เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
10 ชิ้น
Level
4
คัพเค้กชาเขียวเป็นคัพเค้กสไตล์ญี่ปุ่น แต่งหน้าด้วยครีมชาเขียวลักษณะคล้ายต้นคริสต์มาส เพิ่มความน่ารักด้วยตุ๊กตาน้ำตาลปั้นรูปซานตาคลอสหรือรูปดาว เพื่อให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาส
INGREDIENTS
แป้งเค้ก
100 กรัม
ผงฟู
1 1/4 ช้อนชา
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
นมสดชนิดจืด
90 กรัม
ผงชาเขียวมัทฉะ
10 กรัม
เนยสดชนิดจืด
100 กรัม
น้ำตาลทราย
100 กรัม
ไข่ไก่
2 ฟอง
ถั่วแดงชนิดกระป๋อง
100 กรัม
เม็ดน้ำตาลสีต่างๆ น้ำตาลปั้นรูปต่างๆสำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์ ถ้วยกระดาษขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว พิมพ์คัพเค้ก ถุงบีบและหัวบีบดาวขนาดใหญ่
วิปปิ้งครีมอุ่น
2 ช้อนโต๊ะ
ผงชาเขียวมัทฉะ
2 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีมแบบ non-dairy
300 กรัม
สีผสมอาหารสีเขียวชนิดผง
2 ช้อนชา
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เรียงถ้วยกระดาษใส่พิมพ์คัพเค้ก เตรียมไว้
2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน พักไว้ อุ่นนมสดด้วยเตาไมโครเวฟหรือใส่นมสดในหม้อ ตั้งบนไฟกลางพอร้อน ใส่ผงชาเขียวคนให้เข้ากัน พักไว้
3. ตีเนยสดด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วปานกลาง จนเนยขึ้นฟูเป็นสีครีมนวล ค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีจนขึ้นฟูเป็นครีมและน้ำตาลละลาย ใส่ไข่ในเนยสดที่ตีทีละฟองจนหมด ตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งที่ร่อนไว้สลับกับนมชาเขียว (โดยแบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน นมชาเขียว 2 ส่วน) เริ่มด้วยแป้งสลับกันไปแล้วจบด้วยแป้ง ผสมพอเข้ากัน
4. ใช้สคูปตักไอศกรีมหรือช้อนตักส่วนผสมเค้กใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้ประมาณ ¾ ของถ้วย ไล่อากาศในเนื้อเค้กโดยใช้ไม้ปลายแหลมคนให้ทั่วเค้ก นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน ประมาณ 15-18 นาที หรือจนเค้กสุกทดสอบโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้ม ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดมาแสดงว่าเค้กสุก นำเค้กออกจากเตาอบ พักเค้กบนตะแกรงจนเย็น
5. นำคัพเค้กชาเขียวมาเจาะรูตรงกลางเอาเนื้อคัพเค้กออก ใส่ถั่วแดงกวนลงในเนื้อคัพเค้ก พักไว้
6. ทำครีมชาเขียวโดยใส่วิปปิ้งครีมอุ่นลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางพอร้อน ใส่ผงชาเขียว คนให้เข้ากันพักไว้ ตีวิปปิ้งครีมด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนวิปปิ้งครีมข้น ใส่วิปปิ้งครีมผสมกับผงชาเขียวที่พักไว้ ใส่สีเขียวตีจนส่วนผสมตั้งยอดแข็ง นำใส่ถุงบีบ บีบเป็นรูปต้นไม้บนเนื้อเค้ก โดยบีบหมุนจากด้านล่างขึ้นด้านบน วางน้ำตาลปั้นรูปต่างๆ บนครีมชาเขียว โรยเม็ดน้ำตาลตกแต่งให้สวยงาม
Gallery










