาลละลาย แล้วใส่ไข่ไก่ในเนยสดที่ตีทีละฟองจนหมด ตีส่วนผสมให้เข้ากันจนเนื้อเนียน ผสมนมกับโยเกิร์ต เข้าด้วยกัน จากนั้นใส่แป้งที่ร่อนไว้ สลับกับโยเกิร์ตลงในเนยที่ตี (โดยแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน โยเกิร์ต 2 ส่วน) เริ่มด้วยแป้งสลับกันไปแล้วจบด้วยแป้ง ลดความเร็วการตี เป็นต่ำสุด ผสมพอเข้ากัน เนื้อที่ได้จะเป็นสีครีมนวล
3. ใช้สกู๊ปตักไอศกรีมหรือช้อนตักส่วนผสมเค้กใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของถ้วย ไล่อากาศในเนื้อเค้กโดยใช้ไม้ปลายแหลมคนให้ทั่วเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 15-18 นาที หรือจนเค้กสุกทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้ม ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดมาแสดงว่าเค้กสุก นำเค้กออกจากเตาอบ พักเค้กบนตะแกรง จนเย็น
4. ตกแต่งคัพเค้กโดยผสมบัตเตอร์ครีมกับสีที่ชอบให้เข้ากันจากนั้นปาดบนคัพเค้กให้ทั่ว ตกแต่งด้วยเม็ดน้ำตาลสีต่างๆ ให้สวยงาม
Tips ครีมชีสและเนยที่นำมาตีควรนุ่ม เวลาตีส่วนผสมจะเนียนเข้ากันดี สามารถขูดผิวมะนาวหรือผิวเลมอนใส่ลงไปได้เพื่อให้มีกลิ่นหอม
สูตร คัพเค้กสตรอว์เบอร์รี
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 180 กรัม
– ผงฟู 1½ ช้อนชา
– เบกกิ้งโซดา ⅛ ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืด 150 กรัม
– น้ำตาลทราย 125 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– ไข่ไก่ 3 ฟอง
– บัตเตอร์มิลค์ 200 กรัม
– สตรอว์เบอร์รีหั่นลูกเต๋า 4 ผล
ส่วนผสมสำหรับครีมสด
– วิปปิ้งครีม 250 กรัม
– น้ำตาลทราย 10 กรัม
– กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
– สตรอว์เบอร์รีสำหรับตกแต่ง6 ลูก
– เม็ดน้ำตาลสีเงินและเม็ดช็อกโกแลตขาวสำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์จำเป็น: ถ้วยกระดาษขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว พิมพ์มัฟฟิน เครื่องตีไข่ไฟฟ้า สคูปไอศกรีมขนาด 5.5 นิ้ว ถุงบีบและหัวบีบดาวขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 13 มม. หัวบีบกลมขนาด 8 มม. และสเปตตูล่าขนาดเล็ก
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เรียงถ้วยกระดาษใส่พิมพ์ถาดมัฟฟิน เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือ เข้าด้วยกัน พักไว้
3. ตีเนยสดในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ตีด้วยความเร็วปานกลางจนเนยขึ้นฟูเบาเป็นสีครีมนวล ค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีจนขึ้นฟูเข้ากันเป็นครีมและน้ำตาลละลายหมด ใส่กลิ่นวานิลลาลงไปในอ่างเนยสด ตีให้เข้ากัน แล้วใส่ไข่ลงไปค่อยๆเทลงเป็นสายจนหมด ผสมให้เข้ากันจากนั้นใส่แป้งที่ร่อนสลับกับบัตเตอร์มิลค์ลดความเร็วการตีต่ำสุด (โดยแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน บัตเตอร์มิลค์ 2 ส่วน) เริ่มด้วยแป้งสลับกันไปแล้วจบด้วยแป้ง ผสมพอเข้ากัน เนื้อที่ได้จะเป็นครีมสีครีมนวล
4. ตักส่วนผสมเค้กโดยใช้สคูปไอศกรีมหรือช้อนตักใส่ถ้วยกระดาษที่เตรียมไว้ ¾ ของถ้วย แล้วเคาะไล่อากาศในเนื้อเค้กโดยยกถาดเคาะบนพื้นโต๊ะเบาๆ 2-3 ครั้ง นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 15-18 นาที หรือจนเค้กสุก (ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดมาแสดงว่าเค้กสุก) ยกออกจากเตาอบ นำเค้กออกจากถาดมัฟฟินแล้วพักเค้กบนตะแกรงจนเย็น
5. ใช้มีดปลายแหลมคว้านด้านบนคัพเค้ก นำเนื้อสตรอว์เบอร์รีหั่นลูกเต๋าใส่ลงไป
6. ทำครีมสดโดยตีวิปปิ้งครีม แล้วใส่น้ำตาล กลิ่นวานิลลา ตีจนวิปปิ้งครีมข้นและเป็นลาย ทดสอบโดยยกแล้วตั้งยอด นำมาปาดหน้าคัพเค้กตามต้องการ หรือนำใส่หัวบีบดาวและหัวบีบกลม ตกแต่งด้วยเม็ดน้ำตาล สตรอว์เบอร์รีสด และช็อกโกแลตหรือตกแต่งตามชอบ
สูตร คัพเค้กคาลัว
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 115 กรัม
– ผงฟู 1½ ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– ไข่แดงไข่ไก่ 4 ฟอง
– น้ำตาลทราย 100+80 กรัม
– น้ำ 65 กรัม
– น้ำมันถั่วเหลือง 55 กรัม
– เหล้าคาลัว 1 ช้อนโต๊ะ
– ไข่ขาวไข่ไก่ 4 ฟอง
– ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 ช้อนชา
– ผงโกโก้สำหรับโรย
ส่วนผสมสำหรับน้ำเชื่อมเหล้า
น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
เหล้าคาลัว 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมสำหรับครีมมัสคาร์โพน
– มัสคาร์โพเนชีส 250 กรัม
– น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
– เหล้าคาลัว 1 ช้อนโต๊ะ
– วิปปิ้งครีม 200 กรัม
อุปกรณ์ ถ้วยกระดาษขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว พิมพ์คัพเค้ก สคูปตักไอศกรีม แปรงสำหรับทา น้ำเชื่อมเหล้า
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบนและไฟล่าง เรียงถ้วยกระดาษใส่พิมพ์คัพเค้ก เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกันในอ่างผสมใช้ตะกร้อมือหรือช้อนคนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
3. ผสมไข่แดง น้ำตาล (100 กรัม) น้ำ น้ำมันถั่วเหลือง และเหล้าคาลัว ในอ่างผสม คนด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมเริ่มเป็นฟองละเอียด จากนั้นค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้ทีละน้อย คนตะล่อมให้เข้ากันจนหมดแป้ง ส่วนผสมจะมีเนื้อเนียน พักไว้
4. ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ ตีด้วยความเร็วสูงจนไข่ขาวเริ่มเป็นฟองละเอียด ค่อยๆใส่น้ำตาล (80 กรัม) ทีละน้อยจนหมด ตีจนไข่ขาวตั้งยอดแข็ง แบ่งครีมไข่ขาวเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งใส่ลงในอ่างผสมไข่แดงที่ทำไว้ ตะล่อมด้วยพายยางอย่างเบามือให้เข้ากัน จึงตักครีมไข่ขาวที่เหลือลงตะล่อมไปทางเดียวกัน จนเนื้อเนียน ใช้สคูปตักไอศกรีมหรือช้อนตักส่วนผสมเค้กใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของถ้วย ไล่อากาศในเนื้อเค้กโดยใช้ไม้ปลายแหลมคนให้ทั่วเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 15-18 นาที หรือจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้ม ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดมาแสดงว่าเค้กสุก นำเค้กออกจากเตาอบ วางพักบนตะแกรงจนเย็น ทำน้ำเชื่อมเหล้าโดยผสมน้ำเชื่อมกับเหล้าคนให้ส่วนผสมเข้ากัน นำไปทาบนหน้าเค้ก พักไว้
5. ทำครีมมัสคาร์โพเนโดยตีมัสคาร์โพเนชีสกับน้ำตาลไอซิ่งด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าพอเข้ากัน ใส่เหล้า นำเข้าพักในตู้เย็นช่องธรรมดา ตีวิปปิ้งครีมด้วยตะกร้อมือจนวิปปิ้งครีมข้น นำวิปปิ้งครีมผสมกับครีมมัสคาร์โพเนตะล่อมจนเนื้อเนียนเข้ากันดี (ถ้าส่วนผสมเหลวไปให้นำเข้าแช่ในตู้เย็นก่อนนำมาบีบ) นำใส่ถุงบีบใช้หัวบีบเกลียวบีบลงบนคัพเค้กจากด้านนอกเข้าด้านใน โรยด้วยผงโกโก้
คัพเค้กช็อกโกแลตมอลต์
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 100 กรัม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เกลือป่น ½ ช้อนชา
– ผงมอลต์ 50 กรัม
– น้ำตาลทราย 160 กรัม
– ดาร์กช็อกโกแลต 58% 90 กรัม
– เนยสดชนิดจืด 60 กรัม
– น้ำมันพืช 13 กรัม
– ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม) 2 ฟอง
– นมสดชนิดจืด 160 กรัม
– กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
– ช็อกโกแลตบอลสำหรับตกแต่ง
ส่วนผสมฟรอสติ้งมอล์ต
– มิลค์ช็อกโกแลต 38% 170 กรัม
– วิปปิ้งครีม 120 กรัม
– ผงมอลต์ 50 กรัม
– เนยสดชนิดจืดนุ่มหั่นลูกเต๋า 60 กรัม
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใส่ถ้วยกระดาษลงในพิมพ์ เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือป่น และผงมอลต์ ลงในอ่างผสม ใส่น้ำตาล ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน พักไว้
3. ละลายดาร์กช็อกโกแลตและเนยในไมโครเวฟด้วยไฟอ่อน นำออกมาใส่น้ำมัน คนพอเข้ากัน พักไว้ให้เย็น ใส่ไข่ไก่ นมสด และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน
4. เกลี่ยแป้งเป็นหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมช็อกโกแลตลงไป ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน เนื้อเค้กที่ได้จะค่อนข้างเหลว ตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ประมาณ ½ ของพิมพ์ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 23 นาที นำออกจากเตา พักเค้กไว้บนตะแกรงจนเย็น
5. ทำฟรอสติ้งมอลต์โดยละลายมิลก์ช็อกโกแลตและวิปปิ้งครีมในไมโครเวฟด้วยไฟอ่อน เทลงในอ่างผงมอลต์ ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากันใส่เนยทีละก้อน ใช้ตะกร้อคนจนเนยละลายเป็นเนื้อเดียวกับช็อกโกแลต นำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 30 นาที จนฟรอสติ้งมอลต์ เซตตัวดี ตักใส่ถุงบีบ บีบฟรอสติ้งมอลต์บนคัพเค้ก ตกแต่งด้วยช็อกโกแลตบอล
