เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2 คน
Level
2
“ยำส้มกะปิทรงเครื่อง” เป็นการนำเอากะปิมาละลายกับกะทิจากนั้นนำไปคั่วให้หอมในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา รสชาติที่ได้ก็หอมๆนวลกะปิ จากนั้นก็นำมาเคล้ากับส้มที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มความพิเศษของยำเข้าไปอีกด้วยการใส้เครื่องอย่างกระเทียมซอย หอมแดงซอย พริกจินดาแดงซอย มะพร้าวคั่ว เคล้าๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อปลากะพงแดงที่นำไปเคล้ากับเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้หนังกรอบ เนื้อด้านในสุกกำลังดี ตกแต่งด้วยใบผักชี
INGREDIENTS
ส้มสายน้ำผึ้ง
1 ลูก
ปลากะพงแดง (150 กรัม)
2 ชิ้น
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
พริกไทยดำป่น
1 ช้อนชา
น้ำมันพืช
3 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวคั่ว
2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย
¼ ถ้วย
กระเทียมซอย
¼ ถ้วย
พริกจินดาแดงหั่นแฉลบ
1 ช้อนโต๊ะ
ใบผักชีสำหรับตกแต่ง
หัวกะทิ
1/3 ถ้วย
กะปิ
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลมะพร้าว
1 ช้อนชา
น้ำพริกเผา
½ ช้อนชา
เกลือสมุทร
¼ ช้อนชา
พริกขี้หนูสวนโขลกหยาบ
4 เม็ด
น้ำมะนาว
2 ช้อนชา
METHOD
1. ทำน้ำยำกะปิโดยตั้งหม้อหัวกะทิบนไฟกลาง พอเดือดใส่กะปิลงผัดให้หอม จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำพริกเผา เกลือสมุทร คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นลดเป็นไฟอ่อน ใส่พริกขี้หนูโขลก ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดไฟ ใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน (ชิมรสให้ออกเค็ม เปรี้ยว หวาน)
2. เตรียมส้มสายน้ำผึ้งโดยปอกเปลือกและลอกเยื่อออก หั่นครึ่งเอาเม็ดออก พักไว้ เตรียมเนื้อปลาโดยล้างเนื้อปลาให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง โรยเกลือและพริกไทยให้ทั่ว เตรียมไว้ ตั้งกระทะน้ำมันพืชบนไฟกลาง พอร้อนนำเนื้อปลาด้านหนังลงย่างในกระทะ ลดเป็นอ่อน ย่างให้ด้านหนังกรอบและเนื้อปลาสุกประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ พลิกกลับด้าน ย่างด้านเนื้อต่อจนสุกทั่ว ตักขึ้น ปิดไฟ พักไว้
3. ใส่ส้มที่เตรียมไว้ลงในอ่างผสมใบใหญ่ ตามด้วยมะพร้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดง กระเทียม และพริกจินดาแดง ใส่น้ำยำที่ทำเตรียมไว้ลงใสอ่างผสม เคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เตรียมไว้
4. จัดยำส้มกะปิทรงเครื่องใส่จาน โรยมะพร้าวคั่วที่เหลือ เสิร์ฟพร้อมปลากะพงย่าง ตกแต่งด้วยใบผักชี
อ่านบทความเพิ่มเติม
ส้มฉ่ำรสจัดจ้านห้ามพลาดยามปลายหนาว
Gallery






Recommended Articles

ปลาลวกจิ้มเมนูเบสิคที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่เเล้ว ดูเหมือนทำง่ายแต่ถ้าใครทำไม่เป็นก็อาจทำให้ปลาลวกจิ้มนั้นมีกลิ่นคาว เนื้อเละ ไม่ขาวเด้งน่ากินได้เช่นกัน เคล็ดลับคือการล้างเนื้อปลาด้วยเกลือสมุทร เวลาลวกให้ใส่เครื่องสมุนไพรเเละน้ำส้มสายชูลงไปด้วย เพื่อทำให้เนื้อปลาขาวเด้ง ไม่มีกลิ่นคาว