Recommended Articles

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

เค้กเบียร์ดำสูตรนี้รับประกันได้ว่าเนื้อเค้กนุ่มชุ่มฉ่ำ หากทำเสร็จแล้วกินเลยจะได้เนื้อสัมผัสของเนื้อเค้กที่ฉ่ำ หากแต่แช่เย็นสักพักจะได้เนื้อสัมผัสที่หนึบแทน สูตรนี้อาจจะผิดแปลกจากสูตรที่เห็นทั่วๆไป เพราะเราเลือกผสมดาร์กช็อกโกแลตและเบียร์ดำเข้าไปในส่วนผสมของตัวครีมชีส ให้กินแล้วรู้สึกดาร์กเหมือนกับชื่อ แต่ก็แอบตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีและวอลนัทเล็กน้อยเพิ่มความกรุบกรอบและหวานหอมให้เข้ากันกับดาร์กเบียร์ที่เลือกใช้

ชูส์ครีมทำจากแป้งชูส์เพสทรีใส่ไส้ครีมคัสตาร์ดเนื้อเบา หวานนวล เคล็ดลับการทำชูส์เพสทรีให้เป็นก้อนกลม โปร่งเบาเกิดจากการผสมไข่ไก่ในปริมาณที่ถูกต้อง อบด้วยความร้อนพอดีจนแป้งชูส์ยกตัวขึ้นเป็นทรงกลมและเป็นโพรงตรงกลางเอาไว้ใส่ไส้ต่างๆตามชอบ สูตรนี้เพิ่มหน้าคุกกี้หรือ craquelin ให้กับชูส์ครีม เพิ่มสัมผัสกรอบๆหวานๆด้านบนให้กับแป้งชูส์

คุกกี้เนย เนื้อกรอบโปร่งเบา ด้วยการตีเนยกับน้ำตาลจนเนียนละเอียด เลือกใช้น้ำตาลทรายเบเกอร์รีหรือน้ำตาลทรายชนิดละเอียดจะช่วยให้เนื้อคุกกี้กรอบแบบเนียนละมุนในปากยิ่งขึ้น หากใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายขาวธรรมดาก็ได้เหมือนกัน เคล็ดลับของคุกกี้ชนิดนี้ใช้ไฟต่ำประมาณ 150-160 องศาเซลเซียส ระยะเวลาแล้วแต่ไฟของเตาอบ สังเกตให้คุกกี้สีเหลืองสม่ำเสมอกำลังพอดี หากอบเสร็จแล้วพักให้หายร้อน ชิมดูคุกกี้ยังไม่กรอบดีให้นำเข้าเตาอบแบบพัดลมที่ 100 องศาเซลเซียสอีก 3 นาทีเพื่อไล่ความชื้น จะทำให้คุกกี้กรอบนานขึ้น

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

เค้กเบียร์ดำสูตรนี้รับประกันได้ว่าเนื้อเค้กนุ่มชุ่มฉ่ำ หากทำเสร็จแล้วกินเลยจะได้เนื้อสัมผัสของเนื้อเค้กที่ฉ่ำ หากแต่แช่เย็นสักพักจะได้เนื้อสัมผัสที่หนึบแทน สูตรนี้อาจจะผิดแปลกจากสูตรที่เห็นทั่วๆไป เพราะเราเลือกผสมดาร์กช็อกโกแลตและเบียร์ดำเข้าไปในส่วนผสมของตัวครีมชีส ให้กินแล้วรู้สึกดาร์กเหมือนกับชื่อ แต่ก็แอบตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีและวอลนัทเล็กน้อยเพิ่มความกรุบกรอบและหวานหอมให้เข้ากันกับดาร์กเบียร์ที่เลือกใช้

ชูส์ครีมทำจากแป้งชูส์เพสทรีใส่ไส้ครีมคัสตาร์ดเนื้อเบา หวานนวล เคล็ดลับการทำชูส์เพสทรีให้เป็นก้อนกลม โปร่งเบาเกิดจากการผสมไข่ไก่ในปริมาณที่ถูกต้อง อบด้วยความร้อนพอดีจนแป้งชูส์ยกตัวขึ้นเป็นทรงกลมและเป็นโพรงตรงกลางเอาไว้ใส่ไส้ต่างๆตามชอบ สูตรนี้เพิ่มหน้าคุกกี้หรือ craquelin ให้กับชูส์ครีม เพิ่มสัมผัสกรอบๆหวานๆด้านบนให้กับแป้งชูส์