Tips เนยที่ใช้ในฟรอสติ้งมอลต์ควรเป็นเนยนุ่ม ลักษณะของเนยนุ่มคือใช้นิ้วกดเบาๆแล้วเนยยุบตัวแต่ไม่เหลวติดมือ หากใช้เนยเย็น เวลาผสมจะไม่ละลายเข้ากับช็อกโกแลตและจับตัวเป็นก้อน วิธีแก้คือใช้เครื่องปั่นมือ (hand blender) ปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
สูตร คัพเค้กเรนโบว์
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 135 กรัม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เกลือป่น ½ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืด 113 กรัม
– น้ำตาลทราย 120+45 กรัม
– นมสดชนิดจืด 125 กรัม
– ไข่ขาวไข่ไก่ (ประมาณ 4 ฟอง) 120 กรัม
– ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา
– สีผสมอาหารสีแดง สีเหลือง สีส้ม
– สีเขียว สีฟ้า สีม่วงชนิดน้ำ อย่างละ ⅛ ช้อนชา
– วิปปิ้งครีมแบบ non-dairy 200 กรัม
– เม็ดน้ำตาลสีต่างๆ สำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์ ถ้วยกระดาษขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว พิมพ์คัพเค้ก สกู๊ปตักไอศกรีม สปาตูลา
โรลเค้ก
แม้ในประเทศไทย โรลจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ถือว่าเป็นเค้กที่ยังมีตลาดและขายดีอยู่ เพราะเหมาะสำหรับคนชอบเค้กเนื้อนุ่มๆ เบาๆ ไส้ครีมตู้มๆ สูตรโรลเค้กทำได้ทั้งแบบชิฟฟอนและสปอนจ์ แต่โดยทั่วไปคนชอบสูตรชิฟฟอนเพราะเนื้อนุ่มเบากว่า บางคนเอาไปต่อยอดเป็น paint roll หรือเค้กโรลแบบผสมสีแล้ววาดลวดลายลงไปด้วยก็ได้ โรลเค้กไม่ยุ่งยากเท่าเค้กปอนด์เป็นชั้นๆ แถมใช้เวลาอบน้อยแค่ 10-15 นาทีเพราะอบใส่ถาดเนื้อเค้กบาง แต่อาศัยเทคนิคการม้วนเค้กใส่ไส้แล้วให้ทรงกลมสวย ไปดูสูตรโรลเค้กสุดอร่อยของเรากันเลย
สูตร โรลเค้กโฮจิฉะ
ส่วนผสม
– แป้งเค้กญี่ปุ่น 60 กรัม
– ผงชาโฮจิฉะ 6 กรัม
– ไข่ไก่แยกไข่ขาวไข่แดง 4 ฟอง
– น้ำตาลทรายละเอียด 20+40 กรัม
– นมสดชนิดจืด 50 กรัม
– น้ำมันพืช 40 กรัม
– น้ำมะนาว ½ ช้อนชา
อุปกรณ์: ถาดอบขนาด 10x13x1 นิ้ว กระดาษไข ที่ตีไข่ไฟฟ้า ตะแกรงพักเค้ก ไม้คลึงแป้งสำหรับม้วนโรลเค้ก
ส่วนผสมสำหรับไวท์ช็อกโกแลตโฮจิฉะ
– ไวท์ช็อกโกแลต 100 กรัม
– วิปปิ้งครีม 260 กรัม
– ผงชาโฮจิฉะ 7 กรัม
วิธีทำ
1. ทำไส้ไวท์ช็อกโกแลตโฮจิฉะโดยใส่ไวท์ช็อกโกแลตกับวิปปิ้งครีม 160 กรัมลงในอ่างผสม นำเข้าไมโครเวฟ ละลายให้เข้ากัน ใส่ผงโฮจิฉะ คนให้เนียนเข้ากันและชาไม่เป็นเม็ด แล้วกลับลงผสมกับวิปปิ้งครีมที่เหลือ คนให้เข้ากัน ปิดด้วยพลาสติกแร็ปให้แนบกับผิวหน้าช็อกโกแลต นำเข้าตู้เย็น 1 คืน
2. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ปูกระดาษไขในถาดอบเตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก 1 รอบ พักไว้ ละลายผงชาโฮจิฉะกับนมอุ่น คนให้เข้ากันจนชาไม่เป็นเม็ด พักไว้ให้เย็นสนิท
3. ใส่ไข่แดงและน้ำตาลลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือตีให้น้ำตาลบางส่วนละลาย ส่วนผสมไข่แดงเป็นสีส้มอ่อนลง ใส่นมชาโฮจิฉะและน้ำมัน คนด้วยตะกร้อให้เข้ากัน แล้วร่อนแป้งเค้กใส่จนหมด ใช้ตะกร้อคนเร็วๆให้พอเข้ากัน แต่อย่าผสมนาน พักไว้
4. ใส่ไข่ขาวกับน้ำมะนาวลงในอ่างผสมรอไว้ ตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนไข่ขาวเริ่มเป็นฟองหยาบๆ ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายทีละน้อยระหว่างที่ตีไปด้วยจนหมด ตีไข่ขาวจนเป็นโฟมละเอียด มันวาว ตักไข่ขาว 1/3 ส่วนลงไปผสมกับส่วนผสมไข่แดงโดยใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่ไข่ขาวที่เหลือทั้งหมด ตะล่อมเบาๆด้วยพายยาง เทลงในถาดอบที่เตรียมไว้ เกลี่ยเนื้อเค้กให้เรียบเสมอกัน เคาะไล่อากาศเล็กน้อย นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 13 นาที จนเค้กสุกดี
5. นำโรลเค้กออกจากเตาอบ นำกระดาษไขและตะแกรงพักเค้กประกบตลอดความยาวหน้าเค้ก คว่ำโรลเค้กออกจากถาด ลอกกระดาษไขด้านล่างออก พักเค้กไว้บนตะแกรงเช่นนี้สักครู่ พอให้เค้กอุ่นตัวลง พลิกกลับด้านเค้กเอาด้านผิวสีน้ำตาลขึ้น (ฝั่งด้านบนเวลาอยู่ในเตาอบ) หันด้านความยาวเค้กเข้าหาตัว แล้วค่อยๆใช้ไม้คลึงแป้งประคองชายกระดาษไขแผ่นด้านล่างเค้ก ค่อยๆม้วนโรลเค้กออกนอกตัว (ขั้นตอนนี้ต้องทำตอนเค้กยังอุ่นๆ มิเช่นนั้นเวลาม้วน โรลเค้กจะหักได้)
6. นำไส้ไวท์ช็อกโกแลตโฮจิฉะออกจากตู้เย็น ออกมาตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนข้นฟู พักไว้ คลายม้วนโรลเค้กออกเป็นแผ่นดังเดิม ปาดไส้ไวท์ช็อกโกแลตโฮจิฉะให้ทั่วเค้ก (เว้นขอบซ้ายขวาและด้านบนไว้ 1 นิ้ว ค่อยๆใช้ไม้คลึงแป้งม้วนโรลเค้กออกจากตัวจนสุดแผ่นเค้ก จัดทรงให้โรยเค้กแน่นเป็นทรงกลม มัดกระดาษไขหัวและท้าย เพื่อมัดให้โรลไม่คลายตัวออกจากกัน นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 2 ชั่วโมง
จัดเสิร์ฟโรลเค้กตัดเป็นชิ้นหนา 1 นิ้ว
สูตร เค้กแยมโรล
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 110 กรัม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เกลือป่น ½ ช้อนชา
– ไข่แดงไข่ไก่ 5 ฟอง
– น้ำตาลทราย 160 กรัม
– น้ำมันพืช 90 กรัม
– น้ำ 60 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
– ไข่ขาว 6 ฟอง
– น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
– แยมมิกซ์เบอร์รี1/2 ถ้วย
วิปปิ้งครีมตีแล้ว200 กรัม
อุปกรณ์จำเป็น: ถาดโรลเค้กขนาด 11×14 นิ้ว กระดาษไข
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ปูกระดาษไขในถาด เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือป่นรวมกัน 2 รอบ พักไว้ ใส่ไข่แดง และน้ำตาลทราย ½ ของทั้งหมดลงในอ่างผสม ตีด้วยตะกร้อมือพอให้น้ำตาลส่วนหนึ่งละลาย ใส่น้ำมันพืช น้ำ และกลิ่นวานิลลา ตีให้เนียนเข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อจนเนื้อเนียน พักไว้
3. ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีเค้กหัวตีตะกร้อจนเป็นฟองหยาบๆ ใส่น้ำมะนาวและค่อยๆเทน้ำตาลทรายที่เหลือลงไปทีละช้อนจนหมด ตีต่อจนไข่ขาวเป็นฟองละเอียดและตั้งยอดอ่อน
4. แบ่งไข่ขาวออกมา 1/3 ส่วนใส่ลงในอ่างแป้ง ใช้ตะกร้อคนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วจึงใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไป ใช้พายยางตะล่อมเบาๆให้เข้ากันและไม่เห็นเนื้อไข่ขาวเป็นก้อน เทเนื้อเค้กใส่ถาดที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบเสมอกันทั้งถาด นำเข้าอบประมาณ 16 นาทีจนเค้กสุก นำถาดเค้กออกวางพักบนตะแกรงจนเย็นสนิท คว่ำถาดโรลเค้กลงบนตะแกรงที่ปูกระดาษไข เอาถาดออก ค่อยๆลอกกระดาษไขที่ติดกับเนื้อเค้กออก ประกบด้วยตะแกรงอีกอัน พลิกกลับเอาด้านสีน้ำตาลขึ้น หยิบกระดาษไขออก ปล่อยให้เนื้อเค้กหายร้อน แค่พออุ่นๆ (ขั้นตอนนี้หน้าเค้กสีน้ำตาลจะอยู่ด้านบน)
5. เตรียมม้วนเค้กโดยกลับด้านเอาเนื้อเค้กสีน้ำตาลกลับไปอยู่ด้านล่างก่อน ทำโดยนำกระดาษไขและตะแกรงประกบด้านเนื้อเค้กสีน้ำตาล พลิกกลับด้าน ดึงตะแกรงออก เหลือแต่กระดาษไขที่รองเนื้อเค้กโดยตรง ปาดแยมให้ทั่วเนื้อเค้ก ตามด้วยวิปปิ้งครีมให้ทั่วโดยเว้นขอบไว้ด้านละ 0.5 นิ้ว เกลี่ยให้เรียบ ประคองกระดาษไขด้านที่ใกล้ตัว ค่อยๆม้วนโรลเค้กออกนอกตัวไปให้แน่น นำเค้กเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา 2 ชั่วโมง แล้วจึงตัดเป็นชิ้นหนา 1 นิ้ว เท่าๆกัน เสิร์ฟ
สูตร โรลผลไม้รวม
ส่วนผสม
– ผลไม้สด เช่น สตรอว์เบอร์รี กีวี ส้ม กล้วยหอม
– อุปกรณ์ ถาดอบขนาด 26×26 ซม. กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์ ไม้คลึงแป้งขนาดเล็ก ไม้บรรทัด
ส่วนผสมสำหรับเค้กโรล
– แป้งเค้ก 60 กรัม
– ไข่ไก่แยกไข่แดงไข่ขาว (ฟองละ 65-70 กรัม) 3 ฟอง
– น้ำตาลทราย 20+40 กรัม
– น้ำมันพืช 30 กรัม
– น้ำ 40 กรัม
ส่วนผสมสำหรับ
– วิปปิ้งครีม 200 กรัม
– น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ทำเค้กโรลโดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียสเตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านในถาดอบ แล้วร่อนแป้งเค้ก 2 รอบ พักไว้
2. ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย 20 กรัมด้วยตะกร้อจนเข้ากัน ใส่น้ำมันและน้ำ ตีให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่แป้งเค้กที่ร่อนไว้ลงไป ใช้ตะกร้อคนเบาๆ ให้เข้ากัน
3. ตีไข่ขาวในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายที่เหลือทีละน้อยจนหมด ตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและมันวาว แบ่งไข่ขาว 1/3 ส่วนลงตะล่อมกับส่วนผสมไข่แดงจนเข้ากัน แล้วเททั้งหมดกลับลงในอ่างไข่ขาวที่เหลือ ตะล่อมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เทเค้กลงในถาดอบ เกลี่ยให้เรียบเท่ากันทั้งถาด นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 12 นาทีหรือจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มแล้วไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมา นำเค้กออกจากเตาอบ คว่ำลงบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก วางกระดาษไขลงบนเค้กเหมือนเดิม นำตะแกรงอีกอันประกบ พลิกเอาเค้กด้านที่เป็นสีน้ำตาลขึ้นด้านบน พักเค้กไว้บนตระแกรงจนเย็นสนิทโดยใช้กระดาษไขหรือพลาสติกแร็ปคลุมเนื้อเค้กไว้ไม่ให้แห้ง
4. ทำครีมสดโดยตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายจนตั้งยอด 80% ปาดครีมสดบนเค้กหนาประมาณ 2 มม. จนทั่วแผ่นวางผลไม้เรียงตามแนวยาวโดยเว้นจากขอบเค้กด้านล่างประมาณ 1 นิ้ว นำครีมสดที่เหลือปาดกั้นเป็นขอบตามแนวยาวทั้งสองด้านของผลไม้ วางไม้คลึงแป้งด้านล่างขอบกระดาษไข ประคองเนื้อเค้กขึ้นม้วนไปข้างหน้า ม้วนเค้กให้แน่นโดยดึงกระดาษไขแผ่นล่างไปด้านหน้า แล้วใช้ไม้บรรทัดสอดใต้โรลผลไม้รวมแล้วดันม้วนเค้กเข้าหาตัว ม้วนปิดด้านข้างให้มิดชิด นำโรลเค้กแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดานาน 30 นาทีเพื่อให้ครีมเซตตัว แล้วจึงตัดเสิร์ฟเป็นชิ้น
ชีสเค้ก
เหมาะสำหรับคนไม่ชอบทำเค้กแบบประณีตซับซ้อน ไม่ต้องลุ้นว่าเค้กจะฟูไม่ฟู เน้นที่การตีครีมชีสให้เนียนนุ่มไม่เป็นก้อน ที่สำคัญเป็นเค้กที่เลือกได้ว่าจะทำสูตรแบบอบหรือไม่อบ ซึ่งวิธีทำก็จะต่างกันไป ชีสเค้กแบบอบ เน้นวิธีการอบด้วยไฟต่ำเพราะเป็นเค้กไขมันสูง ป้องกันการไหม้ ยกเว้น basque burnt cheesecake (ชีสเค้กหน้าไหม้ที่ได้รับความนิยมมาพักใหญ่) ส่วนชีสเค้กแบบไม่อบ (แช่เย็น) เป็นชีสเค้กที่เซ็ตตัวด้วยการใส่เจลาติน วิธีทำคล้ายๆ กับพวกมูส
สูตร ชีสเค้กนิวยอร์ก
ส่วนผสม
– ครีมชีส 750 กรัม
– แป้งข้าวโพด 25 กรัม
– น้ำตาลทราย 150 กรัม
– ซาวร์ครีม 145 กรัม
– ไข่ไก่ 3 ฟอง
– ไข่แดงไข่ไก่ 1 ฟอง
– วานิลลาฝัก 1 ฝัก
– น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
– ไดเจสทีฟบิสกิต 225 กรัม
– น้ำตาลทราย 15 กรัม
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืดละลาย100 กรัม
อุปกรณ์ พิมพ์ถอดฐานขนาด 8นิ้ว กระดาษไข แผ่นอะลูมิเนียมฟอยด์ ถาดรองอบ
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์ชีสเค้กโดยปูกระดาษไขด้านข้าง และด้านล่างภายในพิมพ์ ส่วนด้านนอกหุ้มด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยด์ให้แน่นและรอบ
2. ทำฐานเค้กโดยการผสมไดเจสทีฟ น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนให้เข้ากัน ใส่เนยละลาย คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ กดอัดให้แน่น นำเข้าอบ 10 นาทีจนฐานมีกลิ่นหอม นำออกจากเตา พักไว้
3. ทำชีสเค้กโดยตีครีมชีสด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าให้นุ่ม ใส่แป้งข้าวโพด น้ำตาลตีต่อจนเนียน ใส่ซาวร์ครีม ไข่ไก่ และไข่แดง ตีให้เข้ากัน กรีดฝักวานิลลา ปาดเอาแต่เมล็ด ใส่ลงในครีมชีส ตามด้วยน้ำเลมอน ตีให้เข้ากัน พักไว้
4. เทครีมชีสใส่พิมพ์ นำเข้าอบหล่อน้ำประมาณ 50 นาที- 1 ชั่วโมง เมื่อครบเวลา ปิดไฟ ทิ้งไว้ในเตาอบจนเย็นสนิทแล้วนำเข้าตู้เย็น 1คืนก่อนตัดเป็นชิ้นเสิร์ฟ
สูตร ชีสเค้กไวท์ช็อกโกแลต
ส่วนผสมฐานชีสเค้ก
คุกกี้แซนด์วิชรสช็อกโกแลตเอาไส้ครีมออก250 กรัม
เนยสดชนิดจืดละลาย ⅓ ถ้วย + 2ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ⅛ ช้อนชา
ส่วนผสมชีสเค้ก
– น้ำตาลทราย ⅓ ถ้วย
– น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
– ไข่แดงของไข่ไก่ [ฟองละ 65 กรัม] 3 ฟอง
– ครีมชีส 250 กรัม
– ไวท์ช็อกโกแลต 250 กรัม
– เจลาตินแผ่น [ขนาดแผ่นละ 4½ x2½ นิ้ว] 4 แผ่น
– วิปปิ้งครีมชนิดกล่อง 2 ถ้วย
– วิปปิ้งครีมตีแล้วสำหรับตกแต่งหน้า ½ ถ้วย
– ไวต์ช็อกโกแลตขูดสำหรับโรย
อุปกรณ์ เครื่องปั่นของแห้ง พิมพ์วงแหวนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว แผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์สำหรับหุ้มฐานพิมพ์ ถาดอะลูมิเนียมขนาด 11×15 นิ้วสำหรับรองพิมพ์ เครื่องตีไข่ไฟฟ้า
วิธีทำ
1. เตรียมพิมพ์ชีสเค้กโดยห่อฐานพิมพ์ด้วยแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ แล้ววางบนถาด บดคุกกี้ด้วยเครื่องปั่นของแห้งหรือที่ทุบเนื้อจนละเอียด เทลงในอ่างผสม ใส่เนยละลายและเกลือป่น คลุกให้เข้ากัน เทคุกกี้ที่คลุกไว้ลงในพิมพ์ ใช้ก้นแก้วอัดให้เรียบเสมอกัน นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา พักไว้
2. แช่แผ่นเจลาตินลงในอ่างน้ำเย็นที่ใส่น้ำแข็ง เตรียมไว้
3. ทำตัวชีสเค้กโดยใส่น้ำตาลกับน้ำลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางให้น้ำเชื่อมเดือด ระหว่างรอน้ำเชื่อมเดือดได้ที่ให้ตีไข่แดงในอ่างผสมขนาดเล็กด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเริ่มข้นฟู เมื่อน้ำเชื่อมเดือดเป็นฟองเล็กๆ เทลงในอ่างไข่แดงช้าๆ ให้เป็นสายบางๆ ตีต่อจนไข่แดงข้นฟู สังเกตสีไข่แดงจะอ่อนลงและหายร้อน ใส่ครีมชีสลงไปทีละน้อยจนหมดตีจนเนื้อชีสเค้กเนียนไม่เป็นเม็ด พักไว้
4. ระหว่างตีครีมชีส เตรียมละลายไวท์ช็อกโกแลตโดยใส่น้ำลงในหม้อประมาณ ¼ ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อน จากนั้นใส่ไวต์ช็อกโกแลตลงในอ่างผสม ยกขึ้นวางบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆ แล้วจึงคนด้วยพายยางจนละลายเข้ากันดี ยกลง พักไว้ให้หายร้อน แล้วเทไวต์ช็อกโกแลตที่ละลายไว้ทีละน้อยลงในส่วนผสมครีมชีส ข้อ 3 ตีจนช็อกโกแลตกับครีมชีสเนียนเข้ากันดี เทพักไว้ในอ่างผสมที่ขนาดใหญ่ขึ้น
5. แบ่งวิปปิ้งครีม ¼ ถ้วยออกมาใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง รอจนวิปปิ้งครีมร้อน ปิดไฟ ใส่เจลาตินที่นิ่มแล้วลงไปใช้ช้อนคนจนเจลาตินละลายหมด พักไว้ให้หายร้อน
6. ตีวิปปิ้งครีมที่เหลือในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเริ่มมีฟอง ค่อยๆ เทวิปปิ้งครีมที่ละลายเจลาตินในหม้อลงไปตีต่อจนวิปปิ้งครีมตั้งยอดอ่อนๆ
7. ใส่วิปปิ้งครีมลงไปในส่วนผสมครีมชีสข้อ 4 ทีละ ⅓ ส่วนของทั้งหมด ค่อยๆ ตะล่อมให้เข้ากันจนส่วนผสมเนียนเทส่วนผสมชีสเค้กใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยพอเรียบ นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือช่องแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมง จนชีสเค้กอยู่ตัว
8. เมื่อชีสเค้กอยู่ตัวแล้ว (ทดสอบโดยใช้ปลายนิ้วสัมผัสหน้าเค้กแล้วเนื้อเค้กไม่ยุบตัว) นำออกมาแกะแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ออก วางเค้กลงบนหลังถาดหรือจานไม่มีขอบ ดึงพิมพ์ออกโดยใช้ผ้าชุบน้ำร้อนจัดโอบรอบพิมพ์ให้เนื้อเค้กตามขอบพิมพ์คลายตัว หรือใช้ที่พ่นไฟพ่นรอบๆ พิมพ์ ดึงพิมพ์ออก
9. ทาหน้าเค้กด้วยวิปปิ้งครีมที่ตีแล้วบางๆ โรยด้วยไวต์ช็อกโกแลตขูด
สูตร Basque burnt cheesecake
ส่วนผสม
ครีมชีส นุ่ม 500 กรัม
น้ำตาลทราย 160 กรัม
แป้งข้าวโพด 20 กรัม
ไข่ไก่ เบอร์ 2 4 ฟอง
กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
น้ำเลมอน 12 กรัม
วิปปิ้งครีม 230 กรัม
อุปกรณ์: พิมพ์เค้กกลมขนาด 2 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับรองพิมพ์ เครื่องตีเค้กหรือเครื่องตีไข่ไฟฟ้า
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 220 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไข 2 ชั้นด้านในพิมพ์เค้ก โดยให้ชายกระดาษไขพ้นพิมพ์ขึ้นมาอย่างน้อย 2 นิ้ว ตัดชายกระดาษที่ยาวเกินให้เรียบร้อย
2. ใส่ครีมชีส น้ำตาลทราย และแป้งข้าวโพดลงในโถตี ใช้หัวตีใบพัดตีด้วยความเร็วปานกลางจนส่วนผสมเนียนนุ่ม
3. ต่อยไข่ไก่ลงในชาม ใส่กลิ่นวานิลลา พักไว้
4. ค่อยๆเทไข่ไก่ทีละฟองลงในโถตี ใส่น้ำเลมอน วิปปิ้งครีม ตามลำดับ ลดเป็นความเร็วต่ำ ตีจนเนื้อชีสเค้กเนียน ปิดเครื่อง
5. เทชีสเค้กใส่พิมพ์ ให้ต่ำกว่าขอบพิมพ์ 1 ซม. นำเข้าอบในเตาอบนาน 30 นาที นำออกจากเตา พักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท เข้าตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงหรือข้ามคืน แล้วจึงยกออกจากพิมพ์ (ชีสเค้กชนิดนี้ควรรับประทานแบบเย็นๆ)
สูตร มิกซ์เบอร์รีชีสเค้ก
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 115 กรัม
– ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม) 3 ฟอง
– น้ำตาลทราย 120 กรัม
– กลูโคส 15 กรัม
– เนยสดชนิดจืดละลาย 30 กรัม
– นมสดชนิดจืดอุ่น 45 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมเยลลีมิกซ์เบอร์รี
– เจลาตินชนิดแผ่น 6 กรัม
– น้ำตาลทราย 30 กรัม
– เพกติน 2 กรัม
– มิกซ์เบอร์รีเพียวเร 250 กรัม
ส่วนผสมชีสเค้ก
– เจลาตินชนิดแผ่น 9 กรัม
– น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
– ครีมชีส 250 กรัม
– ไข่แดงไข่ไก่ 3 ฟอง
– น้ำตาลทราย 80 กรัม
– น้ำ 40 กรัม
– วิปปิ้งครีม 200 กรัม
– เหล้าเชอร์รี 1 ช้อนโต๊ะ
อุปกรณ์ พิมพ์เค้ก 1 ปอนด์ จำนวน 1 พิมพ์ พิมพ์เค้ก 2 ปอนด์ จำนวน 1 พิมพ์ พิมพ์วงแหวนขนาด 8 นิ้ว สูง 3 นิ้ว พลาสติกแร็ป
วิธีทำ
