เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
6-8 คน
Level
4
อ่านชื่อแล้วอาจจะงงๆ ไม่เข้าใจว่าช็อกโกแลตฟอนดันท์คืออะไร มันคือเค้กช็อกโกแลตลาวานั่นเอง ขนมชนิดนี้มีเสน่ห์ในตัวเองอย่างมาก เป็นขนมเค้กอบสด ใช้เวลาอบไม่นานเนื่องจากมีส่วนผสมของแป้งน้อย อบเสร็จใหม่ๆ ช็อกโกแลตด้านในจะไหลเยิ้มเป็นลาวา กินอุ่นๆตัดกับไอศกรีมวานิลลาเย็นๆอย่างขนมฝรั่งเศสความอร่อยของช็อกโกแลตฟอนดันท์ แน่นอนอยู่ที่คุณภาพของช็อกโกแลตที่เราเลือกใช้ ผมแนะนำให้ใช้ดาร์กช็อกโกแลตแท้ความเข้มตั้งแต่ 58% ขึ้นไป หลีกเลี่ยงการใช้ช็อกโกแลตคอมพาวด์ (Chocolate compound) ที่ทำมาจากไขมันพืชความยากของขนมตัวนี้อยู่ที่ความร้อนและเวลาในการอบ เนื่องจากเตาอบแต่ละเครื่องให้ความร้อนไม่เท่ากันอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 180 องศาเซลเซียส อบนานประมาณ 12-15 นาที เวลาในการอบสำคัญมากนะครับ ถ้าอบน้อยเกินไปเนื้อเค้กจะเละไม่อยู่ตัว แต่ถ้าอบนานเกินไปลาวาด้านในจะแน่นไม่ไหลเยิ้มกลายเป็นบราวนี่ซะงั้น ฉะนั้น เวลาอบเตาอบที่บ้านต้องปรับเวลากันใหม่ ลองปรับเวลาไปเรื่อยๆจนได้ช็อกโกแลตฟอนดันท์ที่สมบูรณ์ แบบที่สุดผมแนะนำว่าทำแล้วแช่ตู้เย็นไว้ก่อนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จากนั้นค่อยนำมาอบ จะได้ฟอนดันท์ที่อบออก มาเสมอกันทุกครั้ง ขอกระซิบดังๆว่าเวลาเราอบออกมาแล้วลาวาไหลเยิ้มกำลังพอดีนี่มันฟินมากกกก...
INGREDIENTS
ดาร์กช็อกโกแลต
125 กรัม
เนยสดชนิดจืด
125 กรัม
แป้งเค้ก
30 กรัม
ผงโกโก้ (ไขมัน 22-24%)
10 กรัม
ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม)
3 ฟอง
น้ำตาลทราย
100 กรัม
เนยสดชนิดจืดนิ่มสำหรับทาพิมพ์
1 ช้อนโต๊ะ
ไอศกรีมวานิลลา วิปปิ้งครีมชนิดตีแล้ว และถั่วชนิดต่างๆ สำหรับจัดเสิร์ฟ
อุปกรณ์ พิมพ์อะลูมิเนียมฟอยล์ขนาด 9x5.5x4.3 ซม. จำนวน 6-8 พิมพ์
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์โดยทาเนยบางๆด้านในพิมพ์ให้ทั่วจนครบทุกพิมพ์
2. ใส่น้ำลงในหม้อประมาณ ¼ ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อน นำดาร์กช็อกโกแลตและเนยใส่อ่างผสม ยกขึ้นวางบนหม้อน้ำร้อนจนช็อกโกแลตและเนยละลายเข้ากันดี ปิดไฟ ยกอ่างผสมออก พักให้ช็อกโกแลตเย็นตัวลง
3. ร่อนแป้งเค้กกับผงโกโก้ใส่อ่างผสมเตรียมไว้ตีไข่ไก่และน้ำตาลด้วยตะกร้อหรือเครื่องตีไข่ไฟฟ้าในอ่างผสมจนขึ้นฟูและออกสีครีม (ทดสอบโดยยกตะกร้อแล้ววาดเป็นลวดลายได้) ใส่ช็อกโกแลตที่เย็นตัวลงแล้วใช้พายยางตะล่อมเบาๆจนเข้ากันจึงใส่แป้งเค้กและผงโกโก้ที่ร่อนไว้ ตะล่อมจนเข้ากัน
4. ตักส่วนผสมที่ได้ใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของพิมพ์ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 10-13 นาที ให้เนื้อเค้กด้านนอกอยู่ตัว แต่ด้านในยังเหลวอยู่ (สังเกตจากผิวด้านบนของเค้กพองแต่เป็นแอ่งตรงกลาง ลองเอามือสัมผัสด้านข้างแล้วไม่นิ่มจนเกินไป) ยกออกจากเตาอบ
5. จัดเสิร์ฟ โดยคว่ำช็อกโกแลตฟอนดันท์ลงบนจาน เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมวานิลลา วิปปิ้งครีม และถั่วชนิดต่างๆ
Gallery
Tags:
ขนมหวาน, ของหวาน, ของหวานฝรั่ง, ดาร์กช๊อกโกแลต, ผงโกโก้, ฟอนดันท์, เค้กช็อกโกแลต, เชฟน่าน, เบเกอร์รี
Recommended Articles
อะไรมันจะฟินไปกว่าการทำ “ข้าวขาหมูคากิ” กินเองที่บ้าน เชฟน่านขอเสนอเมนู ขาหมูตุ๋นสูตรเด็ดพร้อมน้ำจิ้มพริกพริกคั่ว ทำเสร็จแล้วฟิน อิ่มกันทั้งบ้าน บอกเลยว่าขาหมูสูตรนี้เคี่ยวจนนุ่มเปื่อยหลุดกระดูก คากิเด้งดึ๋ง น้ำแกงเข้มข้น ตัดเลี่ยนด้วยน้ำพริกส้มโขลกเอง ทำหม้อเดียวกินได้หลายมื้อยาวๆ ไปเลย
‘ปลาส้มทอด’ หลายคนคงสงสัยว่าเชฟน่าจะเคลมเมนูนี้เป็นเมนูประจำบ้านได้อย่างไร ในเมื่อปลาส้มทอดเป็นเมนูทั่วๆ ไป ใครๆ เค้าก็ทำกินกัน แถมบ้านเชฟน่านก็ไม่ได้ถึงขนาดลงมือหมักปลาส้มเองซะด้วย แต่… ขอบอกว่าบ้านเชฟน่านกินเมนูนี้กันบ่อยมาก และมีวิธีกินเฉพาะในแบบบ้านเรา จนคิดว่าถ้าไม่นำมาบอกเล่าต่อปลาส้มทอดเค้าจะน้อยใจเอา ถ้างั้นผมขอเคลมนะครับ
S'mores Cookies หรือ คุกกี้มาร์ชเมลโลว์ ซอฟต์คุกกี้ชิ้นโตสอดไส้ด้วยมาร์ชเมลโลว์เนื้อหนึบหนับด้านใน คุกกี้สุดคลาสสิคที่ทำง่าย มือใหม่เบเกอร์รีทำตามได้ไม่ยาก โดยสามารถทำเบสไว้เเล้วนำมาผสมเป็นรสชาติต่างๆได้ตามชอบ สูตรนี้มีให้ถึง 4 รสชาติ จุกๆกันไปเลย ทำกินเองที่บ้าน ทำเเจกหรือทำขายก็ได้
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
