เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

เชอร์เบทมะนาว

Recipe by สำนักพิมพ์แสงแดด

Serves

4 คน

Level

2

กรานิตาและเชอร์เบท เป็นไอศกรีมหวานเย็นแบบเกล็ดน้ำแข็งรสผลไม้สุดคลาสสิกสไตล์อิตาเลียน มีรสหวานกลิ่นหอมทำจากน้ำผลไม้หรือผลไม้สดแช่แข็งที่ขูดเป็นเกล็ดน้ำแข็งขนาดเล็ก เนื้อละเอียด มีส่วนผสมหลักคือ น้ำผลไม้ น้ำตาล แต่งเติมรสชาติความอร่อยด้วยน้ำมะนาว ปราศจากนม ครีม และไข่ มีรสชาติอร่อยจากผลไม้อย่างเต็มเปี่ยม อุดมไปด้วยวิตามินและสารแอนติออกซิแดนท์ ซึ่งช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ กรานิตาผลไม้แตกต่างจากเชอร์เบทตรงที่เชอร์เบทจะมีเนื้อสัมผัสเนียนและนุ่มนวลมากกว่า ส่วนเนื้อสัมผัสของกรานิตาผลไม้มีลักษณะเป็นเกล็ดน้ำแข็งขนาดเล็ก ผลึกน้ำแข็งหยาบกว่า หวานน้อยกว่า กรานิตาและเชอร์เบทมักเสิร์ฟในภัตตาคารเป็นของหวานปิดท้่ายมื้อ หรือเสิร์ฟระหว่างคอร์สเพื่อเพิ่มรสชาติให้อาหารจานต่อไป

INGREDIENTS

น้ำตาลทราย

1 ถ้วย

น้ำ

2 ถ้วย

น้ำมะนาว

2/3 ถ้วย

มะนาวหั่นแว่นและยอดสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

อุปกรณ์จำเป็น: เครื่องทำไอศกรีม

METHOD

1. ทำน้ำเชื่อมโดยเคี่ยวน้ำตาลกับน้ำในหม้อด้วยไฟกลาง คนให้ละลาย ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น

 

2. ผสมน้ำเชื่อมกับน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 2 ชั่วโมงจนเริ่มเป็นเกล็ดน้ำแข็ง

 

3. ทำเชอร์เบทโดยนำเนื้อน้ำเชอร์เบทใส่ใส่เครื่องทำไอศกรีม ปั่นประมาณ 20-25 นาที หรือจนกว่าเครื่องปั่นหยุดเพราะเนื้อเชอร์เบทข้นได้ที่  ปิดเครื่อง นำเชอร์เบทเข้าตู้เย็นช่องแข็งอีกประมาณ​ 3-4 ชั่วโมง

 

4. จัดเสิร์ฟโดยตักเชอร์เบทมะนาวใส่ภาชนะแช่เย็น ตกแต่งด้วยมะนาวหั่นแว่นและยอดสะระแหน่ เสิร์ฟ

 

หมายเหตุ

 

• เชอร์เบทมะนาวถ้าไม่มีเครื่องทำไอศกรีมใช้วิธีต้มน้ำตาลแล้วผสมน้ำและน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน นำใส่ภาชนะแล้วแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 2-3 ชั่วโมง ให้แข็งตัว แล้วใช้ช้อนขูดให้ละเอียด นำไปใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้ให้ละเอียดแล้วแช่เย็นอีกครั้งก่อนจัดเสิร์ฟ

Share this content

Tags:

ขนมหวานฝรั่ง, ขนมหวานเย็น, ของหวานฝรั่ง, น้ำตาล, น้ำมะนาว, เครื่องทำไอศกรีม, เชอร์เบท, แช่เย็น

Recommended Articles

Recipeเมอแรงก์
เมอแรงก์

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

 

Recipeเค้กไร้เทียมทาน (Sans Rival Cake)
เค้กไร้เทียมทาน (Sans Rival Cake)

Sans Rival Cake (เค้กไร้เทียมทาน) อย่าพึ่งตกใจกับชื่อเรียกของเค้กชนิดนี้ที่ทำไมดูเหมือนจอมยุทธหนังจีนยังไงอย่างงั้น แต่ที่จริงแล้วเค้กชนิดนี้มาจากประเทศฟิลิปปินส์ หรือถ้าแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ No rivals หรือ ไร้คู่แข่ง นั้นเอง ซึ่งเค้กชนิดนี้จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วนก็คือ ส่วนของเนื้อเค้กที่ไร้แป้งโดยสิ้นเชิง จะประกอบไปด้วยส่วนผสม 3 อย่างเท่านั้นคือไข่ขาว น้ำตาล และถั่ว ซึ่งต้นตำรับก็จะใช้เม็ดมะม่วงหิมพาตน์ เอามาป่นให้ละเอียดแล้วผสมไปกับตัวเมอแรงก์แล้วนำไปอบทำเป็นเนื้อเค้กสลับชั้นกับบัตเตอร์ครีมความเหนียวหนึบของตัวเมอแรงก์เข้ากันได้ดีกับเนื้อบัตเตอร์ครีมที่แทรกอยู่ระหว่างชั้น และที่สำคัญความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงที่โปะคลุมทั่วเนื้อเค้ก ทำให้เวลากินเข้าไปในหนึ่งคำบอกเลยว่าไร้เทียมทานสมชื่อ

