เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4 คน
Level
3
ไก่ทันดูรี (Tandoori chicken) เป็นอาหารอินเดียที่ค่อนข้างได้รับความนิยม โดยนำไก่มาหมักกับเครื่องเทศ มาซาลา และนมเปรี้ยว(โยเกิร์ต) นำไปย่างจนสุก เนื้อไก่มีรสชาติเปรี้ยวเผ็ดร้อนจากพริกและเครื่องเทศ
INGREDIENTS
สะโพกไก่ลอกหนัง
2 ชิ้น
น่องไก่ลอกหนัง
2 ชิ้น
อกไก่ลอกหนัง
2 ชิ้น
น้ำมะนาว
1/4 ถ้วย
เกลือสมุทร
1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ผงขมิ้น
1 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับละเอียด
1 หัว
พริกชี้ฟ้าสีเขียวเอาไส้ออกสับ
3 เม้ด
ผักชีสับละเอียด
1/4 ถ้วย
กระเทียมกลีบใหญ่สับละเอียด
4 กลีบ
ขิงแก่สับละเอียด
1 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าแห้งโขลก
2 เม็ด
ลูกผักชีคั่วบด
2 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วบด
1 ช้อนชา
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
1/2 ถ้วย
ซอสมะเขือเทศ
1/4 ถ้วย
น้ำมันพืช
2 ช้อนโต๊ะ
ผงปาปริก้า
2 ช้อนโต๊ะ
Galam masala
2 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืดละลายสำหรับทา
น้ำตาลทรายขาว
4 ช้อนชา
น้ำเลมอน
1/4 ถ้วย
หอมแขกซอย
2 หัว
พริกขี้ฟ้าสีเขียวสับหยาบ
2 เม็ด
ขิงอ่อนซอย
1/4 ถ้วย
METHOD
1. ล้างเนื้อไก่ให้สะอาด ซับให้แห้งใช้ส้อมจิ้มไก่จนทั่วทั้ง 2 ด้าน ใช้มีดบั้งเนื้อไก่จนทั่ว ใส่ลงในอ่างผสม ใส่น้ำมะนาว เกลือ และผงขมิ้น ทาให้ทั่วเนื้อไก่ หมักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดานาน 1 ชั่วโมง
2. ใส่หอมใหญ่ พริกชี้ฟ้าสีเขียว ผักชี กระเทียม ขิงแก่ และพริกชี้ฟ้าแห้ง ลงในโถปั่น ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด ใส่ลงในอ่างผสม ใส่ลูกผักชีคั่ว ยี่หร่าคั่ว โยเกิร์ต ซอสมะเขือเทศ น้ำมันพืช ผงปาปริก้า และ Galam masala คนพอทั่ว ใส่เนื้อไก่หมัก ใช้มือคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาให้สนิท แช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา นานประมาณ 12 ชั่วโมง (เพื่อให้เนื้อไก่นุ่มและเครื่องหมักซึมเข้าเนื้อไก่)
3. นำเนื้อไก่ออกมาคายความเย็น จุดเตาถ่านโดยใช้ถ่านไม้อย่างดี รอให้ถ่านลุกติดไฟจนทั่ว โรยกลบด้วยขี้เถ้า แล้วเกลี่ยถ่านเพื่อให้ระดับความร้อนเท่ากันทั่วทั้งเตา วางตะแกรงย่างลงบนเตา รอให้ตะแกรงย่างร้อน วางไก่ส่วนที่ติดกระดูกลงบนตะแกรงย่าง ให้ส่วนที่ติดหนังอยู่ด้านบน ย่างด้วยไฟอ่อน (ถ้าไฟแรงเกินให้ใช้ขี้เถ้ากลบ) ระหว่างย่างคอยพลิกกลับด้านทุกครั้งเมื่อเนื้อไก่เริ่มแห้ง ใช้แปรงชุบเนยละลายทาพอทั่วเนื้อไก่ แล้วย่างต่อด้วยไฟอ่อนนานประมาณ 30-40 นาที จนเนื้อไก่สุกหอมกลิ่นเครื่องเทศ
4. ทำอาจาดโดยเคี่ยวน้ำตาลทรายกับน้ำเลมอนบนไฟอ่อน แค่พอน้ำตาลละลาย ปิดไฟ เทใส่ถ้วยพักไว้ให้เย็น ใส่หอมแขกซอย พริกชี้ฟ้าสับ และขิงอ่อนซอย คนพอเข้ากัน เสิร์ฟกับไก่ย่างทันดูรี
Tags:
chicken, Tandoori, กระเทียม, ขิง, ผงขมิ้น, พริก, ย่าง, หอมใหญ่, อาหารนานาชาติ, อาหารอินเดีย, เครื่องเทศ, โยเกิร์ต, ไก่, ไก่ย่าง, ไก่ย่างอินเดีย
Recommended Articles

ใครกำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่บ้าง เชิญเข้ามาทางนี้เลยจ้า... KRUA.CO ขอกางสูตรคุกกี้แสนอร่อย กินเพลินเกินห้ามใจกับ คุกกี้ชีสกระเทียม ที่เมื่อกัดเข้าไปแล้ว จะอบอวนไปด้วยความชีส ความกระเทียม แบบเต็มปากเต็มคำ และหอมมันไปกับเนยที่อัดแน่นทั่วทั้งชิ้น บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่าย อร่อย แถมทำขายได้อีกด้วย

อาหารฮอตฮิตตลอดกาล รสเผ็ดซ่าชาลิ้นที่ถูกปากคนไทยซะเหลือเกิน แค่เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์มาเป็นเต้าหู้ดอย ตัวเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆ เวลาเอามาย่างขนาดชิ้นจะพอดี ย่างเเละทาซอสไปเรื่อยๆประมาณ 3-4 รอบ จนซอสเข้าเนื้อและเคลือบเต้าหู้ดี ใครอยากจัดจ้านชาลิ้นกว่านี้ก็โรยผงหม่าล่าเพิ่มได้เลย เมนูนี้กินง่าย กินเพลินมาก

มาทำโยเกิร์ตจากน้ำเต้าหู้กันเถอะ! ทำง่าย ใช้อุปกรณ์ในครัวก็ทำได้เเล้ว วัตถุดิบมีเเค่น้ำเต้าหู้เเละก้านพริกจินดาเขียว ใช้น้ำเต้าหู้ถุงหรือซื้อเป็นขวดก็ได้เเต่ต้องไม่ใส่น้ำตาล ตัวก้านพริกเขียวมีจุลินทรีย์ดีที่ช่วยสร้างกรดเเลคติกทำให้น้ำเต้าหู้ตกตะกอน มีรสเปรี้ยวกลายเป็นโยเกิร์ต เหมาะกับสายวีแกนมาก

มันบดชีส มันฝรั่งและกระเทียมต้มจนสุก นำมาบดให้ละเอียด นำไปใส่หม้อ ใส่ทั้งวิปปิ้งครีมและเนย เพิ่มความนุ่มนวลให้แก่มันบด แต่ยังไม่พอสำหรับเมนูนี้ ใส่มอสซาเรลลาชีสขูดลงไปในหม้อ ตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนเนื้อมันฝรั่งกับมอสซาเรลลาชีสเนียนเข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำบด หอมๆ จะนำมารับประทานคู่กับไส้กรอก หรือสเต็ก หอม มัน อร่อย ยืดดดสุดๆ

แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย

มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย

ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล

ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน

ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า

ใครกำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่บ้าง เชิญเข้ามาทางนี้เลยจ้า... KRUA.CO ขอกางสูตรคุกกี้แสนอร่อย กินเพลินเกินห้ามใจกับ คุกกี้ชีสกระเทียม ที่เมื่อกัดเข้าไปแล้ว จะอบอวนไปด้วยความชีส ความกระเทียม แบบเต็มปากเต็มคำ และหอมมันไปกับเนยที่อัดแน่นทั่วทั้งชิ้น บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่าย อร่อย แถมทำขายได้อีกด้วย

อาหารฮอตฮิตตลอดกาล รสเผ็ดซ่าชาลิ้นที่ถูกปากคนไทยซะเหลือเกิน แค่เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์มาเป็นเต้าหู้ดอย ตัวเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆ เวลาเอามาย่างขนาดชิ้นจะพอดี ย่างเเละทาซอสไปเรื่อยๆประมาณ 3-4 รอบ จนซอสเข้าเนื้อและเคลือบเต้าหู้ดี ใครอยากจัดจ้านชาลิ้นกว่านี้ก็โรยผงหม่าล่าเพิ่มได้เลย เมนูนี้กินง่าย กินเพลินมาก

