เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
8 แผ่น
Level
4
วาฟเฟิล ขนมเนื้อฟูนุ่ม คล้ายรังผึ้ง เกิดจากรอยพิมพ์ที่ทำขนม วาฟเฟิลยังเป็นขนมขึ้นชื่อของเบลเยียมอีกด้วย สูตรในเล่มนี้ปรับให้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องหมักแป้งทิ้งไว้นานแต่ก็ได้ขนมเนื้อหนานุ่มเช่นกัน
INGREDIENTS
แป้งสาลีอเนกประสงค์ร่อน
200 กรัม
ผงฟู
1½ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น
½ ช้อนชา
นํ้าตาลทรายขาว
15 กรัม
ไข่แดงไข่ไก่ (3 ฟอง)
60 กรัม
นมสดชนิดจืด
160 กรัม
เนยสดชนิดจืดละลาย
30 กรัม
กลิ่นวานิลลา
½ ช้อนชา
ไข่ขาวไข่ไก่ (3 ฟอง)
100 กรัม
วิปปิ้งครีม
สตรอว์เบอร์รี
แบล็กเบอร์รี
ใบสะระแหน่
ไอศกรีมรสวานิลลา
พิสตาชิโอบดหยาบ
อุปกรณ์ เครื่องทำวาฟเฟิล
METHOD
1. ทำแป้งวาฟเฟิลโดยร่อนแป้งสาลี ผงฟู และเกลือเข้าด้วยกันในอ่างผสมขนาดกลาง พักไว้
2. เตรียมภาชนะอีกใบ ผสมนํ้าตาลกับไข่แดง ตีให้เข้ากันด้วยตะกร้อ พักไว้
3. ผสมนมสด เนยละลาย และกลิ่นวานิลลา ในอ่างผสม พักไว้ นำส่วนผสมของไข่แดงเทลงผสมกับส่วนผสม ของนม คนให้เข้ากัน จากนั้นเทลงในอ่างผสมของแป้งที่ร่อนไว้ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อ ปิดหน้าอ่างผสมด้วยพลาสติกแรป พักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ถึง 1 คืน
4. นำอ่างผสมออกจากตู้เย็น พักไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 10 นาที คนด้วยตะกร้อให้ส่วนผสมไม่จับตัวเป็นก้อน ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูในอ่างผสม จนกระทั่งไข่ขาวตั้งยอดอ่อน เทไข่ขาวลงในส่วนผสมแป้งและนม ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากันด้วยไม้พาย เทส่วนผสมใส่พิมพ์เครื่องทำวาฟเฟิลอบให้สุก
5. เสิร์ฟวาฟเฟิลโดยท็อปปิ้งด้วยวิปปิ้งครีมที่ตีจนตั้งยอด สตรอว์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี ใบสะระแหน่ ไอศกรีม วานิลลา โรยหน้าด้วยพิสตาชิโอบดหยาบ
สูตรอาหารโดย ภาสกร หลี
Gallery










Recommended Articles

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

รสชาติที่ลงตัวของเครมบรูเลผสานความหวานมันของมันหวานญี่ปุ่นสายพันธุ์เบนิ-เทนชิ เนื้อครีมเนียนนุ่มละลายในปากที่เข้ากันกับความหวานของมันญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เผาหน้าด้วยน้ำตาลจนเป็นคาราเมลกรอบกรุบ หอมหวานมันรสชาติลงตัวเข้ากันมาก เหมาะสำหรับเป็นของหวานปิดท้ายมื้ออาหารหรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มก็อร่อยไม่แพ้กัน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว
Recommended Videos