
Serves
12 ชิ้น
Level
2
ชอร์ตเบรด (Shortbread) มีเอกลักษณ์คือเป็นบิสกิตที่ไม่ใส่สารขึ้นฟู เช่น ผงฟู หรือเบกกิ้งโซดาเลย มีส่วนผสมง่ายๆ สามชนิด คือ เนยสด น้ำตาล และแป้งสาลี ข้อสำคัญคือเนยที่ใช้ต้องคุณภาพดี ทำจากไขมันนมวัวอย่างน้อย 80% ขึ้นไป สีเหลืองเข้ม กลิ่นหอม จึงจะได้ชอร์ตเบรดที่ออกมากลิ่นหอม อร่อย ดังนั้นแนะนำให้ใช้เนยที่ผลิตจากต่างประเทศซึ่งมีขายตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป
INGREDIENTS
แป้งสาลีอเนกประสงค์
4 1/4 ถ้วย
เกลือป่น
1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
เนยสดชนิดจืดอย่างดี
1 ถ้วย
น้ำตาลทรายสำหรับโรยหน้า
3 ช้อนโต๊ะ
อุปกรณ์ พิมพ์เค้กแบบถอดข้างขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว กระดาษไขสำหรับรองฐานพิมพ์ สเปตูล่าแบบสั้น
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ เตรียมพิมพ์โดยปูรองกระดาษไขที่ด้านล่างของพิมพ์ให้ทั่ว พักไว้
2. ร่อนแป้งสาลีและเกลือลงในอ่างผสม ใส่น้ำตาล ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน
3. ใส่เนยลงในอ่างแป้ง ใช้มือถูแป้งกับเนยจนได้ลักษณะเหมือนทรายร่วน นำเนื้อชอร์ตเบรดลงกรุในพิมพ์ที่เตรียมไว้ ประมาณ 2/3 ของทั้งหมด ใช้มือหรือหลังช้อนกดไล่ให้พอแน่น เทเนื้อชอร์ตเบรดที่เหลือลงไปแต่ไม่ต้องกด โรยด้วยน้ำตาลบางๆ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 35-40 นาที จนสีเริ่มออกเหลือง (แต่จะเหลืองไม่มากเพราะไม่มีไข่แดง)
4. ยกออกจากเตาอบ นำมาพักไว้บนตะแกรงสักครู่พอให้ชอร์ตเบรดอุ่นลงแต่ยังไม่เย็นสนิท ใช้สเปตูล่าแบบสั้นเลาะแซะข้างๆระหว่างชอร์ตเบรดกับพิมพ์ ถอดพิมพ์ด้านข้างออก ใช้มีดตัดชอร์ตเบรดออกเป็น 12 ชิ้น (การตัดชอร์ตเบรดขณะอุ่นๆ จะง่ายและทำให้ขอบสวย หากทิ้งไว้นานจนหายร้อนเวลาตัดจะแตก ให้นำเข้าเตาอบสักครู่ให้เนื้อชอร์ตเบรดอุ่นๆ แล้วจึงตัด)
Tips
- ชอร์ตเบรดมีวิธีทำสองแบบ แบบแรกคือการถูเนยเย็นจัดกับแป้งจนร่วนเป็นทรายแล้วนำลงกรุในพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบแล้วจึงตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมตามแบบที่ชอบ แบบที่สองคือตีเนยกับน้ำตาลจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วจึงใส่แป้งลงไป ตะล่อมด้วยพายยางหรือใช้มือผสมและนวดพอเป็นก้อนเดียวกันการทำชอร์ตเบรดแบบนี้ เนื้อที่ได้จะนิ่มกว่าแบบแรก จึงต้องเข้าพักในตู้เย็นช่องธรรมดาสักครู่เพื่อให้เนื้อชอร์ตเบรดอยู่ตัว ก่อนจะนำมาคลึงเป็นก้อนยาวๆ (อาจเคล้าน้ำตาลรอบๆ แท่งคุกกี้) ตัดเป็นแว่นหนาตามชอบ
- หากต้องการให้ชอร์ตเบรดสีเข้มขึ้น อาจจะเพิ่มด้วยการทาไข่แดงบางๆ ที่ด้านบนของชอร์ตเบรดแต่ละชิ้น สาเหตุที่ใช้แต่ไข่แดงเพราะเวลาทาสี จะสวยกว่า ส่วนการใช้ไข่ขาวจะทำให้หน้าขนมพองขึ้น เนื่องจากไข่ขาวจะเป็นตัวดึงน้ำตาลออกจากขนม
- ถ้าชอบรสหวานอาจใส่น้ำตาลเพิ่มได้
Gallery






Recommended Articles
Recommended Videos