เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
7 ชิ้น
Level
4
จับเอาหม้อแกงเผือกมาใส่ในแป้งทาร์ต ตกแต่งหน้าตาให้ดูเป็นขนมหวานแบบฝรั่ง รสชาติไม่หวานจนเกินไป กินกับแป้งทาร์ตบางกรอบ หอมกลิ่นเนยนิดๆ บีบด้วยครีมเผือกเนื้อเนียน หวาน หอม และไม่ลืมความเป็นหม้อแกงด้วยการโรยหอมเจียวเคลือบน้ำตาลกรุบๆกรอบๆ
INGREDIENTS
แป้งเค้ก
100 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง
15 กรัม
เนยสดชนิดจืดเย็นจัด
50 กรัม
ไข่แดงของไข่ไก่
1 ฟอง
นมสดชนิดจืด
½ ช้อนชา
หอมแดงเจียวเคลือบน้ำตาลสำหรับโรย
อุปกรณ์จำเป็น พิมพ์ทาร์ตขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว ไม้คลึงแป้ง ถุงบีบและหัวบีบมองบลังต์
ไข่ไก่
2 ฟอง
น้ำตาลมะพร้าว
¼ ถ้วย
หัวกะทิ
¼ ถ้วย
ใบเตยหั่นท่อน
2 ใบ
เผือกนึ่งบดละเอียด
½ ถ้วย
เผือกนึ่งบดละเอียด (ร้อน)
250 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
40 กรัม
วิปปิ้งครีม
100 กรัม
เนยสดชนิดจืดนุ่ม
50 กรัม
METHOD
1. ทำแป้งทาร์ตโดยผสมแป้งเค้ก น้ำตาลไอซิ่ง เนย ใช้มือถูส่วนผสมให้เข้ากันจนมีลักษณะเป็นเม็ดทราย จากนั้นใส่ไข่แดงของไข่ไก่ และนมสดลงในอ่างผสม ใช้มือถูส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง รวบส่วนผสมเข้าด้วยกัน นวดพอให้เนียนเป็นก้อนเดียวกัน แร็ปด้วยพลาสติกแร็ป นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดานานประมาณ 1 ชั่วโมง
2. เมื่อครบ 1 ชั่วโมง นำแป้งทาร์ตออกจากตู้เย็นให้คลายเย็นลงเล็กน้อย คลึงแป้งทาร์ตเป็นแผ่นบาง 1.5 มม. ตัดแป้งให้เป็นทรงกลมขนาดใหญ่กว่าพิมพ์เล็กร้อย นำแป้งทาร์ตที่ตัดกรุลงในพิมพ์ ค่อยๆใช้นิ้วกดให้แป้งแนบกับพิมพ์ ใช้ส้อมจิ้มแป้งด้านฐานให้ทั่ว พักไว้
3. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ระหว่างนั้นทำหม้อแกงโดยใส่ไข่ไก่ น้ำตาลมะพร้าว หัวกะทิ และใบเตยลงในชาม ใช้มือขยำใบเตยกับส่วนทั้งหมดจนน้ำตาลละลาย กรองส่วนผสมด้วยกระชอนหรือผ้าขาวบางลงในอ่างผสม ใส่เผือกนึ่ง คนให้เข้ากัน ตักหม้อแกงลงในพิมพ์ทาร์ตที่กรุไว้ นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 30 นาที จากนั้นนำออกมา พักบนตะแกรงให้เย็นสนิท
4. ทำครีมเผือกโดยผสมเผือกนึ่งขณะร้อนๆ น้ำตาลทราย วิปปิ้งครีม และเนยสดในอ่างผสมให้เข้ากันดี ตักส่วนผสมใส่ถุงบีบพร้อมหัวบีบสำหรับบีบมองต์บลังก์ พักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาจนเซ็ตตัว
5. บีบครีมเผือกบนทาร์ตหม้อแกงให้เป็นทรงสูง ทำจนครบทุกชิ้น นำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาให้ขนมเซ็ตตัว ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยหอมเจียวเคลือบน้ำตาล
Recommended Articles

โดนัทนวดมือที่มีเอกลักษณ์เป็นรูปวงแหวนคล้ายเเผงคอสิงโตดั่งที่เราเห็นวางขายตามร้านมิสเตอร์โดนัท นิยมกินในประเทศญี่ปุ่นจนมาถึงประเทศไทย เนื้อนุ่มหนึบคล้ายโมจิ สูตรลับอยู่ที่การใช้แป้งมันสำปะหลังเเละเต้าหู้ขาวอ่อนตามสูตรญี่ปุ่น มีทั้งรสชาเขียว เลมอนไวท์ช็อกโกเเลต สตรอว์เบอร์รีเเละช็อกโกเเลต อร่อยเข้มข้นทุกรสชาติ!

ตั้งชื่อตามนกฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งเป็นนกประจำชาติของประเทศจาไมกา เกาะทางตอนใต้ของทวีปอเมริกา มีอีกชื่อหนึ่งเรียกขำๆว่า Doctor bird cake (Doctor bird เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของนกชนิดนี้) เนื้อเค้กจะคล้ายกับแครอทเค้กคือเนื้อเค้กฉ่ำๆ แล้วมีฟรอสติ้งเป็นครีมชีส แต่ความต่างคือฮัมมิ่งเบิร์ดเค้กจะใส่กล้วยและสับปะรดแทน หอมกลิ่นอบเชย ใส่ถั่วอย่างพีแคนหรือวอลนัท เค้กฮัมมิ่งเบิร์ดเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นในปี 1968 จากการโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศจาไมกาผ่านสูตรอาหารอื่นๆ รวมถึงสูตรเค้กฮัมมิ่งเบิร์ดนี้ด้วย

วินเทจเค้กจะขาดอัพไซด์ดาวน์เค้กไม่ได้เลย เค้กชนิดนี้มีต้นกำเนิดประมาณปี ค.ศ.1800 เป็นเค้กที่สมัยก่อนอบในกระทะเหล็ก เกิดในช่วงที่เตาอบยังไม่เป็นที่นิยมหรือยังใช้งานได้ไม่แม่นยำเหมือนปัจจุบัน เค้กที่ทำในกระทะบนเตาแก๊ส (stove top) จึงถือกำเนิดขึ้นก่อน วิธีเอาเค้กออกจากกระทะก็คือการคว่ำเอาเค้กออกมา หน้าเค้กจึงอยู่ด้านล่างกระทะ เค้กอัพไซด์ดาวน์รุ่นแรกๆไม่ได้ใช้สับปะรดกระป๋องแบบนี้หรอก แต่เป็นเค้กที่ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลอย่างแอปเปิล เชอร์รี อัพไซด์ดาวน์สับปะรดเพิ่งมีขึ้นประมาณ ค.ศ. 1900 หลังจากบริษัทผลิตผลไม้กระป๋องยี่ห้อ Dole ที่ต้องการโปรโมตสับปะรดกระป๋องของตัวเองผ่านเค้กชนิดนี้

เค้กแบลกฟลอเรส (Black forest cake หรือ Schwarzwälder Kirschtorte) เป็นเค้กสัญชาติเยอรมัน แน่นอนเยอรมันขึ้นชื่อเรื่องช็อกโกแลตเค้กอยู่แล้ว เอกลักษณ์ของเค้กชนิดนี้คือเค้กรสช็อกโกแลตฉ่ำด้วยบรั่นดีเชอร์รี (kirsh) สลับชั้นเชอร์รีและวิปปิ้งครีม ใครชอบเค้กกลิ่นเหล้าแนะนำว่าต้องกินแบลกฟลอเรส ถ้าแบบดั้งเดิมเลยแบลกฟลอเรสจะใช้เนื้อสปอนจ์เค้กช็อกโกแลตซึ่งเป็นเนื้อเจนัวเค้ก หรือเค้กที่ขึ้นฟูด้วยการตีไข่บนอ่างน้ำร้อน แล้วใส่แป้งเค้กและผงโกโก้เข้าด้วยกัน แต่สูตรนี้เราปรับให้เป็นเนื้อเค้กนุ่มละเอียดและเข้มขึ้นโดยใส่ช็อกโกแลตและผงโกโก้

โดนัทนวดมือที่มีเอกลักษณ์เป็นรูปวงแหวนคล้ายเเผงคอสิงโตดั่งที่เราเห็นวางขายตามร้านมิสเตอร์โดนัท นิยมกินในประเทศญี่ปุ่นจนมาถึงประเทศไทย เนื้อนุ่มหนึบคล้ายโมจิ สูตรลับอยู่ที่การใช้แป้งมันสำปะหลังเเละเต้าหู้ขาวอ่อนตามสูตรญี่ปุ่น มีทั้งรสชาเขียว เลมอนไวท์ช็อกโกเเลต สตรอว์เบอร์รีเเละช็อกโกเเลต อร่อยเข้มข้นทุกรสชาติ!