มาทำโยเกิร์ตจากน้ำเต้าหู้กันเถอะ! ทำง่าย ใช้อุปกรณ์ในครัวก็ทำได้เเล้ว วัตถุดิบมีเเค่น้ำเต้าหู้เเละก้านพริกจินดาเขียว ใช้น้ำเต้าหู้ถุงหรือซื้อเป็นขวดก็ได้เเต่ต้องไม่ใส่น้ำตาล ตัวก้านพริกเขียวมีจุลินทรีย์ดีที่ช่วยสร้างกรดเเลคติกทำให้น้ำเต้าหู้ตกตะกอน มีรสเปรี้ยวกลายเป็นโยเกิร์ต เหมาะกับสายวีแกนมาก

มันบดชีส มันฝรั่งและกระเทียมต้มจนสุก นำมาบดให้ละเอียด นำไปใส่หม้อ ใส่ทั้งวิปปิ้งครีมและเนย เพิ่มความนุ่มนวลให้แก่มันบด แต่ยังไม่พอสำหรับเมนูนี้ ใส่มอสซาเรลลาชีสขูดลงไปในหม้อ ตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนเนื้อมันฝรั่งกับมอสซาเรลลาชีสเนียนเข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำบด หอมๆ จะนำมารับประทานคู่กับไส้กรอก หรือสเต็ก หอม มัน อร่อย ยืดดดสุดๆ

แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย

มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย

ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล

ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน

ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า

ใครกำลังมองหาอาชีพเสริมอยู่บ้าง เชิญเข้ามาทางนี้เลยจ้า... KRUA.CO ขอกางสูตรคุกกี้แสนอร่อย กินเพลินเกินห้ามใจกับ คุกกี้ชีสกระเทียม ที่เมื่อกัดเข้าไปแล้ว จะอบอวนไปด้วยความชีส ความกระเทียม แบบเต็มปากเต็มคำ และหอมมันไปกับเนยที่อัดแน่นทั่วทั้งชิ้น บอกเลยว่าสูตรนี้ทำง่าย อร่อย แถมทำขายได้อีกด้วย

อาหารฮอตฮิตตลอดกาล รสเผ็ดซ่าชาลิ้นที่ถูกปากคนไทยซะเหลือเกิน แค่เปลี่ยนจากเนื้อสัตว์มาเป็นเต้าหู้ดอย ตัวเต้าหู้เป็นชิ้นเล็กๆ เวลาเอามาย่างขนาดชิ้นจะพอดี ย่างเเละทาซอสไปเรื่อยๆประมาณ 3-4 รอบ จนซอสเข้าเนื้อและเคลือบเต้าหู้ดี ใครอยากจัดจ้านชาลิ้นกว่านี้ก็โรยผงหม่าล่าเพิ่มได้เลย เมนูนี้กินง่าย กินเพลินมาก

มาทำโยเกิร์ตจากน้ำเต้าหู้กันเถอะ! ทำง่าย ใช้อุปกรณ์ในครัวก็ทำได้เเล้ว วัตถุดิบมีเเค่น้ำเต้าหู้เเละก้านพริกจินดาเขียว ใช้น้ำเต้าหู้ถุงหรือซื้อเป็นขวดก็ได้เเต่ต้องไม่ใส่น้ำตาล ตัวก้านพริกเขียวมีจุลินทรีย์ดีที่ช่วยสร้างกรดเเลคติกทำให้น้ำเต้าหู้ตกตะกอน มีรสเปรี้ยวกลายเป็นโยเกิร์ต เหมาะกับสายวีแกนมาก

มันบดชีส มันฝรั่งและกระเทียมต้มจนสุก นำมาบดให้ละเอียด นำไปใส่หม้อ ใส่ทั้งวิปปิ้งครีมและเนย เพิ่มความนุ่มนวลให้แก่มันบด แต่ยังไม่พอสำหรับเมนูนี้ ใส่มอสซาเรลลาชีสขูดลงไปในหม้อ ตั้งบนไฟอ่อนๆ ค่อยๆกวนจนเนื้อมันฝรั่งกับมอสซาเรลลาชีสเนียนเข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำบด หอมๆ จะนำมารับประทานคู่กับไส้กรอก หรือสเต็ก หอม มัน อร่อย ยืดดดสุดๆ