1. ทำเยลลีมิกซ์เบอร์รีโดยรองพลาสติกแร็ปด้านในพิมพ์เค้ก 1 ปอนด์ เตรียมไว้ แช่เจลาตินแผ่นในน้ำเย็นจัดจนพองตัวและนุ่มพักไว้ ผสมน้ำตาลทรายกับเพกตินในถ้วย คนให้เข้ากันใส่มิกซ์เบอร์รีเพียวเรและน้ำตาลทรายที่ผสมเพกตินลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลำง เคี่ยวจนน้ำตาลละลาย ใส่เจลาตินแผ่นที่นุ่มแล้ว คนให้เจลาตินละลาย เทใส่พิมพ์เค้กที่เตรียมไว้ (แบ่งไว้ ¼ ถ้วย สำหรับแต่งหน้า) นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนที่แบ่งไว้แต่งหน้าวางพักไว้นอกตู้เย็น
2. ทำเค้กโดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก 2 รอบ พักไว้ ใส่ไข่ไก่ น้ำตาลทราย และกลูโคส ในอ่างผสม ยกขึ้นตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆ ตีพอให้ส่วนผสมไข่ไก่อุ่นและน้ำตาลละลาย ยกลงจากหม้อ ตีต่อจนส่วนผสมเป็นสีขาวนวล ทดสอบโดยวาดเนื้อเค้กด้วยตะกร้อแล้วเนื้อเค้กเป็นลาย ไม่ยุบตัว ใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตะล่อมเบาๆให้เข้ากันใส่เนย นมสดอุ่น และกลิ่นวานิลลา (โดยเทของเหลวให้กระทบกับพายยาง เพื่อไม่ให้ของเหลวไหลลงด้านล่างอ่าง ทำให้ส่วนผสมเข้ากันยาก) ตะล่อมเบาๆจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์เค้ก 2 ปอนด์ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 30 นาที จนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มแล้วไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมา นำออกจากเตาอบ คว่ำเค้กไว้บนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก พักไว้จนเค้กเย็นสนิท สไลซ์เค้กหนา 2 ซม. ใส่พิมพ์วงแหวน เตรียมไว้
3. ทำชีสเค้กโดยแช่เจลาติน ในน้ำเย็นจัดจนพองตัวและนุ่มนำ น้ำมะนาวตั้งไฟพออุ่นใส่เจลาตินแผ่นที่นุ่มแล้ว คนให้เจลาตินละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟ เทใส่ถ้วย พักไว้พออุ่น ใช้พายยางบี้ครีมชีสจนนุ่มในอ่างผสม ใส่น้ำมะนาวผสมเจลาติน ผสมให้เข้ากัน ใส่ไข่แดง น้ำตาลทรายและน้ำลงในอ่างผสมอีกใบ ยกขึ้นตีบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมมีลักษณะข้นฟูสีอ่อน ยกลงตีต่อจนส่วนผสมเย็นสนิท นำไปผสมกับครีมชีส ตะล่อมเบาๆให้เข้ากันตีวิปปิ้งครีมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วปานกลางจนข้น แบ่งวิปปิ้งครีมทีละครึ่งลงผสมกับส่วนผสมครีมชีส ตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน ใส่เหล้าเชอร์รี ผสมให้เข้ากัน
4. ประกอบเค้กโดยเทชีสเค้กใส่ในพิมพ์วงแหวนที่มีเนื้อเค้กเตรียมไว้ประมาณครึ่งหนึ่งของความสูงพิมพ์ นำเข้าตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 10 นาที จนผิวหน้าชีสเค้กเซ็ตตัวดี นำออกจากตู้เย็น วางเยลลีมิกซ์เบอร์รีตรงกลาง ราดชีสเค้กที่เหลือจนเต็มพิมพ์ ปาดให้เรียบ ตกแต่งหน้าด้วยเยลลีที่แบ่งไว้ โดยราดเยลลีเป็นเส้น แล้วใช้ไม้ปลายแหลมลากกลับไปมาเป็นแนวขวาง นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดานาน 3 ชั่วโมง ตัดเสิร์ฟเป็นชิ้น
สูตร ชีสเค้กซูเฟล่
ส่วนผสม
– มัสคาร์โพเนชีส 100 กรัม
– ครีมชีส 100 กรัม
– วิปปิ้งครีม 50 กรัม
– นมสดชนิดจืด 80 กรัม
– น้ำตาลทราย 40+40 กรัม
– แป้งข้าวโพด 15+15 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
– ไข่แดงไข่ไก่ 7 ฟอง
– ไข่ขาวไข่ไก่ 3 ฟอง
– น้ำมะนาว 8 กรัม
– ลูกเกดดำ ¼ ถ้วย
– น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า
อุปกรณ์จำเป็น: พิมพ์เค้กกลมขนาด 2 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์ ถาดและตะแกรงสำหรับอบหล่อ
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์โดยปูกระดาษไขด้านข้างและด้านล่างพิมพ์ พักไว้
2. ใส่มัสคาร์โพเนชีส ครีมชีส ในอ่างผสม ใช้พายยางบี้ให้เข้ากัน นำไปตั้งบนหม้อน้ำเดือดอ่อน พอให้ครีมชีสอ่อนตัวลง คนให้ส่วนผสมครีมชีสเข้ากัน ยกลง ใส่วิปปิ้งครีม นมสด น้ำตาล 40 กรัม แป้งข้าวโพด 15 กรัม ใช้ไม้พายบี้ให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. ใส่กลิ่นวานิลลาลงในไข่แดงใช้ตะกร้อมือตีผสมให้เข้ากัน แล้วเทไข่แดงลงในอ่างส่วนผสมชีส คนให้เข้ากัน พักไว้ (หากส่วนผสมไม่เนียนให้กรองด้วยกระชอน)
4. ทำเมอแรงก์โดยตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วปานกลางจนไข่ขาวเป็นฟองละเอียด แล้วจึงเริ่มใส่น้ำตาล 40 กรัมทีละน้อย ตีต่อจนไข่ขาวเริ่มตั้งยอดอ่อน ค่อยๆใส่แป้งข้าวโพด ตีต่อให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำมะนาว ตีต่อจนไข่ขาวฟู ตั้งยอดอ่อนและมันวาว
5. ตักเมอแรงก์ประมาณ 1/3 ส่วน ใส่ในอ่างไข่แดงที่พักไว้ ตะล่อมด้วยพายยางให้เข้ากัน แล้วจึงใส่เมอแรงก์ที่เหลือทีละส่วน ใส่ลูกเกดลงในพิมพ์ และเทชีสเค้กใส่พิมพ์ วางชีสเค้กบนตะแกรงในถาดอบที่ใส่น้ำร้อน โดยไม่ให้ด้านล่างพิมพ์สัมผัสกับน้ำโดยตรง นำเข้าอบในเตาอบไฟบนล่างที่อุ่นไว้ อบนาน 50 นาที สังเกตหน้าชีสเค้กเป็นสีน้ำตาลทองและพองขึ้น ปิดไฟเตาอบ เปิดฝาเตาอบแง้มไว้เล็กน้อยเพื่อให้อุณหภูมิในเตาอบค่อยๆ ลดลง ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง พักเค้กไว้ในเตาอบจนเย็นสนิท นำออกจากเตาอบ ถอดพิมพ์และลอกกระดาษไขออก
6. จัดเสิร์ฟโดยโรยหน้าเค้กด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ตัดชีสเค้กซูเฟลเป็นชิ้นใส่จาน
สูตร ชีสเค้กเสาวรส
ส่วนผสม
– เจลาตินชนิดแผ่น ขนาด 3×9 นิ้ว 2 แผ่น
– ไดเจสทีฟโฮลวีตบิสกิตบดละเอียด 200 กรัม
– เนยสดชนิดจืดละลาย 100 กรัม
– น้ำตาลทราย 10 กรัม
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– น้ำเสาวรส 100 กรัม
– ครีมชีสนุ่ม 250 กรัม
– น้ำตาลทราย 70 กรัม
– วิปปิ้งครีม 220 กรัม
ส่วนผสมเสาวรสเกลซ
– น้ำเสาวรส 150 กรัม
– น้ำตาลทราย 20 กรัม
– เจลาตินชนิดแผ่น ขนาด 3×9 นิ้ว1 แผ่น
วิธีทำ
1. เตรียมพิมพ์โดยห่อฐานพิมพ์ด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ด้านล่างของพิมพ์ วางลงบนถาด
2. แช่แผ่นเจลาตินในอ่างน้ำแข็งโดยแยกแช่สองอ่าง
3. ทำฐานชีสเค้กโดยปั่นไดเจสทีฟโฮลวีตบิสกิตในเครื่องปั่นอาหารให้ละเอียด เทใส่ในอ่างผสม ใส่เนยละลาย น้ำตาล และเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน กรุใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ใช้ช้อนอัดให้เรียบเสมอกัน ทำจนหมด นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็ง พักไว้
4. ผ่าเสาวรสและกรองเอาแต่น้ำ (เก็บเมล็ดไว้) ใส่น้ำเสาวรสลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางพอร้อน ปิดไฟ ใส่เจลาตินที่นุ่มแล้ว คนให้เข้ากันและเจลาตินละลาย พักไว้
5. ตีครีมชีสกับน้ำตาลในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเข้ากันดี เนื้อครีมมีลักษณะเนียน ค่อยๆใส่น้ำเสาวรสที่พักไว้ลงในอ่างครีมชีส คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน
เค้กปอนด์
เค้กปอนด์ที่หลายๆ คนนิยมทำเป็นเค้กวันเกิดหรือตามเทศกาล เลือกทำได้ตั้งแต่เค้กชิฟฟอน บัตเตอร์ สปอนจ์ ซึ่งเรามีให้เลือกมากมายหลายสูตร ตั้งแต่สูตรคลาสสิกอย่างเค้กมะพร้าวอ่อน เค้กชาเย็น สตรอว์เบอร์รีชอตเค้ก ไปจนถึงเค้กสไตล์ยุโรปอย่าง เค้กเบียร์ดำ เวลเวทเค้ก หรือเค้กในกระแสอย่างเค้กชาเขียวซอสไหลเยิ้ม (Fountain matcha cake) เหมาะทั้งกับคนชอบทำกินเล่นที่บ้านหรืออยากทำขายเป็นอาชีพก็ได้กำไรดี๊ดี
สูตร เค้กมะพร้าวอ่อน
ส่วนผสมเนื้อเค้ก
– แป้งเค้ก 120 กรัม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– นมผง 5 กรัม
– ไข่ไก่ (ฟองละ 60-65กรัม) 5 ฟอง
– น้ำมะพร้าว 60 กรัม
– น้ำตาลทราย 45+100 กรัม
– น้ำมันพืช 70 กรัม
– ครีมออฟทาร์ทาร์ ¼ ช้อนชา
ส่วนผสมไส้มะพร้าว
– น้ำมะพร้าวอ่อน 300 กรัม
– แป้งข้าวโพด 30 กรัม
– นมสดชนิดจืด 250 กรัม
– น้ำตาลทราย 50 กรัม
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– เนื้อมะพร้าวอ่อน 300 กรัม
ส่วนผสมสำหรับแต่งหน้า
– วิปปิ้งครีม 450+150 กรัม
– ทองคำเปลวสำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์: พิมพ์ 3 ปอนด์ จำนวน 3 พิมพ์ กระดาษไข ถุงบีบ หัวบีบ 10 มม. เครื่องตีเค้ก ฐานแต่งเค้ก สปาตูลา ที่ปาดเค้ก
วิธีทำ
1. ทำไส้มะพร้าวโดยแบ่งน้ำมะพร้าวประมาณ 5 ช้อนโต๊ะใส่ลงในแป้งข้าวโพด คนให้ละลายเข้ากัน ใส่น้ำมะพร้าวที่เหลือลงในหม้อ ตามด้วยนมสด น้ำตาลทราย และเกลือป่น ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด แล้วจึงใส่เนื้อมะพร้าวลงไป คนให้เข้ากัน เมื่อส่วนผสมเดือดอีกครั้งใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำ ผสมให้เข้ากัน แล้วเคี่ยวต่อจนไส้มะพร้าวข้น ปิดไฟ พักไว้ให้เย็นสนิท
2. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านล่างพิมพ์เค้กทั้ง 3 พิมพ์ เตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ และนมผง รวมกัน เตรียมไว้
3. แยกไข่ขาวไข่แดงไว้สองอ่าง ใส่น้ำมะพร้าว น้ำตาลทราย 45 กรัม และน้ำมันพืชลงในอ่างไข่แดง ใช้ตะกร้อคนเร็วๆให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกันและน้ำตาลละลายไม่เป็นเม็ด ร่อนส่วนผสมแป้งลงในอ่างไข่แดง ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน พักไว้ ในอ่างผสมอีกใบ ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าด้วยความเร็วปานกลางจนเริ่มเป็นฟองหยาบๆ ค่อยๆใส่น้ำตาลที่ผสมครีมออฟทาร์ทาร์ลงไปทีละน้อย ตีต่อจนไข่ขาวเนียนแน่นและตั้งยอดอ่อน ปิดเครื่อง
