เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
8 ชิ้น
Level
3
บานอฟฟี่ เปลี่ยนจากหน้าวิปปิ้งครีมธรรมดาเป็นวิปครีมรสมัทฉะ รสอูมามิ หอมมัน ละมุนลิ้นของครีมด้านบนตัดกับความหวานหอมของกล้วยและซอสบานอฟฟี่ด้านล่าง สูตรนี้ทำไม่ยาก ใครมีบานอฟฟี่สูตรเด็ดของตัวเองก็ปรับเฉพาะครีมด้านบนได้เลย แต่ถ้าใครไม่เคยทำบานอฟฟี่ลองสูตรนี้รับรองอร่อยเด็ด
INGREDIENTS
กล้วยหอม
3-4 ผล
ผงชาเขียวมัทฉะสำหรับโรยหน้า
อุปกรณ์: พิมพ์ทาร์ต 9 นิ้ว สปาตูลา แป้นหมุนเค้ก ที่ปาดเค้กพลาสติกมีลาย
ไดเจสทีฟบิสกิตบดละเอียด
250 กรัม
เนยสดชนิดจืดละลาย
100 กรัม
น้ำตาลทราย
80 กรัม
เนยสดชนิดจืด
80 กรัม
วิปปิ้งครีม
80 กรัม
นมข้นหวาน
300 กรัม
เกลือป่น
1/2 ช้อนชา
วิปปิ้งครีม
500 กรัม
ผงชาเขียว
10 กรัม
METHOD
1. เตรียมฐานบานอฟฟี่โดยผสมไดเจสทีฟบิสกิตกับเนยละลาย คนให้เข้ากัน กรุลงในพิมพ์ทาร์ต นำเข้าตู้เย็นช่องแข็ง รอไว้
2. ทำซอสบานอฟฟี่โดยใส่น้ำตาลลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง พอน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีคาราเมล ใส่เนยและวิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน แล้วตามด้วยนมข้นหวาน และเกลือป่น เคี่ยวประมาณ 5 นาทีจนซอสบานอฟฟี่ข้นดี พักไว้พออุ่นๆ
3. ทำวิปปิ้งครีมชาเขียวโดยแบ่งวิปปิ้งครีมออกมา 200 กรัม โรยผงชาเขียวให้ทั่วหน้าวิปปิ้งครีม ใช้พายยางบี้ผสมจนผงชาเขียวเนียนเข้ากับครีม แล้วเทกลับลงอ่างวิปปิ้งครีมที่เหลือ ตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนฟู พักไว้
4. นำฐานบานอฟฟี่ออกจากตู้เย็น เทซอสบานอฟฟี่อุ่นๆลงไปให้ทั่ว (ถ้าทิ้งซอสไว้จนเย็นสนิท ซอสจะไม่ไหลทิ้งตัว) ฝานกล้วยหอมครึ่งลูกตลอดความยาว วางกล้วยหอมให้เต็มหน้าซอส ปาดวิปปิ้งครีมให้เต็มหน้าพาย วางพายบนแป้นหมุนเค้ก ตั้งที่ปาดเค้กเอาด้านที่มีลายชิดทำมุม 45c บนหน้าครีมชาเขียว แล้วหมุนแป้นเค้กเพื่อทำลายครีมด้านหน้า ใส่ตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 2 ชั่วโมงให้ครีมกับไส้เซ็ตตัวเข้ากัน
5. เมื่อจะรับประทานนำบานอฟฟี่มัทฉะออกจากตู้เย็น ตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมเท่าๆกัน
Gallery




Recommended Articles

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

เค้กเบียร์ดำสูตรนี้รับประกันได้ว่าเนื้อเค้กนุ่มชุ่มฉ่ำ หากทำเสร็จแล้วกินเลยจะได้เนื้อสัมผัสของเนื้อเค้กที่ฉ่ำ หากแต่แช่เย็นสักพักจะได้เนื้อสัมผัสที่หนึบแทน สูตรนี้อาจจะผิดแปลกจากสูตรที่เห็นทั่วๆไป เพราะเราเลือกผสมดาร์กช็อกโกแลตและเบียร์ดำเข้าไปในส่วนผสมของตัวครีมชีส ให้กินแล้วรู้สึกดาร์กเหมือนกับชื่อ แต่ก็แอบตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีและวอลนัทเล็กน้อยเพิ่มความกรุบกรอบและหวานหอมให้เข้ากันกับดาร์กเบียร์ที่เลือกใช้

