เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
2-3 คน
Level
2
พล่าหอยเชลล์เมนูเเซบๆที่อยากให้ได้ลอง เพิ่มความพิเศษด้วยเนื้อมังคุดราชินีผลไม้ของไทยมากประโยชน์ เริ่มทำโดยย่างหอยเชล์ให้พอสุก นำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำรสเปรี้ยวนำเค็มหวานลงตัว โรยตะไคร้ หอมแดง ใบสะระแหน่เเละใบมะกรูดปิดท้าย ก่อนจัดเสิร์ฟพร้อมผักสลัด
INGREDIENTS
หอยเชลล์ทั้งเปลือก (28 ตัว) 1 กิโลกรัม
1 กิโลกรัม
ตะไคร้ซอย
3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย
¼ ถ้วย
ใบสะระแหน่
¼ ถ้วย
ใบมะกรูดซอย
2 ช้อนโต๊ะ
มังคุดห่าม (เปลือกสีม่วงอ่อน)
8 ผล
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ)
น้ำมันมะกอกและพริกไทยบด ปริมาณเล็กน้อย
ผักสลัดสำหรับตกแต่งจาน
กระเทียมไทยเปลือกบาง
3 กลีบ
พริกขี้หนูสวนบุบ
7 เม็ด
น้ำปลา
1½ ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว
1 ช้อนชา
น้ำมะนาว
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายไม่ฟอก
1 ช้อนชา
น้ำมันน้ำพริกเผา
2 ช้อนชา
METHOD
1. ล้างขัดหอยเชลล์ทั้งเปลือกให้สะอาด แกะเอาแต่เนื้อหอยนำ ไปเคล้าเกลือให้ทั่ว ล้างอีกครั้งให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง เคล้ากับน้ำมันมะกอกและพริกไทยพอทั่ว พักไว้สักครู่
2. ย่างหอยเชลล์โดยตั้งกระทะสำ หรับย่างบนไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย พอกระทะร้อนจัด โรยเกลือเล็กน้อยบนเนื้อหอยเชลล์ให้ทั่ว จากนั้นใส่ลงย่างจนเหลือง จึงกลับอีกด้านย่างต่อจนสุกเหลือง ตักใส่จาน เตรียมไว้
3. ทำน้ำยำโดยโขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูพอแหลกเข้ากันดีใส่น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว น้ำตาล และน้ำมันน้ำพริกเผาคนเข้าด้วยกันจนน้ำตาลละลาย ชิมรสให้เปรี้ยวนำ เค็ม และหวานตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
4. ใส่หอยเชลล์ย่างและน้ำยำ ในอ่างผสม คลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว ใส่ตะไคร้ หอมแดง ใบสะระแหน่ ใบมะกรูด ตามด้วยเนื้อมังคุดคลุกเคล้าอีกครั้งให้เข้ากัน ตักใส่จานที่ตกแต่งหัวจานด้วยผักสลัดเสิร์ฟ
Recommended Articles
หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว
บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว
บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว
บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป
ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
Recommended Videos