4. แบ่งไข่ขาวเป็น 3 ส่วน ทยอยผสมลงในส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน แบ่งเนื้อเค้กใส่พิมพ์ๆละ 225 กรัม เกลี่ยให้เรียบ เคาะใต้พิมพ์ไล่ฟองอากาศใหญ่ๆเบาๆ นำเข้าอบนาน 15-18 นาที นำเค้กออกจาเตา คว่ำไว้บนตะแกรง พักให้หายร้อน
5. ระหว่างนั้นตีวิปปิ้งครีมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนครีมมีลักษณะข้นฟูเหมือนซอส ตักแยกวิปปิ้งครีมตอนนี้เอาไว้ 150 กรัมเตรียมสำหรับราดหน้าให้เยิ้มตอนท้าย (ใส่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาก่อน) วิปปิ้งครีมที่เหลือในอ่างตีต่อให้ตั้งยอดอ่อนเกือบแข็ง แบ่งวิปปิ้งครีมตีฟูออกมา ⅓ ส่วนใส่ถุงบีบหัวบีบกลม เตรียมไว้สำหรับบีบระหว่างชั้นเค้ก ที่เหลือในอ่างเตรียมไว้สำหรับปาดด้านนอกเค้ก
6. ประกอบเค้กโดยวางเค้กชิ้นแรกลงบนฐานแต่งเค้ก บีบวิปปิ้งครีมในถุงบีบให้เป็นขอบบนชิ้นเค้ก ตักไส้มะพร้าวที่เย็นแล้วใส่ตรงกลาง เกลี่ยให้เรียบ วางเค้กชั้นที่สองทับ ทำเช่นเดิมคือบีบวิปปิ้งครีมรอบขอบเค้ก ตักไส้ใส่แล้ววางเค้กชิ้นสุดท้าย ปาดเค้กให้เรียบทั้งด้านบนและด้านข้างด้วยวิปปิ้งครีมที่เหลือในอ่าง นำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาให้เซ็ตตัวอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
7. นำเค้กออกมาจากตู้เย็น ราดหน้าด้วยวิปปิ้งครีม 150 กรัมที่แยกไว้ แต่งด้านบนด้วยไส้มะพร้าวที่เหลือ ตกแต่งด้วยทองคำเปลว ตัดเป็นชิ้น เสิร์ฟ
สูตร เค้กชาไทย
ส่วนผสมเนื้อเค้ก
– น้ำชา (น้ำร้อน ¼ ถ้วย+ชาไทย 3 ช้อนโต๊ะ) 50 กรัม
– แป้งเค้ก 100 กรัม
– ผงฟู ½ ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– น้ำมันถั่วเหลือง 50 กรัม
– นมข้นจืด 30 กรัม
– ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง
– น้ำตาลทราย 85 กรัม
– ไข่ขาวของไข่ไก่ 3 ฟอง
– ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืดสำหรับทาด้านในพิมพ์
ส่วนผสมหน้าครีมชาไทย
– ชาไทย 4 ช้อนโต๊ะ
– น้ำร้อน 1½ ถ้วย
– นมข้นจืด 300 กรัม
– น้ำตาลทราย 160 กรัม
– ผงวุ้น 1½ ช้อนชา
– วิปปิ้งครีมชนิดกล่อง 150 กรัม
– แป้งข้าวโพด 60 กรัม
– นมสดชนิดจืด 300 กรัม
– เนยสดชนิดจืดหั่นสี่เหลี่ยม 200 กรัม
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ เตรียมพิมพ์เค้กโดยทาเนยที่ด้านล่างของก้นพิมพ์ แล้วปูกระดาษไขให้เท่ากับก้นพิมพ์ พักไว้
2. เตรียมน้ำชาโดยนำชาไทยแช่ในน้ำร้อนจัดประมาณ 10 นาที กรองด้วยถุงชงชาเอาแต่น้ำชา พักไว้
3. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือป่น รวมกันสองรอบ พักไว้
4. ใส่น้ำชา น้ำมันถั่วเหลือง นมข้นจืด ไข่แดง และน้ำตาล 40 กรัม ในอ่างผสมตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆใส่แป้งที่ร่อนไว้ทีละน้อย คนตะล่อมด้วยตะกร้อให้เข้ากันทั่วจนหมดแป้ง ส่วนผสมจะมีลักษณะเนื้อเนียนไม่จับเป็นก้อนและขึ้นเงา
5. ตีไข่ขาวในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ ตีด้วยความเร็วต่ำเพื่อให้โฟมของไข่ขาวคงรูป ตีจนเกิดฟองละเอียดเล็กๆ ค่อยๆใส่น้ำตาลที่เหลือทีละน้อยจนหมด ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนเป็นเงา
6. ตักไข่ขาวครึ่งหนึ่งใส่อ่างผสมตะล่อมด้วยพายยางอย่างเบามือให้เข้ากันดีแล้วจึงใส่ไข่ขาวส่วนที่เหลือลงไป ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เทส่วนผสมเค้กใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบ เคาะพิมพ์ไล่อากาศ 1 ครั้ง หรือใช้ไม้แหลมคนเนื้อเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 20 นาที หรือจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้แหลมจิ้ม ถ้าไม่มีเศษเค้กติดมาแสดงว่าเค้กสุก หรือใช้นิ้วแตะ เค้กจะสปริงตัว นำออกจากเตาอบ ใช้สเปตตูล่าแซะโดยรอบเนื้อเค้ก และคว่ำเนื้อเค้กออกจากพิมพ์ทันที พักเค้กไว้บนตะแกรงจนหายร้อน
7. ทำหน้าครีมชาเย็นโดยแช่ชากับน้ำร้อนประมาณ 10 นาที กรองด้วยถุงกรองชาเอาแต่น้ำชา นำน้ำชา นมข้นจืด น้ำตาล ผงวุ้น ใส่ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง คนให้ส่วนผสมเดือด ค่อยๆใส่วิปปิ้งครีมลงไป คนให้เข้ากัน แล้วผสมแป้งข้าวโพดกับนมสด คนให้เข้ากัน พอส่วนผสมเดือด ค่อยๆเทแป้งข้าวโพดที่ผสมไว้ลงเป็นสาย ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน คนจนส่วนผสมเริ่มข้นเดือด ยกออกจากเตา ใส่เนย คนให้เข้ากัน พักไว้
8. สไลซ์เค้กแบ่งตามแนวราบออกเป็น 2 แผ่นเท่าๆกัน ปาดครีมชาเย็นที่ทำไว้ให้หนาประมาณ 1 ซม. วางแผ่นเค้กอีกแผ่นด้านบน ประกบให้เสมอกัน กดเบาๆ
9. นำครีมชาเย็นปาดด้านข้างให้เรียบนำเข้าพักในตู้เย็นช่องธรรมดาเพื่อให้ครีมที่ปาดไว้แข็งตัวประมาณ 10 นาที นำออกจากตู้เย็น วางบนตะแกรงโดยมีถาดวางรองด้านล่าง นำครีมชาเย็นที่เหลือราดลงไปบนเนื้อเค้ก เคาะตะแกรงเบาๆให้ครีมคลุมหน้าเค้กและด้านข้าง ใช้สเปตตูล่าทำลวดลายด้านบนเค้ก
สูตร สตรอว์เบอร์รีชอตเค้ก
ส่วนผสมชิฟฟ่อนเค้ก
– แป้งเค้กญี่ปุ่น 85 กรัม
– นมสดชนิดจืด 85 กรัม
– เนยสดชนิดจืด 85 กรัม
– ไข่แดงไข่ไก่ 5 ฟอง
– ไข่ขาวไข่ไก่ 6 ฟอง
– น้ำมะนาว ½ ช้อนโต๊ะ
– เกลือป่น 1 หยิบมือ
– น้ำตาลทรายละเอียด 85 กรัม
ส่วนผสมอื่น
– สตรอว์เบอร์รี 400 กรัม
– วิปปิ้งครีม 500 กรัม
– น้ำตาลทรายละเอียด 50 กรัม
อุปกรณ์ พิมพ์เค้ก 8×8 นิ้ว กระดาษไขหรือแผ่นเทฟลอนรองอบ
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขหรือแผ่นรองอบเทฟลอนด้านในพิมพ์
2. ร่อนแป้งเค้ก 1 รอบ พักไว้ ละลายนมสดและเนยจืดให้เข้ากัน พักไว้พออุ่นเล็กน้อย เทส่วนผสมนมสดอุ่นใส่ลงในอ่างไข่แดง ตีด้วยตะกร้อให้เข้ากัน (ส่วนผสมนมเนยอุ่นๆ ช่วยให้แป้งเข้ากับส่วนผสมได้ง่าย) ร่อนแป้งเค้กอีกครั้งลงในอ่างไข่แดง ใช้ตะกร้อคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ (อย่าผสมนานเกิน เนื้อเค้กจะแน่น)
3. ใส่ไข่ขาว น้ำมะนาว และเกลือลงในอ่างผสม ตีด้วยความเร็วต่ำจนไข่ขาวเริ่มเป็นฟองหยาบๆ แล้วจึงค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีต่อจนไข่ขาวมีลักษณะเป็นโฟมแน่นละเอียด ทดสอบโดยปิดเครื่องแล้วยกตะกร้อขึ้นมา ไข่ขาวที่ปลายตะกร้อหรือในอ่างผสมด้านล่างจะเป็นเกลียวยอดแหลม)
4. ตักไข่ขาว ¼ ส่วนผสมกับไข่แดง คนให้เข้ากันด้วยตะกร้ออย่างเบามือ เททั้งหมดกลับลงในอ่างไข่ขาวที่เหลือ ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากันด้วยพายยางจนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่พิมพ์ เกลี่ยหน้าเค้กให้เรียบ ใช้ไม้ปลายแหลมลากไปบนหน้าเค้กเพื่อไล่ฟองอากาศ เคาะพิมพ์กับโต๊ะ 2-3 ครั้ง เพื่อไล่ฟองอากาศรูใหญ่ๆ วางพิมพ์เค้กในถาดอบหล่อน้ำประมาณ 1 ซม. นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 55 นาที นำออกจาเตาอบ นำเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็นสนิท
5. ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลทรายจนวิปปิ้งครีมฟูตั้งยอดอ่อน พักไว้ แบ่งสตรอว์เบอร์รี 4 ลูกไว้ตกแต่งหน้าเค้ก ที่เหลือหั่นแว่นหนา 1 ซม.ตามขวาง เตรียมไว้
6. สไลซ์ผิวเค้กด้านบนที่เป็นสีน้ำตาลทิ้งไป แล้วสไลซ์แบ่งเค้กออกเป็น 3 ชั้นเท่าๆกัน วางเค้กชิ้นแรกลงบนฐานแต่งเค้ก ใช้แปรงเพสทรีจุ่มน้ำเชื่อมเหล้าทาให้ทั่วเนื้อเค้ก ตักวิปปิ้งครีมใส่ปาดให้ทั่วเค้ก วางสตรอว์เบอร์รีให้เต็มหน้าเค้ก ปาดวิปปิ้งครีมบางๆให้ทั่วสตรอว์เบอร์รี วางเค้กอีกชิ้น ทำเช่นเดียวกัน ปิดด้วยเค้กชิ้นสุดท้าย ปาดครีมให้คลุมทั่วเค้ก ใช้มีดหั่นขนมปังทำลวดลายบางๆด้านบนเค้ก นำเข้าแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วจึงตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม วางสตรอว์เบอร์รีด้านบน บีบตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมรอบๆสตรอว์เบอร์รี
Tips ทำน้ำเชื่อมเหล้าโดยใส่น้ำ 60 กรัมและน้ำตาลทราย 50 กรัมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนน้ำตาลละลาย ปิดไฟ ใส่เหล้ารัม
สูตร เค้กชาเขียวบัตเตอร์ครีม
ส่วนผสมสำหรับเนื้อเค้ก
– แป้งเค้ก 90 กรัม
– แป้งข้าวโพด 100 กรัม
– ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม) 6 ฟอง
– ไข่แดงไข่ไก่ 2 ฟอง
– น้ำตาลทราย 160 กรัม
– ผงชาเขียว 2 ช้อนชา
– ผิวเลมอนขูด ½ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืด 35 กรัม
– แยมราสป์เบอร์รี 25 กรัม
– อัลมอนด์สไลซ์อบสับหยาบ 25 กรัม
– น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรย
ส่วนผสมบัตเตอร์ครีมชาเขียว
– เนยสดชนิดจืด 165 กรัม
– ไข่ไก่ 35 กรัม
– น้ำตาลทราย 105 กรัม
– วิปปิ้งครีม 105 กรัม
– ผงชาเขียว 2 ช้อนชา
– เหล้ารัม 20 กรัม
อุปกรณ์ พิมพ์ชิฟฟอนขนาด 18 ซม.