ปลากะพงอบในห่อกระดาษ ที่อบพร้อมผักต่างๆอย่างถั่วแขก มะเขือเทศ ที่ผ่านการปรุงรสด้วยน้ำเลมอน เกลือ น้ำผึ้ง ไวน์ขาวและน้ำมันมะกอกและเพิ่มความหอมด้วยพริกไทนดำ หอมแดง กระเทียม พาร์สเลย์และความเผ็ดนิดๆ ด้วยพริกขี้หนูแห้งสับหยาบๆ ตัดเลี่ยน และที่สำคัญเราได้ใส่"ชา"ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของเมนูนี้อีกด้วย

ภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสานเช่นกัน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆหวานๆหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดเล็กน้อยจากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ความลงตัวกันของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลย

“โรลครีมชีสลูกตาล” ที่นำวัตถุดิบจากต้นตาลโตนดมาใส่ลงในเมนูนี้ถึง 3 อย่าง น้ำตาลสด น้ำตาลโตนด และลูกตาลอ่อน โดยทั้ง 3 อย่างนี้อยู่ในส่วนของครีมชีสที่เป็นการตีครีมชีสกับน้ำตาลโตนดให้เข้ากันก่อนที่จะผสมตัวน้ำตาลสดเข้าไป บอกเลยว่าตอนตีครีมชีสก็หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นของน้ำตาลโตนดไปทั่วห้อง ก่อนจะนำมาผสมรวมกับวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ เนื้อครีมชีสที่ได้ก็จะนุ่มเบาหอมกลิ่นน้ำตาลโตนด เปรี้ยวอมหวานนิดๆ

“แกงคั่วหอยหลอด” ที่ใช้เครื่องแกงคั่วทางใต้ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกง นำมาผัดให้เข้ากันกับหางกะทิ จากนั้นก็ใส่ผักต่างๆอย่างมะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบชะพลู พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า เป็นต้น และก็ใส่พระเอกของเราอย่าง หอยหลอดเข้าไป ปรุงรสแค่เกลือสมุทรและน้ำตาลมะพร้าวเท่านั้น ปิดท้ายด้วยความมันกลมกล่อมอย่างหัวกะทิ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยหลอดรสชาติเผ็ดร้อนแบบฉบับคนใต้ กินกับข้าวสวยร้อน

“ยำใบบัวบกกะทิ” เป็นการทำน้ำยำโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำแล้วจนนุ่ม กับหอมแดงและกระเทียมไทยที่นำไปเผาให้หอม แกะเอาเนื้อมาโขลกให้ละเอียดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปเคี่ยวกับกะทิให้หอมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะนาว ให้ได้รสชาติเปรี้ยวนำ และเค็มหวานตามกันมา จากนั้นก็ย่างหมูย่างตะไคร้ที่หอมกลิ่นเครื่องหมักอย่างตะไคร้ กระเทียม และพริกไทย ย่างให้สุกหอมและหั่นเป็นชิ้นบางๆ ซอยใบบัวบกให้เป็นเส้นๆ เคล้ากับเครื่องยำอย่างหอมแดงซอย กระเทียมเจียว มะพร้าวคั่ว พริกจินดาซอย และมะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง เคล้ารวมกับน้ำยำเล็กน้อย แล้วจัดใส่จานเสิร์ฟกับหมูย่างตะไคร้ได้เลย

“มะมุด ส้มมุด หรือมะม่วงป่า” แล้วแต่ละท้องถิ่นจะเรียกกัน ซึ่งเจ้ามะมุดหรือส้มมุดที่ว่านี้ เป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ไทย รวมไปถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม ด้วย และยังเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลอ่อนผิวด้านนอกสีเขียวเข้ม พอสุกผิวของเปลือกมีสีเหลืองแกมเขียว เนื้อด้านในสีขาวเช่นเดียวกับมะม่วง มีรสเปรี้ยวกว่า เนื้อแน่น และเหนียวกว่า มันนำมาประกอบอาหารอย่างเอามาใส่ในแกงส้ม แทนมะขามเปียก หรือนำมายำคล้ายกับยำมะม่วง

