เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2-3 คน
Level
3
ชื่อแสนไพเราะของแกงรัญจวนมีที่มาจาก หม่อมเจ้าหญิงแย้มเยื้อน สิงหรา ซึ่งเป็นคนคิดค้นสูตรแกงรัญจวน และตั้งชื่อให้เมนูแกงไทยโบราณ สูตรชาววังจานนี้ว่าแกงรัญจวน สมัยก่อนเจ้านายพระองค์ต่าง ๆ มักจะเสวยอาหารอย่างละนิดละหน่อยเท่านั้น ทำให้กับข้าวซึ่งส่วนมากจะเป็นเนื้อหลงเหลืออยู่เยอะ ฝ่ายห้องครัวจึงนำเนื้อที่เหลือจากสำรับเสวยมาปรุงรสเป็นแกงสูตรใหม่ที่มีชื่อว่าแกงรัญจวนนั่นเอง ส่วนเคล็ดลับสูตรเด็ดของแกงรัญจวนก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อนวุ่นวายนัก เพียงแค่ต้องตำน้ำพริกกะปิให้รสจัด เน้นครบรสทั้งเผ็ด เปรี้ยว และเค็ม จากนั้นก็นำเนื้อหรือหมูมาต้มให้เปื่อยได้ที่ แล้วจึงใส่น้ำพริกกะปิที่เตรียมไว้ลงไป ปรุงรสชาติตามชอบ ตามด้วยใส่ใบโหระพาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมก่อน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆเท่านี้ก็เรียบร้อย
INGREDIENTS
น้ำ
2 ลิตร
กระดูกหมูอ่อนหั่นชิ้นพอคำ
300 กรัม
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย
3 ต้น
หอมแดงบุบ
10 หัว
น้ำตาลมะพร้าว
1 1/2 ช้อนชา
ใบมะกรูดฉีก
4 ใบ
ใบโหระพา
1/4 ถ้วย
น้ำมะนาว
2 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก
2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูสวนสีเขียวเเละเเดง
2 ช้อนโต๊ะ
กะปิ
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลมะพร้าว
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา
2 ช้อนชา
น้ำมะนาว
3 ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. ตั้งหม้อใส่น้ำ กระดูกหมู และเกลือสมุทรบนไฟกลางจนเริ่มเดือด ลดเป็นไฟอ่อน หมั่นช้อนฟองทิ้ง จนกว่าน้ำซุปจะใส ปิดฝาและเคี่ยวต่อ นาน 1 ชั่วโมง หรือจนกระดูกหมูจะเปื่อยนุ่ม
2. ระหว่างเคี่ยวกระดูกหมู เตรียมน้ำพริกกะปิโดยโขลกกระเทียมและพริกขี้หนูสวนให้พอแหลก ใส่กะปิและปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลา และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พักไว้
3. แบ่งน้ำต้มกระดูกหมูใส่หม้อใบใหม่ 3 ถ้วย นำขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ใส่น้ำพริกกะปิ ¼ ถ้วยลงไฟ คนให้ละลาย ใส่ตะไคร้ และหอมแดงลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว ใส่ใบมะกรูด ใบโหระพา และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ปิดไฟ
4. ตักแกงรัญจวนใส่ถ้วย เสิร์ฟ
Recommended Articles

น้ำจิ้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกะปิเด่นชัด กะปิเวียดนามมีลักษณะเหลวกว่ากะปิไทย รสชาติเค็มนัวและมีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นพิเศษ เมนูที่มักเสิร์ฟคู่กัน คือ Bún Đậu Mắm Tôm ประกอบด้วยขนมจีนที่ตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยม เต้าหู้ทอด หมูสามชั้นต้ม หมูยอทอด ปอเปี๊ยะ ไส้กรอกเวียดนามและผักสด

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ

หน่อกะลา วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของชาวเกาะเกร็ด เมนูที่โด่งดังคือ เมนูทอดมันหน่อกะลาที่ใครหลายคนได้ชิมก็มักจะติดใจ และในวันนี้เราจะนำเสนอเมนูใหม่ที่แสนอร่อย เป็นการทำเขียวหวานแบบแห้ง โดยใส่หน่อกะลาเข้าไปด้วย ทานคู่กับไข่เค็มที่ห่อด้วยปลากราย เมื่อรับประทานกับข้าวสวยแล้ว ต้องขอเพิ่มอีกจานกันเลยทีเดียว

แกงตูมิหรือแกงตูมี้ แล้วแต่พื้นถิ่นจะเรียกกัน เป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมาลายู บางก็เรียกว่าอาหารของชาวเพอรานากัน และยังเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวภูเก็ตอีกด้วย ด้วยความเป็นอาหารลูกผสมทั้งเชื้อชาติแล้วนั้นก็ยังมีความลูกผสมของรสชาติเช่นกัน แกงตูมี้ที่ฉันคุ้นเคยจะมีความคล้ายแกงแดงผสมแกงส้ม รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานเค็ม ตามลำดับ น้ำแกงจะไม่เยอะและไม่น้อยกำลังพอดี ส่วนมากแล้วนั้นจะนิยมแกงกับปลาท้องถิ่นหรือปลาตามฤดูกาล