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ทาเนยสดชนิดจืดบางๆ ให้ทั่วพิมพ์ พักไว้
2. ร่อนแป้งเค้กกับแป้งข้าวโพด 3 รอบ พักไว้ ใส่ไข่ไก่ไข่แดง น้าตาลทรายที่ผสมกับผงชาเขียว ในอ่างผสมตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเป็นสีขาวนวล ยกอ่างผสมขึ้นตั้งบนหม้อน้าเดือดอ่อนๆ ตีต่อด้วยความเร็วสูงสุดให้ส่วนผสมอุ่นและน้าตาลทรายละลาย ตีต่อจนส่วนผสมเหนียวข้น ทดสอบโดยวาดเนื้อเค้กด้วยตะกร้อแล้วเป็นลายเส้น ไม่ยุบตัว ใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน ใส่ผิวเลมอนขูด และเนยอุ่น (โดยเทของเหลวลงกระทบกับพายยางเพื่อให้ของเหลวกระจายทั่วและผสมกันได้ง่ายขึ้น) ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากัน
3. เทส่วนผสมเค้กใส่พิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 35 นาที จนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มแล้วไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมา นำเค้กออกจากเตาอบคว่ำบนตะแกรง
4. ทาบัตเตอร์ครีมชาเขียวโดยใส่เนยในอ่างผสม ตั้งไว้ที่อุณหภูมิห้องจนนุ่ม ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายด้วยเครื่องตีหัวตะกร้อความเร็วสูง ตีจนส่วนผสมเป็นสีขาวนวล ค่อยๆ ใส่เนย ตีต่อด้วยความเร็วต่าสุดเพื่อไม่ให้เนยแยกตัว ใส่วิปปิ้งครีมกับชาเขียวที่ร่อนแล้ว ให้ขึ้นฟูประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ใส่เหล้ารัม
5. ประกอบเค้กโดยสไลซ์เนื้อเค้กเป็นสามชั้นเท่าๆ กันปาดบัตเตอร์ครีมชาเขียวให้ทั่วเนื้อเค้กชั้นแรก บีบแยมราสป์เบอร์รีเป็นวงบนเนื้อเค้กชั้นที่สอง ทาบัตเตอร์ครีมชาเขียวและแยมราสป์เบอร์รี วางเนื้อเค้กชั้นสุดท้าย ปาดบัตเตอร์ครีมชาเขียวให้ทั่วทั้งก้อน โรยอัลมอนด์อบสับหยาบและน้ำตาลไอซิ่ง
สูตร เค้กเบียร์ดำ
ส่วนผสมเนื้อเค้ก
– แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
– เบกกิ้งโซดา 1½ ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืดหั่นเต๋า 250 กรัม
– เบียร์ดำ 250 กรัม
– น้ำตาลทรายขาว 150 กรัม
– น้ำตาลทรายแดง 130 กรัม
– ผงโกโก้ 70 กรัม
– ซาวร์ครีม 140 กรัม
– ไข่ไก่ 2 ฟอง
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– สตรอว์เบอร์รีหั่นครึ่งและวอลนัทสับหยาบสำหรับตกแต่ง
– น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรย
ส่วนผสมสำหรับครีมชีสช็อกโกสแลต
– เนยสดชนิดจืดหั่นเต๋า (นุ่ม) 100 กรัม
– ครีมชีสหั่นเต๋า (นุ่ม) 150 กรัม
– น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
– ดาร์กช็อกโกแลต 58% ละลาย 120 กรัม
– เบียร์ดำ 40 กรัม
อุปกรณ์ พิมพ์เค้กขนาด 3 ปอนด์ กระดาษไข เครื่องตีไข่ไฟฟ้า ตะกร้อมือ สปาตูลา
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านล่างและด้านข้างของพิมพ์ เตรียมไว้ ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ เบกกิ้งโซดา และเกลือป่น เข้าด้วยกันเตรียมไว้
2. ละลายเนยและเบียร์ดำในหม้อ บนไฟกลาง พอส่วนผสมละลายและเดือดเข้ากันดี ใส่น้ำตาลทรายทั้งสองชนิดและผงโกโก้ลงในหม้อ คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี ปิดไฟ พักให้หายร้อน
3. ตีซาวร์ครีม ไข่ไก่ และกลิ่นวานิลลาให้เข้ากันด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า พอส่วนผสมเข้ากัน ใส่ส่วนผสมที่ละลายไว้ลงในอ่าง เปลี่ยนไปใช้ตะกร้อมือคนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้ลงในอ่างผสม คนให้เข้ากันอีกครั้ง เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบ 45 นาที หรือจนกว่าเนื้อเค้กจะสุก (ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงไปตรงกลางของเนื้อเค้ก ถ้าไม่มีเศษเนื้อเค้กติดขึ้นมาแสดงว่าเนื้อเค้กสุกดีแล้ว) นำเค้กออกจากเตา ถอดออกจากพิมพ์ พักไว้บนตะแกรงให้เนื้อเค้กหายร้อน
4. ระหว่างนั้นทำครีมชีสช็อกโกแลตโดยตีเนยและครีมชีสให้เข้ากันในอ่างผสม จากนั้นค่อยๆใส่น้ำตาลไอซิ่ง ตีต่อให้เข้ากัน ใส่ดาร์กช็อกโกแลตและเบียร์ดำ ตีต่อให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 10 นาที
5. ประกอบเค้กโดยใช้มีดฟันเลื่อยสไลซ์ด้านบนส่วนโค้งออก ปาดครีมชีสช็อกโกแลตให้ทั่วหน้าเค้ก ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีหั่นครึ่งและวอลนัทสับหยาบ โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง
สูตร เค้กชาเขียวซอสไหลเยิ้ม
ส่วนผสมเนื้อเค้ก
– ไข่แดงไข่ไก่ 3 ฟอง
– น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) 50 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– นมสดชนิดจืด 100 กรัม
– น้ำมัน 40 กรัม
– แป้งเค้ก 70 กรัม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– ผงชาเขียว 10 กรัม
– ไข่ขาว 3 ฟอง
– ครีมออฟทาทาร์ ⅛ ช้อนชา
– น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) 50 กรัม
– ผงชาเขียวสำหรับโรย
ส่วนผสมซอสชาเขียว
– นมสดชนิดจืด 200 กรัม
– ผงชาเขียว 10 กรัม
– ไข่แดงไข่ไก่ 3 ฟอง
– น้ำตาลทราย 30 กรัม
– เจลาตินขนาด 7×11.5 ซม. แช่น้ำจนนุ่ม. ½ แผ่น
– ไวท์ช็อกโกแลต 50 กรัม
– วิปปิ้งครีม 200 กรัม
อุปกรณ์ กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์ พิมพ์เค้กขนาด 3 ปอนด์ พิมพ์วงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 3 เซ็นติเมตร สำหรับกดเนื้อเค้กตรงกลาง
วิธีทำ
1. ทำซอสชาเขียวโดยอุ่นนมในหม้อบนไฟกลาง พอร้อนปิดไฟ ใส่ผงชาเขียวลงในหม้อคนให้ผงชาเขียวละลายเข้ากันดี พักไว้ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ลงในหม้อนม เปิดไฟอ่อน คนส่วนผสมให้เข้ากันด้วยพายยางจนส่วนผสมข้น ใส่เจลาตินที่แช่น้ำแล้วไวท์ช็อกโกแลต คนให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากัน ปิดไฟ เทใส่อ่างผสม พักให้หายร้อน
2. ตีวิปปิ้งครีมในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนวิปปิ้งครีมข้น (ลักษณะคล้ายฟองนม ตักวิปปิ้งครีมลงผสมในอ่างซอสชาเขียวที่เย็นแล้ว ใช้พายยางตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน ปิดด้วยพลาสติกแร็ป ให้แนบไปกับหน้าซอส นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา พักไว้
3. ทำเนื้อเค้กโดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านล่างและด้านข้างของพิมพ์ จากนั้นใส่ไข่แดง น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 1) และกลิ่นวานิลลาลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือตีส่วนผสมให้เข้ากัน น้ำตาลละลายและสีไข่อ่อนลง จากนั้นใส่นมและน้ำมัน คนให้เข้ากัน ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ และผงชาเขียวลงในอ่างผสม คนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้
4. ใส่ไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์ลงในอ่างผสม ตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าด้วยความเร็วสูงจนเริ่มเป็นฟองหยาบ ค่อยๆใส่น้ำตาลทราย (ส่วนที่ 2) ทีละน้อยจนหมด ลดเป็นความเร็วปานกลาง ตีต่อจนไข่ขาวฟูแน่นและตั้งยอดอ่อน พักไว้
5. ตักไข่ขาวลงในอ่างผสมไข่แดง โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ใช้พายยางตะล่อมให้ส่วนผสมไข่ขาวกับไข่แดงเข้ากัน อย่างเบามือ ทำแบบนี้จนหมดไข่ขาว เทใส่พิมพ์ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 20 – 25 นาที เมื่อเค้กสุก คว่ำเค้กออกจากพิมพ์ลงบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก พลิกกลับด้าน ทิ้งไว้จนเย็นสนิท
6. ใช้พิมพ์วงแหวนกดเนื้อเค้กตรงกลางให้เป็นรู ราดด้วยซอสชาเขียวที่ทำไว้จนทั่วเนื้อเค้ก โรยผงชาเขียว เสิร์ฟ
สูตร เค้กคริสมาสต์เวลเวท
ส่วนผสมสำหรับเนื้อเค้ก
– แป้งเค้ก 280 กรัม
– ผงโกโก้ 25 กรัม
– เบกกิ้งโซดา 1½ ช้อนชา
– เกลือป่น ½ ช้อนชา
– บัตเตอร์มิล์ค 250 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– สีผสมอาหารชนิดน้ำสีแดง 2 ช้อนโต๊ะ
– เนยสดชนิดจืด 160 กรัม
– น้ำตาลทราย 250 กรัม
– ไข่ไก่ฟองใหญ่ 3 ฟอง
ส่วนผสมสำหรับแต่งหน้าเค้ก
– ครีมชีส 250 กรัม
– น้ำตาลไอซิ่งร่อน 280 กรัม
– วิปปิ้งครีม 100 กรัม
มัลเบอร์รีสด แครนเบอร์รีแช่แข็ง และช่อโรสแมรีสำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์: พิมพ์เค้ก 3 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านในพิมพ์ เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งเค้ก ผงโกโก้ เบกกิ้งโซดา และเกลือเข้าด้วยกัน 2 รอบ พักไว้
3. ผสมบัตเตอร์มิล์ค และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน
4. ตีเนยกับน้ำตาลด้วยเครื่องตีเค้กหัวตีใบพัดจนเนยเป็นสีขาว แล้วจึงใส่ไข่ไก่ ตีต่อจนเนียนเข้ากัน ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้สลับกับส่วนผสมบัตเตอร์มิล์ค ใส่สีผสมอาหารสีแดง ตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบ ใช้ไม้ปลายแหลมไล่ฟองอากาศ นำเข้าอบประมาณ 50-55 นาที หรือทดลองจิ้มแล้วไม่มีเนื้อเค้กเหลวๆติดขึ้นมา นำออกจากเตาอบ นำเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท
5. ทำหน้าเค้กโดยตีครีมชีส และน้ำตาลไอซิ่งด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเนียนเข้ากัน ใส่วิปปิ้งครีม ตีต่อจนส่วนผสมข้นเนียน พักไว้
