เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2 - 3 คน
Level
2
เห็ดแครงถือเป็นเห็ดพื้นบ้านของคนใต้ เนื้อเห็ดมีความหวาน หอม มักนิยมนำมาแกงใส่กะทิน้ำขลุกขลิกเล็กน้อย อย่างเมนูนี้ ก็นำมาทำเป็นแกงคั่วเห็ดแครงใส่ปลาย่าง แต่โดยส่วนมากปลาย่างมักใช่ปลาโอในการนำมาย่าง เพราะเนื้อปลาเยอะ แต่ลองเปลี่ยนจากปลาโอมาเป็นปลาอินทรีย์ย่าง รสชาติไม่ต่างกัน ได้เนื้อเยอะเหมือนกัน เนื้อปลาก็ไม่เละ เห็ดแครงนั้นเวลานำมาแกง มักจะเคี่ยวเห็ดแครงกับเครื่องแกงและน้ำกะทิให้เครื่องแกงงวดได้ที่ เห็ดแครงจะดูดเอาเครื่องแกงเข้าไปอยู่ภายในเนื้อเห็ด ทำให้ได้รสชาติเครื่องแกงที่ทั่วถึง ใส่ใบมะกรูดสักหน่อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
INGREDIENTS
น้ำมันพืช
3 ช้อนโต๊ะ
พริกแกงคั่ว
1/3 ถ้วย
หางกะทิ
1 ถ้วย
เห็ดแครง
100 กรัม
พริกจินดาหั่นแฉลบ
¼ ถ้วย
ใบมะกรูดฉีก
2 ใบ
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลมะพร้าว
1 ½ ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ
½ ถ้วย
เนื้อปลาอินทรีย์ย่าง
150 กรัม
ข้าวสวยสำหรับจัดเสิร์ฟ
พริกขี้หนูแห้ง
10 เม็ด
พริกจินดาซอย
5 เม็ด
พริกขี้หนูสวน
15 เม็ด
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย
2 ช้อนโต๊ะ
ข่าสับละเอียด
1 ช้อนโต๊ะ
ขมิ้นสดหั่นแว่น
2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงหั่นแว่น
4 หัว
กระเทียมไทย
10 เม็ด
กะปิ
1 ช้อนชา
METHOD
1. ทำพริกแกงคั่วโดยโขลกพริกขี้หนูแห้ง พริกจินดา พริกขี้หนูสวน และเกลือป่น เข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ตะไคร้ ข่า ขมิ้น หอมแดง และกระเทียม โขลกต่อจนละเอียดดี จากนั้นใส่กะปิ โขลกรวมกันอีกครั้ง ให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ล้างเห็ดแครงให้สะอาด โดยเปิดน้ำให้ไหลผ่าน ประมาณ 3 – 4 ครั้ง เพื่อเอาทรายออกจนหมด ใส่ตะแกรง พักให้สะเด็ดน้ำ
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง พอร้อนใส่เครื่องแกงคั่วลงผัดในกระทะให้หอม จากนั้นใส่หางกะทิ ½ ถ้วย ลงผัดในกระทะ ใส่เห็ดแครงลงผัดในกระทะให้ส่วนผสมเครื่องแกงกับเห็ดเข้ากันและน้ำงวด จากนั้นใส่เนื้อปลาย่าง ตามด้วยพริกจินดาและใบมะกรูก ผัดให้เข้ากัน ใส่หางกะทิที่เหลือและหัวกะทิ ลงผัดในกระทะให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้
4. ตักแกงคั่วเห็ดแครงปลาย่าง ใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย
อ่านบทความเพิ่มเติม
Gallery
Tags:
กับข้าว, ปลาย่าง, ผักพื้นบ้าน, ภาคใต้, อาหารใต้, เครื่องแกงใต้, เมนูผักพื้นบ้าน, เห็ดแครง, แกงกะทิ, แกงใต้, แกงไทย
Recommended Articles
บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
เนื้อติดมันคั่วตะไคร้จานนี้ ใช้เนื้อส่วน 'เสือร้องไห้' หรือส่วนท้องซึ่งมีไขมันต่อเนื้อในสัดส่วน 30:70 ทำให้เวลาเรานำมาสับและคั่วให้สุก เนื้อจะฉ่ำไม่แห้งแถมไขมันวัวเมื่อเจอกับกลิ่นตะไคร้ยิ่งเสริมกันให้หอมสุดๆ ใครชอบกินเนื้อ แนะนำเมนูนี้เลย ยิ่งกินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆรับรองหยุดไม่อยู่
บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
เนื้อติดมันคั่วตะไคร้จานนี้ ใช้เนื้อส่วน 'เสือร้องไห้' หรือส่วนท้องซึ่งมีไขมันต่อเนื้อในสัดส่วน 30:70 ทำให้เวลาเรานำมาสับและคั่วให้สุก เนื้อจะฉ่ำไม่แห้งแถมไขมันวัวเมื่อเจอกับกลิ่นตะไคร้ยิ่งเสริมกันให้หอมสุดๆ ใครชอบกินเนื้อ แนะนำเมนูนี้เลย ยิ่งกินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆรับรองหยุดไม่อยู่
บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
เนื้อปลากระพงขาวๆนำไปคลุกกับแป้งที่ผสมเกลือและพริกไทยดำเล็กน้อย นำไปทอดให้เหลืองกรอบแล้วค่อยมาคลุกเคล้ากับซอสพริกไทยดำให้ตัวซอสเคลือบชิ้นเนื้อปลาให้ทั่ว เสิร์ฟคู่มากับตัวผักจินจูฉ่ายที่ผัดปรุงรสกับซีอิ๊วและเกลือเล็กน้อย จะกินคู่กับข้าวสวยก็ได้ข้าวต้มร้อนๆก็ดีเช่นกัน
เนื้อติดมันคั่วตะไคร้จานนี้ ใช้เนื้อส่วน 'เสือร้องไห้' หรือส่วนท้องซึ่งมีไขมันต่อเนื้อในสัดส่วน 30:70 ทำให้เวลาเรานำมาสับและคั่วให้สุก เนื้อจะฉ่ำไม่แห้งแถมไขมันวัวเมื่อเจอกับกลิ่นตะไคร้ยิ่งเสริมกันให้หอมสุดๆ ใครชอบกินเนื้อ แนะนำเมนูนี้เลย ยิ่งกินกับข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆรับรองหยุดไม่อยู่
Recommended Videos