“แกงสมรม” แกงพื้นถิ่นของคนภาคใต้ โดยส่วนมากนิยมแกงกับเนื้อกุ้งสด รสชาติที่ได้ก็จะหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามๆกันมา ส่วนผักที่ใส่ในแกงนั้นก็มีหลากหลายอยากกินไรก็ใส่ลงไปโดยสูตรนี้ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ชะอม หน่อไม้ต้ม (อันนี้ขาดไม่ได้เลย) และสะตอ เคี่ยวให้ผักนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ได้แกงสมรมอร่อยๆ กินแล้ว

ปลาลวกจิ้มเมนูเบสิคที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่เเล้ว ดูเหมือนทำง่ายแต่ถ้าใครทำไม่เป็นก็อาจทำให้ปลาลวกจิ้มนั้นมีกลิ่นคาว เนื้อเละ ไม่ขาวเด้งน่ากินได้เช่นกัน เคล็ดลับคือการล้างเนื้อปลาด้วยเกลือสมุทร เวลาลวกให้ใส่เครื่องสมุนไพรเเละน้ำส้มสายชูลงไปด้วย เพื่อทำให้เนื้อปลาขาวเด้ง ไม่มีกลิ่นคาว

ปลากะพงอบในห่อกระดาษ ที่อบพร้อมผักต่างๆอย่างถั่วแขก มะเขือเทศ ที่ผ่านการปรุงรสด้วยน้ำเลมอน เกลือ น้ำผึ้ง ไวน์ขาวและน้ำมันมะกอกและเพิ่มความหอมด้วยพริกไทนดำ หอมแดง กระเทียม พาร์สเลย์และความเผ็ดนิดๆ ด้วยพริกขี้หนูแห้งสับหยาบๆ ตัดเลี่ยน และที่สำคัญเราได้ใส่"ชา"ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของเมนูนี้อีกด้วย

ภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสานเช่นกัน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆหวานๆหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดเล็กน้อยจากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ความลงตัวกันของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลย

“โรลครีมชีสลูกตาล” ที่นำวัตถุดิบจากต้นตาลโตนดมาใส่ลงในเมนูนี้ถึง 3 อย่าง น้ำตาลสด น้ำตาลโตนด และลูกตาลอ่อน โดยทั้ง 3 อย่างนี้อยู่ในส่วนของครีมชีสที่เป็นการตีครีมชีสกับน้ำตาลโตนดให้เข้ากันก่อนที่จะผสมตัวน้ำตาลสดเข้าไป บอกเลยว่าตอนตีครีมชีสก็หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นของน้ำตาลโตนดไปทั่วห้อง ก่อนจะนำมาผสมรวมกับวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ เนื้อครีมชีสที่ได้ก็จะนุ่มเบาหอมกลิ่นน้ำตาลโตนด เปรี้ยวอมหวานนิดๆ

“แกงคั่วหอยหลอด” ที่ใช้เครื่องแกงคั่วทางใต้ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกง นำมาผัดให้เข้ากันกับหางกะทิ จากนั้นก็ใส่ผักต่างๆอย่างมะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบชะพลู พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า เป็นต้น และก็ใส่พระเอกของเราอย่าง หอยหลอดเข้าไป ปรุงรสแค่เกลือสมุทรและน้ำตาลมะพร้าวเท่านั้น ปิดท้ายด้วยความมันกลมกล่อมอย่างหัวกะทิ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยหลอดรสชาติเผ็ดร้อนแบบฉบับคนใต้ กินกับข้าวสวยร้อน