6. ประกอบเค้กโดยตัดหน้าเค้กส่วนที่โค้งออก เก็บเนื้อเค้กไว้ สไลซ์เค้กเป็นสองชิ้นเท่าๆกัน ตักครีมชีสใส่บนเค้กชิ้นแรก ปาดครีมชั้นบนให้ทั่ว เว้นขอบไว้เล็กน้อย วางประกบด้วยเค้กอีกชิ้น ราดทับด้วยครีมชีสที่เหลือจนเต็มหน้าเค้ก ตกแต่งด้วยมัลเบอร์รี แครนเบอร์รีแช่แข็ง และโรสแมรี โรยตกแต่งด้วยเนื้อเค้กสีแดง
สูตร เค้กมะยงชิด
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก 120 กรัม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– ไข่แดงไข่ไก่ 4 ฟอง
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– นมสดชนิดจืด 50 กรัม
– น้ำมันพืช 80 กรัม
– น้ำตาลทราย 65+80 กรัม
– ไข่ขาว 5 ฟอง
– ครีมออฟทาร์ทาร์ ¼ ช้อนชา
– มะยงชิด 500 กรัม
– น้ำเชื่อมสำหรับทาเนื้อเค้ก ใบแก้วสำหรับตกแต่ง
ส่วนผสมสำหรับครีมโยเกิร์ต
– วิปปิ้งครีม 400 กรัม
– โยเกิร์ต (145 กรัม) 1 กระปุก
อุปกรณ์จำเป็น: พิมพ์เค้กกลมขนาด 3 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับปูถาด สปาตูลา
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ปูกระดาษไขด้านล่างและด้านข้างพิมพ์ เตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือป่นรวมกัน พักไว้ ใส่ไข่แดง กลิ่นวานิลลา นมสด น้ำมันพืช และน้ำตาล 65 กรัมลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือตีให้เนียนเข้ากัน ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป คนให้เข้ากัน
2. ตีไข่ขาวและครีมออฟทาร์ทาร์ในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเป็นฟองหยาบๆ ค่อยๆเทน้ำตาลทรายที่เหลือลงไปช้าๆจนหมด ตีต่อจนไข่ขาวเป็นฟองละเอียดและตั้งยอดอ่อน แบ่งไข่ขาวออกมา 1/3 ส่วนใส่ลงในส่วนผสมข้อ 1 ใช้ตะกร้อคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจึงใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไป ใช้พายยางตะล่อมเบาๆให้เข้ากัน เทเนื้อเค้กใส่พิมพ์เค้กที่เตรียมไว้ เกลี่ยให้เรียบ นำเข้าอบประมาณ 20-25 นาทีจนเค้กสุก นำเค้กออกจากเตา คว่ำไว้บนตะแกรง พักไว้จนเย็นสนิท
3. ระหว่างพักเค้กให้เย็น เตรียมมะยงชิดโดยล้างผลมะยงชิดให้สะอาด ซับให้แห้ง ใช้มีดขนาดเล็กหรือมีดแกะสลัก ปอกเนื้อมะยงให้แนบกับเมล็ดที่สุด แล้วสไลซ์ออกเป็นชิ้นบางๆ เรียงใส่จานพักไว้
4. ทำครีมโยเกิร์ตโดยตีวิปปิ้งครีมและโยเกิร์ตในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนตั้งยอดอ่อน สไลซ์ตัดเนื้อเค้กส่วนที่โค้งออก แล้วสไลซ์เนื้อเค้กออกเป็น 2 ชั้นเท่าๆกัน ใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อมแต้มเนื้อเค้กทั้ง 2 ชิ้นให้ทั่ว วางเค้กชิ้นแรกบนแป้นหมุน (เอาด้านที่แต้มน้ำเชื่อมขึ้นด้านบน) ตักครีมโยเกิร์ตใส่ ปาดด้วยสปาตูลาให้เรียบ เรียงเนื้อมะยงชิดให้ทั่ว ปาดครีมทับเนื้อมะยงชิดอีกที วางเค้กอีกชิ้นประกบโดยเอาด้านที่ทาน้ำเชื่อมเป็นด้านไส้เค้ก ปาดครีมด้านบนและด้านข้างเค้กจนเรียบ วางมะยงชิดด้านบนให้ทั่ว ตกแต่งด้วยใบแก้ว นำเข้าแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 2 ชั่วโมงพอให้ครีมเซ็ตตัวกับเนื้อเค้กก่อน จึงตัดเสิร์ฟเป็นชิ้น
เค้กโลฟ
เค้กเนื้อหนักเข้มข้นออกแนวโฮมเมดง่ายๆ อบใส่พิมพ์ขนมปัง (loaf) หรือพิมพ์สี่เหลี่ยม เป็นเค้กที่ทำแล้วเก็บได้นาน วิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก อาศัยการแต่งหน้าเค้กแบบมินิมอล และเป็นเค้กที่เหมาะกับเบเกอรีมือใหม่เช่นกัน
สูตร เค้กเลมอนไพน์นัท
ส่วนผสม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืด 115 กรัม
– ผิวเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
– น้ำตาลทรายละเอียด 200 กรัม
– ไข่แดงไข่ไก่ 2 ฟอง
– ไข่ไก่ 2 ฟอง
– น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
– กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
– โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
– ไพน์นัท 50 กรัม
– เนยสดชนิดจืดและแป้งเค้กเตรียมพิมพ์
– เลมอนหั่นแว่นและช่อโรสแมรีสำหรับตกแต่ง
ส่วนผสมสำหรับเลมอนเกลซ
– น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
– น้ำเลมอน 25 กรัม
– เนยสดชนิดจืดละลาย 30 กรัม
อุปกรณ์จำเป็น: พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 4.5 x 11 นิ้ว กระดาษ
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ทาเนยให้ทั่วพิมพ์ กลอกแป้งให้ทั่ว เคาะแป้งส่วนเกินออก
2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือให้เข้ากันสองรอบ พักไว้\
3. ตีเนย และผิวเลมอนด้วยเครื่องตีเค้กหัวตีใบพัดความเร็วปานกลางจนเนยเริ่มเป็นเนื้อครีมประมาณ 2 นาที ใส่น้ำตาลทรายละเอียดทีละน้อยจนหมด ตีต่ออีกประมาณ 5 นาที
4. ใส่ไข่แดง ไข่ไก่ ทีละฟอง ตีจนเข้ากัน ระหว่างนั้นผสมน้ำเลมอน กลิ่นวานิลลา และโยเกิร์ตลงในถ้วย คนให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมของแห้งในข้อ 2 สลับกับส่วนผสมโยเกิร์ตที่เตรียมไว้ ผสมให้เข้ากัน
5. เทใส่พิมพ์ เกลี่ยให้เรียบ ใช้ไม้ปลายแหลมลากวนในเนื้อเค้กเพื่อไล่ฟองอากาศหลายๆรอบ โรยหน้าเค้กด้วยไพทน์นัทครึ่งหนึ่ง นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 1 ชั่วโมงจนเค้กสุก (ถ้าหน้าเค้กเริ่มสีเข้มให้นำแผ่นอะลูมิเนียมฟอยด์ปิดหน้าไว้) นำเค้กออกจากเตาอบ นำเนื้อเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท
6.ทำเลมอนเกลซโดยผสมน้ำตาลไอซิ่ง น้ำเลมอน และเนยละลาย คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ราดเลมอนเกลซบนหน้าเค้ก โรยไพน์นัทที่เหลือ ตกแต่งด้วยชิ้นเลมอนและช่อโรสแมรี
สูตร เค้กกล้วยหอม
ส่วนผสม
– กล้วยหอมสุกปอกเปลือก (ลูกละ 125 กรัม) 2 ผล
– เนยเทียมละลาย 60 กรัม
– ไข่ไก่ 1 ฟอง
– กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
– น้ำตาลทรายขาว 45 กรัม
– น้ำตาลทรายแดง 45 กรัม
– นมสดชนิดจืด 50 กรัม
– แป้งเค้ก 120 กรัม
– เกลือป่น ¼ ช้อนชา
– เบกกิ้งโซดา ¾ ช้อนชา
– วอลนัตอบสับหยาบ 75 กรัม
– งาขี้ม่อนคั่ว 15 กรัม
– กล้วยหอมฝานตามยาวสำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์ : เครื่องตีไข่ไฟฟ้า ที่บดมันฝรั่ง กระดาษไข พิมพ์ขนมปังขนาด 4.5X8.5X3 นิ้ว
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส รอไว้ และตัดกระดาษไขปูด้านในพิมพ์ เตรียมไว้
2. ใช้ที่บดมันฝรั่งหรือส้อมบดเนื้อกล้วยให้พอละเอียดในอ่างผสม ใส่เนยเทียมละลาย ไข่ไก่ กลิ่นวานิลลา น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดง ตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนน้ำตาลละลาย ใส่นมสดชนิดจืด ผสมให้เข้ากัน ร่อนแป้งเค้ก เกลือป่นและเบกกิ้งโซดาลงไป ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากัน ใส่วอลนัตสับและงาขี้ม่อนโดยเหลือไว้เล็กน้อยสำหรับโรยหน้า ตะล่อมพอเข้ากัน เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ ประมาณ ½ ของพิมพ์ เคาะพิมพ์เล็กน้อย ตกแต่งด้วยกล้วยหอมฝาน วอลนัตและงาขี้ม่อนที่เหลือ นำเข้าอบนาน 40 นาทีจนสุก
3. นำเค้กกล้วยหอมออกจากเตาอบ ยกเนื้อเค้กออกจากพิมพ์ ลอกกระดาษไขออก พักเค้กไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท ตัดเป็นชิ้นก่อนเสิร์ฟ
เค้กอื่นๆ
นอกจากนี้เรายังมีเค้กอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น เค้กบ๊อกซ์ ทำใส่กล่องแบบกินต่อคน เค้ก vintage อย่างเค้กอัพไซด์ดาวน์สับปะรด และเค้กช็อกโกแลตอย่างง่ายที่วิธีทำแสนจะง่ายสมชื่อ
สูตร เค้กอัพไซด์ดาวน์สับปะรด
ส่วนผสม
– แป้งเค้ก225 กรัม
– ผงฟู3 1/4 ช้อนชา
– เกลือป่น1/4 + 1/8 ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืด120 กรัม
– น้ำตาลทราย150 กรัม
– ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม)3 ฟอง
– กลิ่นวานิลลา2 ช้อนชา
– น้ำเชื่อมจากสับปะรดกระป๋อง180 กรัม
ส่วนผสมสำหรับหน้าเค้ก
– สับปะรดแว่นในน้ำเชื่อม (565 กรัม/กระป๋อง) 1 กระป๋อง
– เชอร์รีแดงในน้ำเชื่อม 9 ลูก
– เนยสดชนิดจืด 30 กรัม
– น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
– พีแคนอบ 8 เม็ด
อุปกรณ์ พิมพ์เค้กสี่เหลี่ยนมขนาด 8×8 นิ้ว
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ เปิดกระป๋องสับปะรด กรองแยกน้ำเชื่อมและเนื้อสับปะรดไว้ ซับชิ้นสับปะรดทุกชิ้นให้แห้งสนิท ส่วนเชอร์รีก็ซับน้ำเชื่อมแดงออกเช่นกัน เตรียมไว้
2. เตรียมพิมพ์เค้กโดยแบ่งเนยส่วนหน้าเค้กมาทาด้านล่างพิมพ์ให้ทั่ว พักไว้ ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่เนยที่เหลือลงในกระทะ พอเนยละลาย โปรยน้ำตาลทรายแดงลงในกระทะให้ทั่ว พอน้ำตาลส่วนใหญ่ละลาย เกลี่ยน้ำตาลให้ทั่วกระทะ
3. วางสับปะรดให้ทั่วกระทะ ใช้พายยางหรือตะหลิวกดให้สับปะรดนาบกับกระทะ ทอดพอให้เหลืองทอง แล้วพลิกสับปะรดกลับด้าน ทำเช่นเดียวกันกับอีกด้าน ตักชิ้นสับปะรดขึ้นพักบนจาน สังเกตว่าน้ำตาลในกระทะจะเริ่มแห้งหรือตกทราย ให้เติมน้ำเเชื่อมจากกระป๋องสับปะรดประมาณ 2-3 ช้อนชา เพื่อเคี่ยวให้น้ำตาลกลับมาละลายเป็นคาราเมลเหลวเหมือนเดิม เคี่ยวพอข้น ปิดไฟ เทคาราเมลลงในพิมพ์ที่ทาเนยไว้ กลอกให้คาราเมลเคลือบด้านล่างพิมพ์จนเต็ม วางเรียงสับปะรดให้เต็มด้านล่างพิมพ์ วางเชอร์รีตามรูตรงกลางของสับปะรด วางพีแคนระหว่างช่องว่างชิ้นสับปะรด พักไว้