ชูส์ครีมทำจากแป้งชูส์เพสทรีใส่ไส้ครีมคัสตาร์ดเนื้อเบา หวานนวล เคล็ดลับการทำชูส์เพสทรีให้เป็นก้อนกลม โปร่งเบาเกิดจากการผสมไข่ไก่ในปริมาณที่ถูกต้อง อบด้วยความร้อนพอดีจนแป้งชูส์ยกตัวขึ้นเป็นทรงกลมและเป็นโพรงตรงกลางเอาไว้ใส่ไส้ต่างๆตามชอบ สูตรนี้เพิ่มหน้าคุกกี้หรือ craquelin ให้กับชูส์ครีม เพิ่มสัมผัสกรอบๆหวานๆด้านบนให้กับแป้งชูส์

คุกกี้เนย เนื้อกรอบโปร่งเบา ด้วยการตีเนยกับน้ำตาลจนเนียนละเอียด เลือกใช้น้ำตาลทรายเบเกอร์รีหรือน้ำตาลทรายชนิดละเอียดจะช่วยให้เนื้อคุกกี้กรอบแบบเนียนละมุนในปากยิ่งขึ้น หากใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายขาวธรรมดาก็ได้เหมือนกัน เคล็ดลับของคุกกี้ชนิดนี้ใช้ไฟต่ำประมาณ 150-160 องศาเซลเซียส ระยะเวลาแล้วแต่ไฟของเตาอบ สังเกตให้คุกกี้สีเหลืองสม่ำเสมอกำลังพอดี หากอบเสร็จแล้วพักให้หายร้อน ชิมดูคุกกี้ยังไม่กรอบดีให้นำเข้าเตาอบแบบพัดลมที่ 100 องศาเซลเซียสอีก 3 นาทีเพื่อไล่ความชื้น จะทำให้คุกกี้กรอบนานขึ้น

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

เค้กเบียร์ดำสูตรนี้รับประกันได้ว่าเนื้อเค้กนุ่มชุ่มฉ่ำ หากทำเสร็จแล้วกินเลยจะได้เนื้อสัมผัสของเนื้อเค้กที่ฉ่ำ หากแต่แช่เย็นสักพักจะได้เนื้อสัมผัสที่หนึบแทน สูตรนี้อาจจะผิดแปลกจากสูตรที่เห็นทั่วๆไป เพราะเราเลือกผสมดาร์กช็อกโกแลตและเบียร์ดำเข้าไปในส่วนผสมของตัวครีมชีส ให้กินแล้วรู้สึกดาร์กเหมือนกับชื่อ แต่ก็แอบตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีและวอลนัทเล็กน้อยเพิ่มความกรุบกรอบและหวานหอมให้เข้ากันกับดาร์กเบียร์ที่เลือกใช้

ชูส์ครีมทำจากแป้งชูส์เพสทรีใส่ไส้ครีมคัสตาร์ดเนื้อเบา หวานนวล เคล็ดลับการทำชูส์เพสทรีให้เป็นก้อนกลม โปร่งเบาเกิดจากการผสมไข่ไก่ในปริมาณที่ถูกต้อง อบด้วยความร้อนพอดีจนแป้งชูส์ยกตัวขึ้นเป็นทรงกลมและเป็นโพรงตรงกลางเอาไว้ใส่ไส้ต่างๆตามชอบ สูตรนี้เพิ่มหน้าคุกกี้หรือ craquelin ให้กับชูส์ครีม เพิ่มสัมผัสกรอบๆหวานๆด้านบนให้กับแป้งชูส์