ตั้งชื่อตามนกฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งเป็นนกประจำชาติของประเทศจาไมกา เกาะทางตอนใต้ของทวีปอเมริกา มีอีกชื่อหนึ่งเรียกขำๆว่า Doctor bird cake (Doctor bird เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของนกชนิดนี้) เนื้อเค้กจะคล้ายกับแครอทเค้กคือเนื้อเค้กฉ่ำๆ แล้วมีฟรอสติ้งเป็นครีมชีส แต่ความต่างคือฮัมมิ่งเบิร์ดเค้กจะใส่กล้วยและสับปะรดแทน หอมกลิ่นอบเชย ใส่ถั่วอย่างพีแคนหรือวอลนัท เค้กฮัมมิ่งเบิร์ดเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นในปี 1968 จากการโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศจาไมกาผ่านสูตรอาหารอื่นๆ รวมถึงสูตรเค้กฮัมมิ่งเบิร์ดนี้ด้วย

วินเทจเค้กจะขาดอัพไซด์ดาวน์เค้กไม่ได้เลย เค้กชนิดนี้มีต้นกำเนิดประมาณปี ค.ศ.1800 เป็นเค้กที่สมัยก่อนอบในกระทะเหล็ก เกิดในช่วงที่เตาอบยังไม่เป็นที่นิยมหรือยังใช้งานได้ไม่แม่นยำเหมือนปัจจุบัน เค้กที่ทำในกระทะบนเตาแก๊ส (stove top) จึงถือกำเนิดขึ้นก่อน วิธีเอาเค้กออกจากกระทะก็คือการคว่ำเอาเค้กออกมา หน้าเค้กจึงอยู่ด้านล่างกระทะ เค้กอัพไซด์ดาวน์รุ่นแรกๆไม่ได้ใช้สับปะรดกระป๋องแบบนี้หรอก แต่เป็นเค้กที่ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลอย่างแอปเปิล เชอร์รี อัพไซด์ดาวน์สับปะรดเพิ่งมีขึ้นประมาณ ค.ศ. 1900 หลังจากบริษัทผลิตผลไม้กระป๋องยี่ห้อ Dole ที่ต้องการโปรโมตสับปะรดกระป๋องของตัวเองผ่านเค้กชนิดนี้

เค้กแบลกฟลอเรส (Black forest cake หรือ Schwarzwälder Kirschtorte) เป็นเค้กสัญชาติเยอรมัน แน่นอนเยอรมันขึ้นชื่อเรื่องช็อกโกแลตเค้กอยู่แล้ว เอกลักษณ์ของเค้กชนิดนี้คือเค้กรสช็อกโกแลตฉ่ำด้วยบรั่นดีเชอร์รี (kirsh) สลับชั้นเชอร์รีและวิปปิ้งครีม ใครชอบเค้กกลิ่นเหล้าแนะนำว่าต้องกินแบลกฟลอเรส ถ้าแบบดั้งเดิมเลยแบลกฟลอเรสจะใช้เนื้อสปอนจ์เค้กช็อกโกแลตซึ่งเป็นเนื้อเจนัวเค้ก หรือเค้กที่ขึ้นฟูด้วยการตีไข่บนอ่างน้ำร้อน แล้วใส่แป้งเค้กและผงโกโก้เข้าด้วยกัน แต่สูตรนี้เราปรับให้เป็นเนื้อเค้กนุ่มละเอียดและเข้มขึ้นโดยใส่ช็อกโกแลตและผงโกโก้

โดนัทนวดมือที่มีเอกลักษณ์เป็นรูปวงแหวนคล้ายเเผงคอสิงโตดั่งที่เราเห็นวางขายตามร้านมิสเตอร์โดนัท นิยมกินในประเทศญี่ปุ่นจนมาถึงประเทศไทย เนื้อนุ่มหนึบคล้ายโมจิ สูตรลับอยู่ที่การใช้แป้งมันสำปะหลังเเละเต้าหู้ขาวอ่อนตามสูตรญี่ปุ่น มีทั้งรสชาเขียว เลมอนไวท์ช็อกโกเเลต สตรอว์เบอร์รีเเละช็อกโกเเลต อร่อยเข้มข้นทุกรสชาติ!

ตั้งชื่อตามนกฮัมมิ่งเบิร์ด ซึ่งเป็นนกประจำชาติของประเทศจาไมกา เกาะทางตอนใต้ของทวีปอเมริกา มีอีกชื่อหนึ่งเรียกขำๆว่า Doctor bird cake (Doctor bird เป็นอีกชื่อเรียกหนึ่งของนกชนิดนี้) เนื้อเค้กจะคล้ายกับแครอทเค้กคือเนื้อเค้กฉ่ำๆ แล้วมีฟรอสติ้งเป็นครีมชีส แต่ความต่างคือฮัมมิ่งเบิร์ดเค้กจะใส่กล้วยและสับปะรดแทน หอมกลิ่นอบเชย ใส่ถั่วอย่างพีแคนหรือวอลนัท เค้กฮัมมิ่งเบิร์ดเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นในปี 1968 จากการโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศจาไมกาผ่านสูตรอาหารอื่นๆ รวมถึงสูตรเค้กฮัมมิ่งเบิร์ดนี้ด้วย

วินเทจเค้กจะขาดอัพไซด์ดาวน์เค้กไม่ได้เลย เค้กชนิดนี้มีต้นกำเนิดประมาณปี ค.ศ.1800 เป็นเค้กที่สมัยก่อนอบในกระทะเหล็ก เกิดในช่วงที่เตาอบยังไม่เป็นที่นิยมหรือยังใช้งานได้ไม่แม่นยำเหมือนปัจจุบัน เค้กที่ทำในกระทะบนเตาแก๊ส (stove top) จึงถือกำเนิดขึ้นก่อน วิธีเอาเค้กออกจากกระทะก็คือการคว่ำเอาเค้กออกมา หน้าเค้กจึงอยู่ด้านล่างกระทะ เค้กอัพไซด์ดาวน์รุ่นแรกๆไม่ได้ใช้สับปะรดกระป๋องแบบนี้หรอก แต่เป็นเค้กที่ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลอย่างแอปเปิล เชอร์รี อัพไซด์ดาวน์สับปะรดเพิ่งมีขึ้นประมาณ ค.ศ. 1900 หลังจากบริษัทผลิตผลไม้กระป๋องยี่ห้อ Dole ที่ต้องการโปรโมตสับปะรดกระป๋องของตัวเองผ่านเค้กชนิดนี้

เค้กแบลกฟลอเรส (Black forest cake หรือ Schwarzwälder Kirschtorte) เป็นเค้กสัญชาติเยอรมัน แน่นอนเยอรมันขึ้นชื่อเรื่องช็อกโกแลตเค้กอยู่แล้ว เอกลักษณ์ของเค้กชนิดนี้คือเค้กรสช็อกโกแลตฉ่ำด้วยบรั่นดีเชอร์รี (kirsh) สลับชั้นเชอร์รีและวิปปิ้งครีม ใครชอบเค้กกลิ่นเหล้าแนะนำว่าต้องกินแบลกฟลอเรส ถ้าแบบดั้งเดิมเลยแบลกฟลอเรสจะใช้เนื้อสปอนจ์เค้กช็อกโกแลตซึ่งเป็นเนื้อเจนัวเค้ก หรือเค้กที่ขึ้นฟูด้วยการตีไข่บนอ่างน้ำร้อน แล้วใส่แป้งเค้กและผงโกโก้เข้าด้วยกัน แต่สูตรนี้เราปรับให้เป็นเนื้อเค้กนุ่มละเอียดและเข้มขึ้นโดยใส่ช็อกโกแลตและผงโกโก้
Recommended Videos