น้ำจิ้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกะปิเด่นชัด กะปิเวียดนามมีลักษณะเหลวกว่ากะปิไทย รสชาติเค็มนัวและมีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นพิเศษ เมนูที่มักเสิร์ฟคู่กัน คือ Bún Đậu Mắm Tôm ประกอบด้วยขนมจีนที่ตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยม เต้าหู้ทอด หมูสามชั้นต้ม หมูยอทอด ปอเปี๊ยะ ไส้กรอกเวียดนามและผักสด

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ

หน่อกะลา วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของชาวเกาะเกร็ด เมนูที่โด่งดังคือ เมนูทอดมันหน่อกะลาที่ใครหลายคนได้ชิมก็มักจะติดใจ และในวันนี้เราจะนำเสนอเมนูใหม่ที่แสนอร่อย เป็นการทำเขียวหวานแบบแห้ง โดยใส่หน่อกะลาเข้าไปด้วย ทานคู่กับไข่เค็มที่ห่อด้วยปลากราย เมื่อรับประทานกับข้าวสวยแล้ว ต้องขอเพิ่มอีกจานกันเลยทีเดียว

แกงตูมิหรือแกงตูมี้ แล้วแต่พื้นถิ่นจะเรียกกัน เป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมาลายู บางก็เรียกว่าอาหารของชาวเพอรานากัน และยังเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวภูเก็ตอีกด้วย ด้วยความเป็นอาหารลูกผสมทั้งเชื้อชาติแล้วนั้นก็ยังมีความลูกผสมของรสชาติเช่นกัน แกงตูมี้ที่ฉันคุ้นเคยจะมีความคล้ายแกงแดงผสมแกงส้ม รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานเค็ม ตามลำดับ น้ำแกงจะไม่เยอะและไม่น้อยกำลังพอดี ส่วนมากแล้วนั้นจะนิยมแกงกับปลาท้องถิ่นหรือปลาตามฤดูกาล

น้ำจิ้มที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกะปิเด่นชัด กะปิเวียดนามมีลักษณะเหลวกว่ากะปิไทย รสชาติเค็มนัวและมีกลิ่นหอมโดดเด่นเป็นพิเศษ เมนูที่มักเสิร์ฟคู่กัน คือ Bún Đậu Mắm Tôm ประกอบด้วยขนมจีนที่ตัดมาเป็นก้อนสี่เหลี่ยม เต้าหู้ทอด หมูสามชั้นต้ม หมูยอทอด ปอเปี๊ยะ ไส้กรอกเวียดนามและผักสด

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

ข้าวคลุกกะปิถือเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่ถูกใจใครหลายๆคนเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่ครบรส กินกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ แต่สูตรนี้เราดัดแปลงการนำเสนอมาในรูปแบบใหม่แทนที่จะซอยไข่เจียวให้เป็นฝอยๆก็นำมาทำเป็นถ้วยห่อข้าวคลุกกะปิแทน วางเครื่องเคล้าอย่างอื่นลงด้านบนข้าว เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ ก็เกร๋ไปอีกแบบ

หน่อกะลา วัตถุดิบที่ขึ้นชื่อของชาวเกาะเกร็ด เมนูที่โด่งดังคือ เมนูทอดมันหน่อกะลาที่ใครหลายคนได้ชิมก็มักจะติดใจ และในวันนี้เราจะนำเสนอเมนูใหม่ที่แสนอร่อย เป็นการทำเขียวหวานแบบแห้ง โดยใส่หน่อกะลาเข้าไปด้วย ทานคู่กับไข่เค็มที่ห่อด้วยปลากราย เมื่อรับประทานกับข้าวสวยแล้ว ต้องขอเพิ่มอีกจานกันเลยทีเดียว

แกงตูมิหรือแกงตูมี้ แล้วแต่พื้นถิ่นจะเรียกกัน เป็นอาหารลูกผสมที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวมาลายู บางก็เรียกว่าอาหารของชาวเพอรานากัน และยังเป็นอาหารพื้นถิ่นของชาวภูเก็ตอีกด้วย ด้วยความเป็นอาหารลูกผสมทั้งเชื้อชาติแล้วนั้นก็ยังมีความลูกผสมของรสชาติเช่นกัน แกงตูมี้ที่ฉันคุ้นเคยจะมีความคล้ายแกงแดงผสมแกงส้ม รสชาติจะออกเปรี้ยวหวานเค็ม ตามลำดับ น้ำแกงจะไม่เยอะและไม่น้อยกำลังพอดี ส่วนมากแล้วนั้นจะนิยมแกงกับปลาท้องถิ่นหรือปลาตามฤดูกาล
Recommended Videos