อะไรมันจะฟินไปกว่าการทำ “ข้าวขาหมูคากิ” กินเองที่บ้าน เชฟน่านขอเสนอเมนู ขาหมูตุ๋นสูตรเด็ดพร้อมน้ำจิ้มพริกพริกคั่ว ทำเสร็จแล้วฟิน อิ่มกันทั้งบ้าน บอกเลยว่าขาหมูสูตรนี้เคี่ยวจนนุ่มเปื่อยหลุดกระดูก คากิเด้งดึ๋ง น้ำแกงเข้มข้น ตัดเลี่ยนด้วยน้ำพริกส้มโขลกเอง ทำหม้อเดียวกินได้หลายมื้อยาวๆ ไปเลย
‘ปลาส้มทอด’ หลายคนคงสงสัยว่าเชฟน่าจะเคลมเมนูนี้เป็นเมนูประจำบ้านได้อย่างไร ในเมื่อปลาส้มทอดเป็นเมนูทั่วๆ ไป ใครๆ เค้าก็ทำกินกัน แถมบ้านเชฟน่านก็ไม่ได้ถึงขนาดลงมือหมักปลาส้มเองซะด้วย แต่… ขอบอกว่าบ้านเชฟน่านกินเมนูนี้กันบ่อยมาก และมีวิธีกินเฉพาะในแบบบ้านเรา จนคิดว่าถ้าไม่นำมาบอกเล่าต่อปลาส้มทอดเค้าจะน้อยใจเอา ถ้างั้นผมขอเคลมนะครับ
S'mores Cookies หรือ คุกกี้มาร์ชเมลโลว์ ซอฟต์คุกกี้ชิ้นโตสอดไส้ด้วยมาร์ชเมลโลว์เนื้อหนึบหนับด้านใน คุกกี้สุดคลาสสิคที่ทำง่าย มือใหม่เบเกอร์รีทำตามได้ไม่ยาก โดยสามารถทำเบสไว้เเล้วนำมาผสมเป็นรสชาติต่างๆได้ตามชอบ สูตรนี้มีให้ถึง 4 รสชาติ จุกๆกันไปเลย ทำกินเองที่บ้าน ทำเเจกหรือทำขายก็ได้
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
อะไรมันจะฟินไปกว่าการทำ “ข้าวขาหมูคากิ” กินเองที่บ้าน เชฟน่านขอเสนอเมนู ขาหมูตุ๋นสูตรเด็ดพร้อมน้ำจิ้มพริกพริกคั่ว ทำเสร็จแล้วฟิน อิ่มกันทั้งบ้าน บอกเลยว่าขาหมูสูตรนี้เคี่ยวจนนุ่มเปื่อยหลุดกระดูก คากิเด้งดึ๋ง น้ำแกงเข้มข้น ตัดเลี่ยนด้วยน้ำพริกส้มโขลกเอง ทำหม้อเดียวกินได้หลายมื้อยาวๆ ไปเลย
‘ปลาส้มทอด’ หลายคนคงสงสัยว่าเชฟน่าจะเคลมเมนูนี้เป็นเมนูประจำบ้านได้อย่างไร ในเมื่อปลาส้มทอดเป็นเมนูทั่วๆ ไป ใครๆ เค้าก็ทำกินกัน แถมบ้านเชฟน่านก็ไม่ได้ถึงขนาดลงมือหมักปลาส้มเองซะด้วย แต่… ขอบอกว่าบ้านเชฟน่านกินเมนูนี้กันบ่อยมาก และมีวิธีกินเฉพาะในแบบบ้านเรา จนคิดว่าถ้าไม่นำมาบอกเล่าต่อปลาส้มทอดเค้าจะน้อยใจเอา ถ้างั้นผมขอเคลมนะครับ
S'mores Cookies หรือ คุกกี้มาร์ชเมลโลว์ ซอฟต์คุกกี้ชิ้นโตสอดไส้ด้วยมาร์ชเมลโลว์เนื้อหนึบหนับด้านใน คุกกี้สุดคลาสสิคที่ทำง่าย มือใหม่เบเกอร์รีทำตามได้ไม่ยาก โดยสามารถทำเบสไว้เเล้วนำมาผสมเป็นรสชาติต่างๆได้ตามชอบ สูตรนี้มีให้ถึง 4 รสชาติ จุกๆกันไปเลย ทำกินเองที่บ้าน ทำเเจกหรือทำขายก็ได้
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
Recommended Videos