4. ทำเนื้อเค้กโดยร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือป่นเข้าด้วยกัน 2 รอบ ตีเนยกับน้ำตาลในอ่างผสมประมาณ 2 นาทีจนสีอ่อนลง ค่อยๆใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ตีต่อจนเข้ากัน ใส่กลิ่นวานิลลา แบ่งใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้สลับกับน้ำเชื่อมสับปะรด ตีด้วยความเร็วต่ำให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่พิมพ์ที่วางด้วยสับปะรดไว้แล้ว นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 30 นาทีจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มแล้วไม่มีเนื้อเค้กเหลวๆติดขึ้นมา นำออกจากเตาอบ พักไว้บนตะแกรงประมาณ 10 นาที แล้วจึงใช้มีดแซะเนื้อเค้กด้านข้างให้ร่อน คว่ำเค้กออกจากพิมพ์
5. เสิร์ฟเค้กอัพไซด์ดาวน์สับปะรดอุ่นๆกับชาหรือกาแฟ
สูตร เค้กช็อกโกแลตอย่างง่าย
ส่วนผสมสำรับเค้กช็อกโกแลต
– เนยสดชนิดจืด 113 กรัม
– น้ำ 120 กรัม
– น้ำมันพืช 17 กรัม
– ผงโกโก้ 17 กรัม
– แป้งเค้ก 115 กรัม
– น้ำตาลทราย 190 กรัม
– เบกกิ้งโซดา 4 กรัม
– เกลือป่น 2 กรัม
– ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม) 1 ฟอง
– บัตเตอร์มิลค์ 60 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– อัลมอนด์สับหยาบอบ 20 กรัม
ส่วนผสมสำหรับฟรอสติ้งช็อกโกแลต
– เนยสดชนิดจืด 57 กรัม
– ผงโกโก้ 12 กรัม
– นมสดชนิดจืด 40 กรัม
– กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
– น้ำตาลไอซิ่งร่อน 130 กรัม
อุปกรณ์ พิมพ์ขนาด 7×7 นิ้ว จำนวน 2 พิมพ์กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ปูกระดาษไขด้านในพิมพ์ เตรียมไว้
2. ทำเค้กช็อกโกแลตโดยใส่เนย น้ำ และน้ำมัน ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเนยละลาย ใส่ผงโกโก้ ใช้ตะกร้อคนให้ผงโกโก้ละลาย พักไว้ให้เดือดประมาณ 30 วินาที ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น ร่อนแป้งเค้ก น้ำตาล เบกกิ้งโซดา และเกลือ ลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อคน 2-3 ครั้ง ให้เข้ากัน เกลี่ยแป้งเป็นหลุมตรงกลาง เทส่วนผสมโกโก้ที่เย็นแล้วลงไป คนด้วยตะกร้อให้เข้ากัน ผสมไข่ไก่ คนส่วนผสมจนเนียน ใส่บัตเตอร์มิลค์ และกลิ่นวานิลลา ในอ่างผสมอีกใบ คนให้เข้ากัน แล้วเทลงในส่วนผสมแป้ง ใช้พายยางคนให้เข้ากัน แบ่งใส่พิมพ์เท่าๆ กันนำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 25 นาที
3. ระหว่างอบเค้ก ทำฟรอสติ้งช็อกโกแลตโดยใส่เนยลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง พอเนยละลาย ใส่ผงโกโก้ ใช้ตะกร้อคนให้ละลาย เป็นเนื้อเดียวกัน พอเดือด ปิดไฟ ยกออกจากเตา ใส่นมสด กลิ่นวานิลลา และน้ำตาลไอซิ่ง ทีละน้อยจนหมด คนให้เข้ากัน พักไว้ เมื่อเค้กสุก นำออกจากพิมพ์ พักเค้กไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท ราดฟรอสติ้งช็อกโกแลต โรยอัลมอนด์สับ เมื่อหน้าเค้กเซตตัว ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมตามต้องการ
สูตร เค้กเเครอท
ส่วนผสมสำหรับเค้กแครอท
– ไข่ไก่ 4 ฟอง
– กลิ่นวานิลลา 1 กรัม
– น้ำตาลทรายขาว 250 กรัม
– น้ำมันรำข้าว 200 กรัม
– แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
– อบเชยป่น 2 ช้อนชา
– ลูกจันทน์ป่น 1 ช้อนชา
– เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
– เกลือป่น ½ ช้อนชา
– ผิวเลมอน 1 ช้อนชา
– ลูกเกดสีทองแช่น้ำสับหยาบ 60 กรัม
– วอลนัทอบสับหยาบ 100 กรัม
– แครอทปั่นหยาบ 350 กรัม
– วอลนัทสับหยาบและใบไธม์สำหรับตกแต่ง
ส่วนผสมสำหรับครีมชีสฟรอสติ้ง
– ครีมชีส 250 กรัม
– เนยสดรสจืด 50 กรัม
– น้ำตาลไอซิ่ง 125 กรัม
– น้ำเลมอน 2 ช้อนชา
อุปกรณ์: เครื่องตีไข่ไฟฟ้า พิมพ์เค้กขนาด 8×8 นิ้ว กระดาษไข ตะแกรงพักเค้ก มีดฟันเลื่อย สปาตูลา ที่ปาดหน้าเค้ก ถุงบีบ หัวบีบกลมขนาด 12 มม.
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ เตรียมพิมพ์โดยทาเนยที่ก้นพิมพ์แล้วปูกระดาษไขให้เข้ากับก้นพิมพ์ พักไว้
2. ตีไข่ไก่และกลิ่นวานิลลาด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าหัวตะกร้อ ตีด้วยความเร็วปานกลาง จากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายทีละน้อยจนหมด ตีนานประมาณ 5-6 นาทีจนไข่ไก่ฟู เทน้ำมันรำข้าวลงไปอย่างช้าๆ ลดความเร็วเครื่องเป็นความเร็วต่ำ
3. ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ อบเชยป่น ลูกจันทน์ป่น เบกกิ้งโซดา เกลือป่น ลงในอ่างผสม ใส่ผิวเลมอน ลูกเกด วอลนัทสับ และแครอท ใช้พายยางค่อยๆ ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือจนเข้ากันดี เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบ อบนาน 45-50 นาที หรือ จนกว่าเค้กจะสุก
4. นำเค้กออกจากเตา ประกบด้วยกตะแกรง คว่ำเค้กออกจากพิมพ์ ลอกกระดาษไขออก วางพักไว้บนตะแกรงจนเค้กเย็น
5. ทำครีมชีสฟรอสติ้งโดยนำครีมและเนยสดทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ตีครีมชีสและเนยด้วยเครื่องผสม ตีด้วยความเร็วต่ำ ตีจนครีมชีสเนื้อเนียน จึงค่อยๆใส่น้ำตาลไอซิ่งทีละน้อยจนหมด จากนั้นใส่เนย ตีให้เข้ากันจากนั้นใส่เลมอน ตีต่อจนเนื้อเนียนเข้ากันดี ใช้พายยางตะล่อมให้เข้ากัน ตักครีมชีสฟรอสติ้งใส่ถุงบีบหัวบีบกลมขนาด 12 มม. พักไว้
6. ตัดแต่งหน้าเค้กให้เรียบโดยโดยใช้มีดฟันเลื่อยสไลซ์หน้าเค้กส่วนโค้งด้านบนและด้านข้างออก ตัดแบ่งชิ้นสี่เหลี่ยม 8 ชิ้นเท่าๆกัน บีบครีมชีสฟรอสติ้งตกแต่งหน้า โรยด้วยวอลนัทและใบไธม์เสิร์ฟ
สูตร เค้กมะม่วงโยเกิร์ต
ส่วนผสมสำหรับเค้ก
– แป้งเค้ก 70 กรัม
– ผงฟู ½ ช้อนชา
– ไข่ไก่แยกไข่แดงไข่ขาว 3 ฟอง
– น้ำตาลทราย 20+40 กรัม
– น้ำมันพืช 30 กรัม
– นมสดชนิดจืด 40 กรัม
– กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
– มะม่วงน้ำดอกไม้สุก3 ลูก
– น้ำเชื่อมสำหรับทาเนื้อเค้ก
– มะม่วงน้ำดอกไม้สุกหั่นสไลซ์และใบเล็บครุฑสำหรับแต่งหน้าเค้ก
ส่วนผสมสำหรับครีมโยเกิร์ต
– วิปปิ้งครีม 200 กรัม
– โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 60 กรัม
– น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม
อุปกรณ์จำเป็น: ถาดอบขนาด 26×26 ซม. เครื่องตีไข่ไฟฟ้า ถุงบีบหัวบีบกลมขนาด 1.5 ซม. กล่องพลาสติกขนาด 9x12x9 ซม. แปรงสำหรับทาน้ำเชื่อม
วิธีทำ
1. ทำเค้กโดยอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขด้านในถาดอบ แล้วร่อนแป้งเค้ก ผงฟูเข้าด้วยกัน พักไว้
2. ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย 20 กรัมด้วยตะกร้อจนเข้ากัน ใส่น้ำมัน นมสดและกลิ่นวานิลลา ตีให้เข้ากันอีกครั้ง ใส่แป้งเค้กที่ร่อนไว้ลงไป ใช้ตะกร้อคนเบาๆให้เข้ากัน
3. ตีไข่ขาวในอ่างผสมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้า ค่อยๆใส่น้ำตาลทรายที่เหลือทีละน้อยจนหมด ตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อนและมันวาว แบ่งไข่ขาว 1/3 ส่วนลงตะล่อมกับส่วนผสมไข่แดงจนเข้ากัน แล้วจึงใส่ไข่ขาวที่เหลือทั้งหมด ตะล่อมจนเป็นเนื้อเดียวกัน เทเค้กลงในถาดอบ เกลี่ยให้เรียบเสมอกัน นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 12 นาทีหรือจนเค้กสุก ทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มแล้วไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมา นำเค้กออกจากเตาอบ คว่ำลงบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก พักไว้จนเย็นสนิทแล้วตัดเค้กให้ได้ขนาดเล็กกว่าด้านล่างกล่องพลาสติกเล็กน้อย จำนวน 6 ชิ้น
4. ทำครีมโยเกิร์ตโดยใส่วิปปิ้งครีม โยเกิร์ตและน้ำตาลไอซิ่งลงในชามผสม ตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนขึ้นฟู ตักใส่ถุงบีบรอไว้
5. ประกอบเค้กโดยวางเนื้อเค้กชั้นที่ 1 ลงด้านล่างกล่อง ใช้แปรงจุ่มน้ำเชื่อมทาเนื้อเค้กพอฉ่ำ วางเรียงมะม่วงหั่นแท่งรอบกล่องด้านในและใส่เนื้อมะม่วงหั่นเต๋าตรงกลาง บีบครีมโยเกิร์ตจนเต็ม วางเนื้อเค้กชั้นที่ 2 ทาน้ำเชื่อมบนเค้ก วางเนื้อมะม่วงอีกเช่นเดิม แล้วบีบครีมโยเกิร์ตที่เหลือบนหน้าเค้ก ตกแต่งด้านบนด้วยมะม่วงสไลซ์และใบเล็บครุฑ
สูตร เค้กเบอร์เบินวอลนัท
ส่วนผสมสำหรับเค้ก
– แป้งเค้ก 330 กรัม
– ผงฟู 1 ช้อนชา
– เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
– เกลือป่น 1 ช้อนชา
– เนยสดชนิดจืด 225 กรัม
– น้ำตาลทราย 260 กรัม
– น้ำตาลทรายแดงร่อน 70 กรัม
– ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม) 4 ฟอง
– เบอร์เบิน (Bourbon) 60 กรัม
– บัตเตอร์มิลก์ 200 กรัม
– วอลนัตสับหยาบอบ 50 กรัม
ส่วนผสมสำหรับหน้าน้ำตาลเบอร์เบิน
– เนยสดชนิดจืด 90 กรัม
– น้ำตาลทราย 150 กรัม
– เบอร์เบิน 60 กรัม
วิธีทำ
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือป่นให้เข้ากัน เตรียมไว้ ตีเนยและน้ำตาลทรายด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าในอ่างผสมประมาณ 2 นาที ใส่น้ำตาลทรายแดง ตีต่อจนเนยเริ่มนุ่มและสีอ่อนลง ใส่ไข่ไก่ ตีจนเป็นเนื้อเดียวกัน ผสมเบอร์เบินและบัตเตอร์มิลก์เข้าด้วยกัน ใส่ลงในส่วนผสมเค้ก ตีต่อให้เข้ากัน ใส่แป้งเค้กที่ร่อนไว้ ใช้พายยางคนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถุงบีบ เตรียมไว้
2. บีบเนื้อเค้กใส่พิมพ์ประมาณ ½ ของความสูงพิมพ์ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 15-20 นาที
3. ทำหน้าน้ำตาลเบอร์เบินโดยใส่เนย น้ำตาล และเบอร์เบิน ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง รอจนน้ำตาลละลายหมดและส่วนผสมข้นขึ้นเล็กน้อย ปิดไฟ
4. นำเค้กออกจากเตาอบ คว่ำเค้กออกจากพิมพ์ทันที จัดใส่จาน ราดน้ำตาลเบอร์เบิน โรยวอลนัตอบรับประทานอุ่นๆ
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos