เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2 คน
Level
2
เชฟน่านจะมาเผยเคล็ดลับและเทคนิคการทำกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาอย่างไรให้อร่อยไม่แพ้ฉบับร้านอาหาร ตั้งแต่การคัดเลือกใบไปจนถึงการผัดอย่างไรให้ใบสุกแต่ยังกรอบ ปรุงรสชาติเค็มแต่ก็หวานกลมกล่อม และที่สำคัญเทคนิคการเพิ่มความหอมของน้ำปลาอย่างไรให้หอมอบอวลชวนยั่วน้ำลาย รีบไปดูแล้วอย่าลืมมาแชร์ผลลัพธ์กันด้วยนะครับ
INGREDIENTS
กะหล่ำปลี (หัวละ 380 กรัม)
1 หัว
น้ำมันพืช
3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมจีนแกะเปลือกบุบ
6 กลีบ
พริกไทยดำบดใหม่สำหรับโรย
อุปกรณ์ ทิชชูแผ่นหนาสำหรับซับน้ำ กระทะเทฟลอนก้นหนา
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา
น้ำ
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย
1 ช้อนชา
METHOD
- เตรียมกะหล่ำปลีโดยหั่นครึ่งหัว จากนั้นลอกกะหล่ำปลีออกเป็นใบๆ ใช้ใบกะหล่ำปลีคงรูปหนากำลังดี (ไม่เอาใบกะหล่ำปลีที่แข็งหรืออ่อนจนเกินไป) ใส่ถ้วยให้ได้ 200 กรัม นำไปล้างน้ำให้สะอาด ใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ นำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาให้เย็นจัด ก่อนนำไปผัดให้ใช้กระดาษทิชชูซับน้ำอีกครั้งเพื่อไม่ให้กะหล่ำปลีแฉะ
- ผสมน้ำปรุงโดยใส่น้ำปลา น้ำและน้ำตาลทราย ลงในถ้วยผสม คนให้น้ำตาลละลายเข้ากัน พักไว้
- ตั้งกระทะบนไฟแรงให้ร้อนจัดจนมีควันขึ้น ใส่น้ำมันพืช รอให้น้ำมันร้อนมีควัน ใส่กระเทียมลงผัดให้หอม ตามด้วยกะหล่ำปลี ใช้ตะหลิวผัดด้วยความเร็ว ให้น้ำมันเคลือบใบกะหล่ำปลีจนทั่ว เทน้ำปรุงรอบๆกองกะหล่ำปลี เพื่อให้น้ำปลากระทบกระทะโดยตรงจะทำให้น้ำปลามีกลิ่นหอม ผัดจนน้ำปรุงเคลือบใบกะหล่ำปลีทั่ว ปิดไฟ ตักใส่จาน โรยด้วยพริกไทยดำ เสิร์ฟ
Gallery
Recommended Articles
คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง
เมนูข้าวมันไก่ที่ผสมผสานความอร่อยของข้าวมันไก่เบตง ข้าวมันไก่สิงคโปร์เเละข้าวมันไก่เเบบไทยไว้ด้วยกัน โดยเลือกใช้ส่วนน่องไก่ติดสะโพกเเทนไก่ทั้งตัว ถูกใจคนที่ชอบกินเนื้อหนังเอามากๆ ใช้เทคนิคต้มไก่พร้อมเครื่องเทศเเละเครื่องสมุนไพรต่างๆด้วยไปอ่อนจนสุกพอดี เเล้วเเช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้ไก่หนังกรอบเด้ง เนื้อเเน่น ไม่เละเกินไป เสิร์ฟพร้อมข้าวมันร้อนๆ น้ำราดไก่รสเค็มหวานเเละน้ำจิ้มทั้งสามเเบบคือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มขิงต้นหอมเเละซีอิ๊วดำหวาน
ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว
เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา
คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง
เมนูข้าวมันไก่ที่ผสมผสานความอร่อยของข้าวมันไก่เบตง ข้าวมันไก่สิงคโปร์เเละข้าวมันไก่เเบบไทยไว้ด้วยกัน โดยเลือกใช้ส่วนน่องไก่ติดสะโพกเเทนไก่ทั้งตัว ถูกใจคนที่ชอบกินเนื้อหนังเอามากๆ ใช้เทคนิคต้มไก่พร้อมเครื่องเทศเเละเครื่องสมุนไพรต่างๆด้วยไปอ่อนจนสุกพอดี เเล้วเเช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้ไก่หนังกรอบเด้ง เนื้อเเน่น ไม่เละเกินไป เสิร์ฟพร้อมข้าวมันร้อนๆ น้ำราดไก่รสเค็มหวานเเละน้ำจิ้มทั้งสามเเบบคือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มขิงต้นหอมเเละซีอิ๊วดำหวาน
ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว
เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา
คนรักช็อกโกเเลตต้องเลิฟกับเมนู เค้กบราวนีเลมอนเคิร์ด ใช้ผงโกโก้ดัทช์ที่มีความเข้มข้นนำมาทำเนื้อเค้กบราวนี เพิ่มซาวด์ครีมเพื่อให้เนื้อบราวนีมีความชุ่มฉ่ำ เสิร์พร้อมเลมอนเคิร์ดรสเปรี้ยวหอมหวาน ผลไม้เเละซอสช็อกโกเเลตเข้มข้น กินเข้าไปเเล้วครบทุกรสชาติทั้งความข้มจากผงโกโก้ดัทช์ รสเปรี้ยวหวานหอมของเลมอนเคิร์ด ตัดกับรสหวานปนขมของซอสช็อกโกเเลต อร่อยมาก สายขนมหวานต้องลอง
เมนูข้าวมันไก่ที่ผสมผสานความอร่อยของข้าวมันไก่เบตง ข้าวมันไก่สิงคโปร์เเละข้าวมันไก่เเบบไทยไว้ด้วยกัน โดยเลือกใช้ส่วนน่องไก่ติดสะโพกเเทนไก่ทั้งตัว ถูกใจคนที่ชอบกินเนื้อหนังเอามากๆ ใช้เทคนิคต้มไก่พร้อมเครื่องเทศเเละเครื่องสมุนไพรต่างๆด้วยไปอ่อนจนสุกพอดี เเล้วเเช่ในน้ำเย็นจัดเพื่อให้ไก่หนังกรอบเด้ง เนื้อเเน่น ไม่เละเกินไป เสิร์ฟพร้อมข้าวมันร้อนๆ น้ำราดไก่รสเค็มหวานเเละน้ำจิ้มทั้งสามเเบบคือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มขิงต้นหอมเเละซีอิ๊วดำหวาน
ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว
เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา
Recommended Videos