จับกล้วยงอมหง่อมมาทำเค้กกล้วยหอมวอลนัทหวานหอมธรรมชาติ
ในยุคที่เราต้องประหยัดมัธยัสถ์ อะไรๆ ก็ควรถูกใช้ให้คุ้มค่าราคา ยกตัวอย่างเช่นผลไม้ในวันนี้ กล้วยหอม กล้วยหอมหง่อมๆ ดำๆ เพราะซื้อมาแล้วกินไม่ทัน ปกติจะถูกมองข้ามและโยนลงขยะไปทันที ที่ไหนได้ใครจะรู้ว่ากล้วยหอมดำดับอนาถนี่แหละ เป็นวัตถุดิบชั้นดีในการทำเบเกอรีรสกล้วยทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเค้ก แพนเค้ก มัฟฟิน ฯลฯ เพราะกล้วยสุกหง่อมจะมีรสหวานธรรมชาติ แถมให้กลิ่นกล้วยที่ชัดเจนเวลานำมาทำขนม
เรามีวิธีเก็บกล้วยหอมที่สุกจัดไว้ทำขนมโดยเก็บกล้วยหอมใส่กล่องหรือถุงซิปล็อกเข้าตู้เย็นช่องแช่แข็งเอาไว้ ใครจะทำให้สะดวกต่อการใช้งานกว่านั้นก็คือ ปอกเปลือกกล้วยหอมไว้ก่อนนำไปแช่แข็งก็ได้
วันนี้มีสูตรเค้กกล้วยหอมวอลนัท มาแจก ใช้กล้วยหอมแช่แข็งที่เราเก็บไว้นี่แหละมาทำ ขั้นตอนเริ่มจากนำกล้วยหอมแช่แข็งออกมาทิ้งไว้ให้คลายตัวนอกตู้เย็นเล็กน้อย ย้ำว่าเล็กน้อย! เพราะถ้าทิ้งไว้นานเกินมันจะนิ่มเละและปอกเปลือกยาก ทิ้งไว้แค่พอให้เปลือกล่อนออกจากเนื้อจะได้ปอกง่ายๆ เท่านั้นเอง หั่นกล้วยหอมลงโถปั่น ตามด้วยซาวร์ครีม ปั่นสองอย่างนี้ให้ละเอียดเข้ากัน
ระหว่างนั้นสับวอลนัทที่อบแล้วให้พอหยาบ ร่อนแป้งเค้ก เบกกิ้งโซดา เกลือ และอบเชยป่นให้เข้ากัน ตีเนยกับน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดงจนฟู (น้ำตาลทรายแดงร่อนให้ละเอียดก่อน)
ต่อยไข่ไก่ใส่ลงไป เหยาะกลิ่นวานิลลาตามลงไป ตีให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนไว้สลับกับกล้วยปั่น (แบ่งใส่แป้งสามส่วนสลับกับกล้วยปั่น 2 ส่วน) ผสมด้วยความเร็วต่ำสุดของเครื่องตีเพื่อไม่ให้เนื้อเค้กแน่นเหนียว
ใส่วอลนัทสับ ตะล่อมให้เข้ากันด้วยพายยาง ตักเนื้อเค้กใส่พิมพ์ให้เท่าๆ กัน ประมาณ ¾ ของพิมพ์ กล้วยหอมหั่นครึ่งตามยาว (อันนี้ต้องค่อยๆ ฝานอย่างเบามือ เนื่องจากเป็นกล้วยหอมแช่แข็งที่ค่อนข้างเละ) วางหน้าเนื้อเค้ก
อบนาน 40-50 นาที หากหน้าเค้กสีสวยได้ที่แต่ด้านในยังไม่สุก ให้อบต่อแต่เอาแผ่นฟอยล์ปิดด้านบน (ทดสอบเค้กสุกหรือไม่โดยใช้ไม้จิ้มแล้วไม่มีเนื้อเค้กเหลวๆ ติดขึ้นมา) นำเค้กออกจากเตา ยกเค้กทั้งกระดาษไขออกจากพิมพ์ พักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท
เค้กกล้วยหอมสูตรนี้กินอุ่นๆ กับชาหรือกาแฟยิ่งอร่อย เพราะรสหวานกำลังพอดี ได้กลิ่นหอมมันของกล้วยหอมและวอลนัทแสนเข้ากั๊น…เข้ากัน รู้แล้วครั้งหน้าก็อย่าเผลอทิ้งขว้างกล้วยหอมดำๆ ล่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos