เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

แกงคั่วดอกขี้เหล็กปลาย่าง

Recipe by สำนักพิมพ์แสงแดด

Serves

4-5 คน

Level

3

ดอกขี้เหล็ก พืชสมุนไพรมากสรรพคุณ มีรสออกขม นิยมนำยอดอ่อนมาทำอาหาร โดยการนำมาลวกแล้วจิ้มกินกับน้ำพริกหรือนำไปทำอาหารชนิดต่างๆช่วยด้านระบบทางเดินอาหาร ระบบขับถ่าย บำรุงระบบประสาท ลดอาการเครียด นำมาแกงคั่วใส่ปลาดุกย่างหอมๆ ปรุงรสให้เค็มเผ็ดขมนิดๆเข้มข้นถึงเครื่องกันไปเลย

INGREDIENTS

ดอกขี้เหล็กสด

500 กรัม

กะทิ

6 ถ้วย

เกลือสมุทร

1 ช้อนโต๊ะ

กะปิสำหรับแกง

3 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลปี๊บ

1½ ช้อนโต๊ะ

หัวกะทิ

3 ถ้วย

ปลาดุกย่างแกะเอาเฉพาะเนื้อ

2 ตัว

หัวกะทิสำหรับราด

METHOD

1. ทำน้ำพริกแกงคั่วโดยโขลกพริกขี้นกสด พริกไทยดำ และเกลือ เข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่ข่าแก่ ตะไคร้ ขมิ้น โขลกต่อพอละเอียด ใส่กระเทียมและหอมแดง โขลกจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ตักใส่ถ้วย พักไว้

 

2. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟแรง รอให้น้ำเดือดจัด ใส่ดอกขี้เหล็กลงต้มประมาณ 10 นาที สังเกตพอมีฟองสีเขียวลอยขึ้นบนผิวน้ำตักดอกขี้เหล็กใส่ลงแช่ในอ่างน้ำสะอาด ตักขึ้นใส่ถาด ใช้มือบีบน้ำพอหมาด นำไปต้มซ้ำอีกครั้งจนหายรสขม ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

 

3. ตั้งหม้อกะทิบนไฟกลาง พอกะทิเริ่มร้อน ใส่น้ำพริกแกงคั่ว คนให้ละลายต้มจนน้ำแกงเริ่มเดือด หมั่นคนเพื่อไม่ให้กะทิจับตัวเป็นก้อน พอกะทิเริ่มเดือด ใส่เกลือ และดอกขี้เหล็กต้ม เคี่ยวด้วยไฟอ่อนนานประมาณ 10-15 นาที ตักน้ำแกงประมาณ ¼ ถ้วย ใส่ถ้วยใบเล็กอีกใบ ใส่กะปิสำ หรับแกงลงละลาย ตักใส่หม้อทีละช้อน ชิมให้ได้รสเค็มตามชอบ ใส่น้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลาย ต้มต่อพอเดือดอีกครั้ง ชิมรสให้ออกเค็ม เผ็ด ขมเล็กน้อยใส่หัวกะทิ และเนื้อปลาดุกย่าง คนพอเข้ากัน ปิดไฟ

 

4. ตักแกงคั่วดอกขี้เหล็กปลาย่างใส่ถ้วยราดหัวกะทิ รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ

Share this content

Tags:

กะทิ, กับข้าว, ดอกขี้เหล็ก, ต้ม, ตำ, ปลาดุกย่าง, พริกแกงคั่ว, อาหารภาคกลาง, อาหารไทย, เครื่องแกง

Recommended Articles

Recipeข้าวผัดเเหนม
ข้าวผัดเเหนม

ข้าวผัดแหนมหมู เมนูยอดนิยมที่ครองใจใครหลายคน ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวและรสชาติที่กลมกล่อม ใช้เเหนมหมูอย่างดี รสชาติเปรี้ยวเค็มอันเป็นเอกลักษณ์ นำมายีให้เป็นชิ้นเล็กๆ คั่วจนหอม ผัดกับข้าวสวยหอมมะลิ เพิ่มความอร่อยด้วย ไข่ไก่ ที่ผัดจนสุกกำลังดี เพิ่มความมันนัว และสีสันที่น่ากิน ผัดด้วยไฟแรง ให้ข้าวเรียงเม็ดสวย ไม่แฉะ และมีกลิ่นหอมไหม้กระทะที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นเมนูที่กินได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ก็อร่อยถูกใจแน่นอน รับรองว่าจานเดียวไม่เคยพอ!

 

Recommended Videos