คุกกี้เนย เนื้อกรอบโปร่งเบา ด้วยการตีเนยกับน้ำตาลจนเนียนละเอียด เลือกใช้น้ำตาลทรายเบเกอร์รีหรือน้ำตาลทรายชนิดละเอียดจะช่วยให้เนื้อคุกกี้กรอบแบบเนียนละมุนในปากยิ่งขึ้น หากใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายขาวธรรมดาก็ได้เหมือนกัน เคล็ดลับของคุกกี้ชนิดนี้ใช้ไฟต่ำประมาณ 150-160 องศาเซลเซียส ระยะเวลาแล้วแต่ไฟของเตาอบ สังเกตให้คุกกี้สีเหลืองสม่ำเสมอกำลังพอดี หากอบเสร็จแล้วพักให้หายร้อน ชิมดูคุกกี้ยังไม่กรอบดีให้นำเข้าเตาอบแบบพัดลมที่ 100 องศาเซลเซียสอีก 3 นาทีเพื่อไล่ความชื้น จะทำให้คุกกี้กรอบนานขึ้น

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

เค้กเบียร์ดำสูตรนี้รับประกันได้ว่าเนื้อเค้กนุ่มชุ่มฉ่ำ หากทำเสร็จแล้วกินเลยจะได้เนื้อสัมผัสของเนื้อเค้กที่ฉ่ำ หากแต่แช่เย็นสักพักจะได้เนื้อสัมผัสที่หนึบแทน สูตรนี้อาจจะผิดแปลกจากสูตรที่เห็นทั่วๆไป เพราะเราเลือกผสมดาร์กช็อกโกแลตและเบียร์ดำเข้าไปในส่วนผสมของตัวครีมชีส ให้กินแล้วรู้สึกดาร์กเหมือนกับชื่อ แต่ก็แอบตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีและวอลนัทเล็กน้อยเพิ่มความกรุบกรอบและหวานหอมให้เข้ากันกับดาร์กเบียร์ที่เลือกใช้

ชูส์ครีมทำจากแป้งชูส์เพสทรีใส่ไส้ครีมคัสตาร์ดเนื้อเบา หวานนวล เคล็ดลับการทำชูส์เพสทรีให้เป็นก้อนกลม โปร่งเบาเกิดจากการผสมไข่ไก่ในปริมาณที่ถูกต้อง อบด้วยความร้อนพอดีจนแป้งชูส์ยกตัวขึ้นเป็นทรงกลมและเป็นโพรงตรงกลางเอาไว้ใส่ไส้ต่างๆตามชอบ สูตรนี้เพิ่มหน้าคุกกี้หรือ craquelin ให้กับชูส์ครีม เพิ่มสัมผัสกรอบๆหวานๆด้านบนให้กับแป้งชูส์

คุกกี้เนย เนื้อกรอบโปร่งเบา ด้วยการตีเนยกับน้ำตาลจนเนียนละเอียด เลือกใช้น้ำตาลทรายเบเกอร์รีหรือน้ำตาลทรายชนิดละเอียดจะช่วยให้เนื้อคุกกี้กรอบแบบเนียนละมุนในปากยิ่งขึ้น หากใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายขาวธรรมดาก็ได้เหมือนกัน เคล็ดลับของคุกกี้ชนิดนี้ใช้ไฟต่ำประมาณ 150-160 องศาเซลเซียส ระยะเวลาแล้วแต่ไฟของเตาอบ สังเกตให้คุกกี้สีเหลืองสม่ำเสมอกำลังพอดี หากอบเสร็จแล้วพักให้หายร้อน ชิมดูคุกกี้ยังไม่กรอบดีให้นำเข้าเตาอบแบบพัดลมที่ 100 องศาเซลเซียสอีก 3 นาทีเพื่อไล่ความชื้น จะทำให้คุกกี้กรอบนานขึ้น
Recommended Videos