คุกกี้เนย เนื้อกรอบโปร่งเบา ด้วยการตีเนยกับน้ำตาลจนเนียนละเอียด เลือกใช้น้ำตาลทรายเบเกอร์รีหรือน้ำตาลทรายชนิดละเอียดจะช่วยให้เนื้อคุกกี้กรอบแบบเนียนละมุนในปากยิ่งขึ้น หากใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายขาวธรรมดาก็ได้เหมือนกัน เคล็ดลับของคุกกี้ชนิดนี้ใช้ไฟต่ำประมาณ 150-160 องศาเซลเซียส ระยะเวลาแล้วแต่ไฟของเตาอบ สังเกตให้คุกกี้สีเหลืองสม่ำเสมอกำลังพอดี หากอบเสร็จแล้วพักให้หายร้อน ชิมดูคุกกี้ยังไม่กรอบดีให้นำเข้าเตาอบแบบพัดลมที่ 100 องศาเซลเซียสอีก 3 นาทีเพื่อไล่ความชื้น จะทำให้คุกกี้กรอบนานขึ้น

เมอแรงก์ ขนมอบมีเสน่ห์ตรงที่ว่าจะบีบเป็นรูปอะไรก็ได้ตามใจคนทำ เคล็ดลับทำเมอแรงก์ให้สำเร็จอยู่ที่การตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้เนื้อแน่น ตั้งยอดอ่อนจนได้ที่แล้วบีบเป็นรูป นำไปอบด้วยไฟต่ำจนแห้งสนิท สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออบเสร็จแล้วต้องทิ้งไว้ในเตาอบให้เมอแรงก์หายร้อน ไม่เช่นนั้นเอาออกมาทันทีเมอแรงก์จะยุบตัวเพราะข้างในยังมีความชื้นอยู่ อบเสร็จแล้วก็วาดลวดลายตกแต่งได้ตามชอบใจ

เค้กเบียร์ดำสูตรนี้รับประกันได้ว่าเนื้อเค้กนุ่มชุ่มฉ่ำ หากทำเสร็จแล้วกินเลยจะได้เนื้อสัมผัสของเนื้อเค้กที่ฉ่ำ หากแต่แช่เย็นสักพักจะได้เนื้อสัมผัสที่หนึบแทน สูตรนี้อาจจะผิดแปลกจากสูตรที่เห็นทั่วๆไป เพราะเราเลือกผสมดาร์กช็อกโกแลตและเบียร์ดำเข้าไปในส่วนผสมของตัวครีมชีส ให้กินแล้วรู้สึกดาร์กเหมือนกับชื่อ แต่ก็แอบตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รีและวอลนัทเล็กน้อยเพิ่มความกรุบกรอบและหวานหอมให้เข้ากันกับดาร์กเบียร์ที่เลือกใช้

ชูส์ครีมทำจากแป้งชูส์เพสทรีใส่ไส้ครีมคัสตาร์ดเนื้อเบา หวานนวล เคล็ดลับการทำชูส์เพสทรีให้เป็นก้อนกลม โปร่งเบาเกิดจากการผสมไข่ไก่ในปริมาณที่ถูกต้อง อบด้วยความร้อนพอดีจนแป้งชูส์ยกตัวขึ้นเป็นทรงกลมและเป็นโพรงตรงกลางเอาไว้ใส่ไส้ต่างๆตามชอบ สูตรนี้เพิ่มหน้าคุกกี้หรือ craquelin ให้กับชูส์ครีม เพิ่มสัมผัสกรอบๆหวานๆด้านบนให้กับแป้งชูส์

คุกกี้เนย เนื้อกรอบโปร่งเบา ด้วยการตีเนยกับน้ำตาลจนเนียนละเอียด เลือกใช้น้ำตาลทรายเบเกอร์รีหรือน้ำตาลทรายชนิดละเอียดจะช่วยให้เนื้อคุกกี้กรอบแบบเนียนละมุนในปากยิ่งขึ้น หากใครไม่มีใช้น้ำตาลทรายขาวธรรมดาก็ได้เหมือนกัน เคล็ดลับของคุกกี้ชนิดนี้ใช้ไฟต่ำประมาณ 150-160 องศาเซลเซียส ระยะเวลาแล้วแต่ไฟของเตาอบ สังเกตให้คุกกี้สีเหลืองสม่ำเสมอกำลังพอดี หากอบเสร็จแล้วพักให้หายร้อน ชิมดูคุกกี้ยังไม่กรอบดีให้นำเข้าเตาอบแบบพัดลมที่ 100 องศาเซลเซียสอีก 3 นาทีเพื่อไล่ความชื้น จะทำให้คุกกี้กรอบนานขึ้น
Recommended Videos