แมงโกกุลฟี (Mango Kulfi) ไอศกรีมนมของคนอินเดียที่เพิ่มความพิเศษโดยการใส่เนื้อมะม่วงสุกที่ปั่นแล้วลงไปผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมด้วย ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้จะมีความครีมๆนมและหวานหอมกลิ่นผลไม้ที่สำคัญไม่ทิ้งเอกลักษณ์ความเป็นอินเดียด้วยการใส่เครื่องเทศอย่างกระวานเขียวและหญ้าฝรั่งลงไปด้วยตอนต้มนมเพื่อให้ได้กลิ่นหอมเล็กน้อย

มาลัยกุลฟี่ (Malai Kulfi) ในสูตรนี้จะมีนมสดชนิดจืด (แบบไขมันสูง) น้ำตาล หัวนมผง (อันนี้เพิ่มกลิ่นหอมนมมากยิ่งขึ้น) กระวานเขียว หญ้าฝรั่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ เป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งขั้นตอนการทำ มาลัยกุลฟี (Malai Kulfi) ก็ไม่ยาก หลักๆก็คือการนำนมสดไปเคี่ยวให้เกิดความข้น กับน้ำตาลและหัวนมผง ให้ข้นจนเปลี่ยนสี (คล้ายสีนมข้นหวาน) แล้วใส่เครื่องเทศอย่างเม็ดกระวานและหญ้าฝรั่น เคี่ยวให้กลิ่นเครื่องเทศหอม จากนั้นก็นำเม็ดกระวานออก แล้วจึงใส่ถั่วต่างๆอย่างอัลมอนด์ เม็ดมะม่วง และพิตาชิโอ สับให้ละเอียด ลงไปต้มประมาณ 5 นาที ก่อนจะปิดไฟ แล้วพักให้หายร้อนก่อนใส่ลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีสให้แข็งก่อนเอามากิน เนื้อไอศกรีมที่หวานมันผสมกับการได้สัมผัสของเม็ดถั่วที่ผสมอยู่ในเนื้อไอศกรีมอีกด้วย

ซาโมซาไส้มังสวิรัติอีกอันที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ไส้มันฝรั่งก็คือไส้ปานีร์ เราเอาผักโขมมาผัดกับเครื่องเทศ แล้วใส่ชีสปานีร์ซึ่งเป็นชีสที่นิยมในอาหารอินเดียที่เป็นมังสวิรัติทุกจาน ใส่ชีสมากน้อยแล้วแต่ความชอบ ผัดให้รสออกเค็มๆกลิ่นหอมเครื่องเทศ เมื่อผสมกับปานีร์จะออกมันกลมกล่อมพอดี กินกับน้ำจิ้มชัดนีเปรี้ยวๆอร่อยนักแล

ไส้ซาโมซาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือไส้มังสวิรัติอย่างมันฝรั่ง บางสูตรจะใส่ถั่วลันเตาเข้าไปกับมันฝรั่งด้วย มันฝรั่งนำไปต้มทั้งหัวจนสุกนุ่ม แล้วจึงเอามาผัดกับเครื่องเทศให้หอม ที่สำคัญมันฝรั่งต้องยังพอให้เห็นเป็นชิ้นเต๋าๆไม่ผัดไปจนนุ่มเละเป็นเนื้อเดียวกัน ไส้ต้องมีกลิ่นเครื่องเทศ ขิงและพริกสด รสเค็ม มีเปรี้ยวอ่อนๆตอนท้าย สูตรนี้ใช้บีบน้ำมะนาวตอนท้าย หรือบางคนจะใส่เครื่องเทศอย่าง chaat masala ที่มีผงมะม่วงหรือผงทับทิมเป็นส่วนผสมก็ให้รสเปรี้ยวสดชื่นได้เช่นกัน

ซาโมซาไส้เนื้อหอมกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ รสชาติไม่เผ็ดร้อน เคล็ดลับเลือกเนื้อบดติดมันเวลาเอาไปทอดด้านในจะชุ่มฉ่ำกำลังดี ใครไม่มีเครื่องเทศอินเดียอย่างมาซาลา (masala) หรือพริกป่นอินเดีย (Kashmiri chili powder) จะไม่ต้องใส่ก็ได้ หรืออาจใช้พริกขี้หนูป่นแบบไทยแทนได้ แต่ใส่ปริมาณให้น้อยลงเพราะรสเผ็ดกว่า
Recommended Videos