“ยำใบบัวบกกะทิ” เป็นการทำน้ำยำโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำแล้วจนนุ่ม กับหอมแดงและกระเทียมไทยที่นำไปเผาให้หอม แกะเอาเนื้อมาโขลกให้ละเอียดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปเคี่ยวกับกะทิให้หอมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะนาว ให้ได้รสชาติเปรี้ยวนำ และเค็มหวานตามกันมา จากนั้นก็ย่างหมูย่างตะไคร้ที่หอมกลิ่นเครื่องหมักอย่างตะไคร้ กระเทียม และพริกไทย ย่างให้สุกหอมและหั่นเป็นชิ้นบางๆ ซอยใบบัวบกให้เป็นเส้นๆ เคล้ากับเครื่องยำอย่างหอมแดงซอย กระเทียมเจียว มะพร้าวคั่ว พริกจินดาซอย และมะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง เคล้ารวมกับน้ำยำเล็กน้อย แล้วจัดใส่จานเสิร์ฟกับหมูย่างตะไคร้ได้เลย

“มะมุด ส้มมุด หรือมะม่วงป่า” แล้วแต่ละท้องถิ่นจะเรียกกัน ซึ่งเจ้ามะมุดหรือส้มมุดที่ว่านี้ เป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ไทย รวมไปถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม ด้วย และยังเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลอ่อนผิวด้านนอกสีเขียวเข้ม พอสุกผิวของเปลือกมีสีเหลืองแกมเขียว เนื้อด้านในสีขาวเช่นเดียวกับมะม่วง มีรสเปรี้ยวกว่า เนื้อแน่น และเหนียวกว่า มันนำมาประกอบอาหารอย่างเอามาใส่ในแกงส้ม แทนมะขามเปียก หรือนำมายำคล้ายกับยำมะม่วง

“แกงสมรม” แกงพื้นถิ่นของคนภาคใต้ โดยส่วนมากนิยมแกงกับเนื้อกุ้งสด รสชาติที่ได้ก็จะหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามๆกันมา ส่วนผักที่ใส่ในแกงนั้นก็มีหลากหลายอยากกินไรก็ใส่ลงไปโดยสูตรนี้ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ชะอม หน่อไม้ต้ม (อันนี้ขาดไม่ได้เลย) และสะตอ เคี่ยวให้ผักนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ได้แกงสมรมอร่อยๆ กินแล้ว

ปลาลวกจิ้มเมนูเบสิคที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่เเล้ว ดูเหมือนทำง่ายแต่ถ้าใครทำไม่เป็นก็อาจทำให้ปลาลวกจิ้มนั้นมีกลิ่นคาว เนื้อเละ ไม่ขาวเด้งน่ากินได้เช่นกัน เคล็ดลับคือการล้างเนื้อปลาด้วยเกลือสมุทร เวลาลวกให้ใส่เครื่องสมุนไพรเเละน้ำส้มสายชูลงไปด้วย เพื่อทำให้เนื้อปลาขาวเด้ง ไม่มีกลิ่นคาว

ปลากะพงอบในห่อกระดาษ ที่อบพร้อมผักต่างๆอย่างถั่วแขก มะเขือเทศ ที่ผ่านการปรุงรสด้วยน้ำเลมอน เกลือ น้ำผึ้ง ไวน์ขาวและน้ำมันมะกอกและเพิ่มความหอมด้วยพริกไทนดำ หอมแดง กระเทียม พาร์สเลย์และความเผ็ดนิดๆ ด้วยพริกขี้หนูแห้งสับหยาบๆ ตัดเลี่ยน และที่สำคัญเราได้ใส่"ชา"ลงไปเพื่อเพิ่มมิติของเมนูนี้อีกด้วย

ภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสานเช่นกัน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆหวานๆหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดเล็กน้อยจากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ความลงตัวกันของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลย

“โรลครีมชีสลูกตาล” ที่นำวัตถุดิบจากต้นตาลโตนดมาใส่ลงในเมนูนี้ถึง 3 อย่าง น้ำตาลสด น้ำตาลโตนด และลูกตาลอ่อน โดยทั้ง 3 อย่างนี้อยู่ในส่วนของครีมชีสที่เป็นการตีครีมชีสกับน้ำตาลโตนดให้เข้ากันก่อนที่จะผสมตัวน้ำตาลสดเข้าไป บอกเลยว่าตอนตีครีมชีสก็หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นของน้ำตาลโตนดไปทั่วห้อง ก่อนจะนำมาผสมรวมกับวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ เนื้อครีมชีสที่ได้ก็จะนุ่มเบาหอมกลิ่นน้ำตาลโตนด เปรี้ยวอมหวานนิดๆ

“แกงคั่วหอยหลอด” ที่ใช้เครื่องแกงคั่วทางใต้ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกง นำมาผัดให้เข้ากันกับหางกะทิ จากนั้นก็ใส่ผักต่างๆอย่างมะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบชะพลู พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า เป็นต้น และก็ใส่พระเอกของเราอย่าง หอยหลอดเข้าไป ปรุงรสแค่เกลือสมุทรและน้ำตาลมะพร้าวเท่านั้น ปิดท้ายด้วยความมันกลมกล่อมอย่างหัวกะทิ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยหลอดรสชาติเผ็ดร้อนแบบฉบับคนใต้ กินกับข้าวสวยร้อน

“ยำใบบัวบกกะทิ” เป็นการทำน้ำยำโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำแล้วจนนุ่ม กับหอมแดงและกระเทียมไทยที่นำไปเผาให้หอม แกะเอาเนื้อมาโขลกให้ละเอียดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปเคี่ยวกับกะทิให้หอมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะนาว ให้ได้รสชาติเปรี้ยวนำ และเค็มหวานตามกันมา จากนั้นก็ย่างหมูย่างตะไคร้ที่หอมกลิ่นเครื่องหมักอย่างตะไคร้ กระเทียม และพริกไทย ย่างให้สุกหอมและหั่นเป็นชิ้นบางๆ ซอยใบบัวบกให้เป็นเส้นๆ เคล้ากับเครื่องยำอย่างหอมแดงซอย กระเทียมเจียว มะพร้าวคั่ว พริกจินดาซอย และมะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง เคล้ารวมกับน้ำยำเล็กน้อย แล้วจัดใส่จานเสิร์ฟกับหมูย่างตะไคร้ได้เลย

“มะมุด ส้มมุด หรือมะม่วงป่า” แล้วแต่ละท้องถิ่นจะเรียกกัน ซึ่งเจ้ามะมุดหรือส้มมุดที่ว่านี้ เป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ไทย รวมไปถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม ด้วย และยังเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลอ่อนผิวด้านนอกสีเขียวเข้ม พอสุกผิวของเปลือกมีสีเหลืองแกมเขียว เนื้อด้านในสีขาวเช่นเดียวกับมะม่วง มีรสเปรี้ยวกว่า เนื้อแน่น และเหนียวกว่า มันนำมาประกอบอาหารอย่างเอามาใส่ในแกงส้ม แทนมะขามเปียก หรือนำมายำคล้ายกับยำมะม่วง

“แกงสมรม” แกงพื้นถิ่นของคนภาคใต้ โดยส่วนมากนิยมแกงกับเนื้อกุ้งสด รสชาติที่ได้ก็จะหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามๆกันมา ส่วนผักที่ใส่ในแกงนั้นก็มีหลากหลายอยากกินไรก็ใส่ลงไปโดยสูตรนี้ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ชะอม หน่อไม้ต้ม (อันนี้ขาดไม่ได้เลย) และสะตอ เคี่ยวให้ผักนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ได้แกงสมรมอร่อยๆ กินแล้ว
Recommended Videos