เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

สโคนแครนเบอร์รี

Recipe by ณวรา เปลี่ยนบุญเลิศ

Serves

20 ชิ้น

Level

3

INGREDIENTS

แป้งเค้ก

500 กรัม

ผงฟู

30 กรัม

เกลือป่น

¼ ช้อนชา

น้ำตาลทราย

70 กรัม

เนยสดชนิดจืดเย็นหั่นลูกเต๋า

150 กรัม

แครนเบอร์รีแห้ง

80 กรัม

ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน (ฟองละ 65-70 กรัม)

2 ฟอง

นมสดชนิดจืด

120 กรัม

แป้งเค้กสำหรับโรยตอนคลึง

อุปกรณ์จำเป็น: ถาดอบปูด้วยแผ่นอบซิลิโคนหรือกระดาษไข พิมพ์กดคุกกี้กลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว

ไม้คลึงแป้ง แปรงสำหรับทาหน้าสโคน

METHOD

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ปูถาดอบด้วยแผ่นอบซิลิโคนหรือกระดาษไขเตรียมไว้

 

2. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือป่นลงในอ่างผสม ใส่น้ำตาล ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน ใส่เนย ใช้สองมือถูแป้งกับเนยให้มีลักษณะเหมือนทรายร่วน ทำจนไม่เห็นเนยเป็นชิ้นๆ ใส่แครนเบอร์รี ผสมให้เข้ากัน เกลี่ยแป้งเป็นหลุมตรงกลาง ตีไข่ไก่กับนมสดพอเข้ากัน เทส่วนผสมไข่ไก่ลงในหลุมแป้ง ใช้มือค่อยๆ ตะล่อมแป้งเข้ามารวมกับไข่ไก่ทีละน้อยจนเป็นเนื้อเดียวกัน พอรวบแป้งได้เป็นก้อน พักไว้ (ไม่ควรนวดหรือผสมแป้งนานจะทำให้เนื้อสโคนแน่น)

 

3. โรยแป้งเค้กบางๆ บนโต๊ะ วางก้อนแป้งคลึงบนโต๊ะให้หนาประมาณ 2 ซม. เท่ากันทั้งแผ่นใช้พิมพ์คุกกี้กดสโคนออกมาเป็นชิ้น วางเรียงในถาดอบที่เตรียมไว้ 

 

4. ผสมไข่แดงและนมสดตีให้เข้ากัน ใช้แปรงจุ่มส่วนผสมไข่แดงทาหน้าสโคนบางๆ ให้ทั่ว (ถ้าชอบสีเหลืองให้ทาซ้ำอีกรอบ) นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 16 นาที จนสุก นำสโคนออกจากเตาอบ พักไว้บนตะแกรง

 

5. จัดเสิร์ฟสโคนอบร้อนๆ กับเนยและแยมตามชอบ

 

 

 

เคล็ดลับ

 

• ทาส่วนผสมไข่แดงเฉพาะด้านบน อย่าให้ส่วนผสมไหลลงด้านข้างสโคนเพราะมีผลทำให้สโคนขึ้นแบบไม่ตรง

 

 

 

อ่านบทความเพ่ิมเติม

 

‘เนยสด’ ของดี ไม่มีไขมันทรานส์

Gallery

Share this content

Tags:

bakery, scones, ของหวานฝรั่ง, ผลไม้แห้ง, สโคน, เบเกอร์รี

Recommended Articles

Recipeพายลูกตาลสังขยา
พายลูกตาลสังขยา

พายลูกตาลทำเป็นไส้สังขยาใบเตยผสมเนื้อลูกตาลอ่อน เพิ่มลูกเล่นโดยใช้น้ำตาลโตนดให้กลิ่นสังขยาที่หอมเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ด้านล่างเป็นบิสกิตกรอบร่วนหอมเค็มเนย ปิดด้วยครีมสดข้างบนให้รสนวลๆ หอมหวานจากน้ำตาลโตนด

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recipeเมอแรงค์ครีมเลมอน
เมอแรงค์ครีมเลมอน

เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว

 

Recommended Videos