เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

กรีกโยเกิร์ตโฮมเมด

Recipe by เชฟน่าน

Serves

1500 มิลลิลิตร

Level

3

ทำไมเราต้องทำโยเกิร์ตกินเอง ? คงเป็นคำถามแรกๆที่ทุกคนถามทุกคนทราบดีว่าโยเกิร์ตมีประโยชน์มหาศาล เนื่องจากเป็นอาหารในกลุ่มที่เรียกว่าโพรไบโอติกส์ (probiotics) หรืออาหารที่อุดมไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์มีชีวิต (Live bacteria) ซึ่งเป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย่ช่วยให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ ตัวอย่างที่เรารู้จักกันดี คือ กิมจิ นมเปรี้ยว และโยเกิร์ต นั่นเองโยเกิร์ตถือเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี มีปริมาณโปรตีนมากกว่านมถึง 20% ที่สำคัญกินโยเกิร์ตแล้วไม่ท้องอืดเหมือนกินนม เพราะเป็นโปรตีนย่อยง่ายพระเอกของโยเกิร์ตคือชื้อจุลินทรีย์มีชีวิต ย้ำว่าต้องมีชีวิตเท่านั้น โยเกิร์ตถึงจะมีประโยชน์มหาศาลไม่อย่างนั้นก็มีแค่โปรตีนและน้ำตาลเท่านั้นจุลินทรีย์ในโยเกิร์ตมีหลากหลายชนิด ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี คือแลคโตบาซิลลัส แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าโยเกิร์ตที่เราซื้อกินมีเชื้อจุลินทรีย์มีชีวิต! ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตของฝรั่งถ้าจุลินทรีย์มีชีวิตจะระบุชัดเจนว่า Live and Active Cultures ถ้ายี่ห้อที่เราซื้อกินระบุตามนี้ก็ซื้อกินต่อไปเถอะครับ หรือจะดีกว่าไหม ถ้าเราทำกินเอง มีจุลินทรีย์มีชีวิตแน่นอน รสชาติอร่อย และที่สำคัญถูกมากกกก

INGREDIENTS

นมสดชนิดจืด

2 ลิตร

โยเกิร์ตรสธรรมชาติไม่ใส่น้ำตาลชนิดจุลินทรีย์มีชีวิต

½ ถ้วย

น้ำผึ้ง ธัญพืชแห้ง และผลไม้สด สำหรับจัดเสิร์ฟ

METHOD

1. ใส่นมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวให้ได้อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส หมั่นคนตลอดเวลานาน 5-10 นาที ยกหม้อนมลงจากเตา คนให้นมคลายความร้อน อุณหภูมิลดลงเหลือ 40 องศาเซลเซียส

 

2. ใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (อุณหภูมิห้อง) ลงในหม้อนมคนให้เข้ากัน เทนมใส่ในภาชนะปิดสนิท หุ้มด้วยผ้าขนหนูหนาๆ (รักษาอุณหภูมิให้อยู่ประมาณ 30-40 องศาเซลเซียส) วางพักไว้นาน 4-6 ชั่วโมง หรือจนโยเกิร์ตข้นแข็ง

 

3. แบ่งโยเกิร์ตที่เป็นแล้วส่วนหนึ่งไว้เป็นหัวเชื้อโยเกิร์ตต่อไป ส่วนที่เหลือถ้าต้องการทำเป็นกรีกโยเกิร์ต ให้เทโยเกิร์ตใส่ผ้าขาวบางที่รองด้วยภาชนะ เพื่อรีดน้ำส่วนเกินออกนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอีก 30-60 นาที เพื่อ ให้ได้ความข้นตามต้องการ หรือแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง จนเย็นจัด แล้วเสิร์ฟทันที

 

4. ตักกรีกโยเกิร์ตใส่ถ้วย เสิร์ฟกับน้ำผึ้ง ธัญพืช และผลไม้สดตามชอบ

Gallery

Share this content

Tags:

Homemade, นม, เชฟน่าน, โยเกิร์ต

Recommended Articles

Recipeลงสรงลิ้นหมูหูหมู น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้
ลงสรงลิ้นหมูหูหมู น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้

ลงสรง เมนูนี้จะแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 อย่าง อย่างแรก คือ ผัดวุ้นเส้น ปรุงรสชาติอ่อนๆ ลิ้นหมูและหูหมูต้มพะโล้ ซึ่งปกติแล้วที่บ้านเชฟน่านจะมีเจ้าอร่อย ไม่ได้ทำเอง ซื้อมาแล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ต่อมาคือ ผักสดนานาชนิด ทั้งผักใบ ผักหอมสมุนไพรต่างๆ อาทิ ผักชี โหระพา สะระแหน่ ผักแพ้ว เพียบ! และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ออกสีเหลืองอมชมพู วิธีรับประทานให้เด็ดผักต่างๆใส่ในชามตามชอบ ตามด้วยผัดวุ้นเส้น หูหมูเเละลิ้นหมูตุ๋นพะโล้ ปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ เคล้าให้เข้ากัน กินองค์ประกอบครบทั้ง 4 อย่างพร้อมกันในคำเดียว อร่อยมากๆ

 

Recipeลงสรงลิ้นหมูหูหมู น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้
ลงสรงลิ้นหมูหูหมู น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้

ลงสรง เมนูนี้จะแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 อย่าง อย่างแรก คือ ผัดวุ้นเส้น ปรุงรสชาติอ่อนๆ ลิ้นหมูและหูหมูต้มพะโล้ ซึ่งปกติแล้วที่บ้านเชฟน่านจะมีเจ้าอร่อย ไม่ได้ทำเอง ซื้อมาแล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ต่อมาคือ ผักสดนานาชนิด ทั้งผักใบ ผักหอมสมุนไพรต่างๆ อาทิ ผักชี โหระพา สะระแหน่ ผักแพ้ว เพียบ! และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ออกสีเหลืองอมชมพู วิธีรับประทานให้เด็ดผักต่างๆใส่ในชามตามชอบ ตามด้วยผัดวุ้นเส้น หูหมูเเละลิ้นหมูตุ๋นพะโล้ ปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ เคล้าให้เข้ากัน กินองค์ประกอบครบทั้ง 4 อย่างพร้อมกันในคำเดียว อร่อยมากๆ

 

Recipeลงสรงลิ้นหมูหูหมู น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้
ลงสรงลิ้นหมูหูหมู น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้

ลงสรง เมนูนี้จะแบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 อย่าง อย่างแรก คือ ผัดวุ้นเส้น ปรุงรสชาติอ่อนๆ ลิ้นหมูและหูหมูต้มพะโล้ ซึ่งปกติแล้วที่บ้านเชฟน่านจะมีเจ้าอร่อย ไม่ได้ทำเอง ซื้อมาแล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นพอคำ ต่อมาคือ ผักสดนานาชนิด ทั้งผักใบ ผักหอมสมุนไพรต่างๆ อาทิ ผักชี โหระพา สะระแหน่ ผักแพ้ว เพียบ! และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ออกสีเหลืองอมชมพู วิธีรับประทานให้เด็ดผักต่างๆใส่ในชามตามชอบ ตามด้วยผัดวุ้นเส้น หูหมูเเละลิ้นหมูตุ๋นพะโล้ ปิดท้ายด้วยน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ เคล้าให้เข้ากัน กินองค์ประกอบครบทั้ง 4 อย่างพร้อมกันในคำเดียว อร่อยมากๆ

 

Recommended Videos