 

Recipeเมอแรงก์
เมอแรงก์

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

 

Recipeเค้กไร้เทียมทาน (Sans Rival Cake)
เค้กไร้เทียมทาน (Sans Rival Cake)

Sans Rival Cake (เค้กไร้เทียมทาน) อย่าพึ่งตกใจกับชื่อเรียกของเค้กชนิดนี้ที่ทำไมดูเหมือนจอมยุทธหนังจีนยังไงอย่างงั้น แต่ที่จริงแล้วเค้กชนิดนี้มาจากประเทศฟิลิปปินส์ หรือถ้าแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ No rivals หรือ ไร้คู่แข่ง นั้นเอง ซึ่งเค้กชนิดนี้จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วนก็คือ ส่วนของเนื้อเค้กที่ไร้แป้งโดยสิ้นเชิง จะประกอบไปด้วยส่วนผสม 3 อย่างเท่านั้นคือไข่ขาว น้ำตาล และถั่ว ซึ่งต้นตำรับก็จะใช้เม็ดมะม่วงหิมพาตน์ เอามาป่นให้ละเอียดแล้วผสมไปกับตัวเมอแรงก์แล้วนำไปอบทำเป็นเนื้อเค้กสลับชั้นกับบัตเตอร์ครีมความเหนียวหนึบของตัวเมอแรงก์เข้ากันได้ดีกับเนื้อบัตเตอร์ครีมที่แทรกอยู่ระหว่างชั้น และที่สำคัญความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงที่โปะคลุมทั่วเนื้อเค้ก ทำให้เวลากินเข้าไปในหนึ่งคำบอกเลยว่าไร้เทียมทานสมชื่อ

 

Recipeเมอแรงก์
เมอแรงก์

เมอแรงก์เกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายขาวจนข้นฟู มีวิธีการผสมหรือขึ้นเมอแรงก์ 3 แบบ คือ เฟรนชเมอแรงก์ อิตาเลียนเมอแรงก์ และสวิสเมอแรงก์ แต่ละชนิดนำไปใช้ทำเบเกอรีได้หลากหลาย เช่น มาการอง ซูเฟล่ มูส พัฟโลวา บัตเตอร์ครีม เฟรนชเมอแรงก์ ทำด้วยการตีไข่ขาว น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์จนเป็นเมอแรงก์ขาวฟู สามารถนำไปอบทำเป็นพัฟโลวา คุกกี้อัลมอนด์เมอแรงก์ และเมอแรงก์คิส อิตาเลียนเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่สุกแล้วเพราะเกิดจากการตีไข่ขาวกับน้ำเชื่อมร้อนๆ ดังนั้นจึงสามารถนำไปใช้งานหรือตกแต่งหน้าขนมไ้ด้ทันที สวิสเมอแรงก์ เป็นเมอแรงก์ที่ผ่านความร้อนมาแล้วเล็กน้อยประมาณ 40-70 c โดยการละลายน้ำตาลกับไข่ขาวบนอ่างน้ำร้อน แล้วจึงนำไปตีต่อจนเป็นเมอแรงก์ข้นฟู นำไปตกแต่งหน้าขนมหรือใส่เนยสดลงไปเพื่อให้เป็นบัตเตอร์ครีมที่เนื้อนุ่มเบา

 

Recipeเค้กไร้เทียมทาน (Sans Rival Cake)
เค้กไร้เทียมทาน (Sans Rival Cake)

Sans Rival Cake (เค้กไร้เทียมทาน) อย่าพึ่งตกใจกับชื่อเรียกของเค้กชนิดนี้ที่ทำไมดูเหมือนจอมยุทธหนังจีนยังไงอย่างงั้น แต่ที่จริงแล้วเค้กชนิดนี้มาจากประเทศฟิลิปปินส์ หรือถ้าแปลเป็นภาษาฝรั่งเศสก็คือ No rivals หรือ ไร้คู่แข่ง นั้นเอง ซึ่งเค้กชนิดนี้จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วนก็คือ ส่วนของเนื้อเค้กที่ไร้แป้งโดยสิ้นเชิง จะประกอบไปด้วยส่วนผสม 3 อย่างเท่านั้นคือไข่ขาว น้ำตาล และถั่ว ซึ่งต้นตำรับก็จะใช้เม็ดมะม่วงหิมพาตน์ เอามาป่นให้ละเอียดแล้วผสมไปกับตัวเมอแรงก์แล้วนำไปอบทำเป็นเนื้อเค้กสลับชั้นกับบัตเตอร์ครีมความเหนียวหนึบของตัวเมอแรงก์เข้ากันได้ดีกับเนื้อบัตเตอร์ครีมที่แทรกอยู่ระหว่างชั้น และที่สำคัญความกรุบกรอบของเม็ดมะม่วงที่โปะคลุมทั่วเนื้อเค้ก ทำให้เวลากินเข้าไปในหนึ่งคำบอกเลยว่าไร้เทียมทานสมชื่อ

 

Recommended Videos

Term of UseAbout UsContact Us
KRUA.CO ©2022