เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
8 คน
Level
2
ส่วนมากเรามักจะกินแกงขี้เหล็กไม่ปลาย่างก็หมูย่าง แต่ในสูตรนี้เอาใจสายรักสุขภาพและสายมังสวิรัติด้วยการนำเอา "ขาเห็ด" ทำแทนเนื้อสัตว์อย่างอื่น ซึ่งตัวขาเห็ดเองที่มีเนื้อสัมผัสคล้ายกับเนื้อสัตว์จึงทำให้เมื่อแกงออกมาแล้วได้รสชาติอร่อยเหมือนใส่เนื้อสัตว์เลย
INGREDIENTS
หัวกะทิ
1½ ถ้วย
น้ำพริกแกงคั่วที่โขลก
½ ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
กะทิ
8 ถ้วย
ใบขี้เหล็กอ่อนต้มบีบน้ำออก
200 กรัม
ขาเห็ดหอมปรุงรสย่าง
1 ถ้วย
ซีอิ๊วขาว
3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ)
1½ ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ
2 ช้อนชา
พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำจนนุ่ม
15 เม็ด
เกลือสมุทร (ดอกเกลือ)
½ ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก
40 กรัม
ข่าแก่หั่นละเอียด
2 ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้ซอย
4 ต้น
ผิวมะกรูดซอย
2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย
20 กรัม
กะปิเจหรือเต้าเจี้ยวดำ
1 ช้อนชา
ขาเห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนุ่มบีบน้ำออก ทุบ
200 กรัม
ซีอิ๊วขาว
2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอยเจ
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ
½ ช้อนชา
น้ำมันมะกอก
1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำบดใหม่ๆ
¼ ช้อนชา
METHOD
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกพริกแห้งกับเกลือเข้าด้วยกันจนละเอียด ใส่กระเทียม ข่า ตะไคร้และผิวมะกรูด โขลกต่อจนละเอียดเข้ากัน จึงใส่หอมแดง และกะปิเจหรือเต้าเจี้ยวดำ โขลกต่ออีกครั้งจนละเอียดเข้ากัน ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ทำขาเห็ดหอมปรุงรสย่างโดยใส่ขาเห็ดหอมลงในอ่างผสม ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอยเจ น้ำตาลปี๊บ น้ำมันมะกอก และพริกไทยดำ เคล้าให้เข้ากันทั่ว หมักไว้ในอุณหภูมิห้องนาน 15 นาทีขึ้นไป แล้วนำไปย่างในกระทะก้นตื้นด้วยไฟอ่อนจนสุกหอม ทำจนหมด ใส่ถ้วย พักไว้
3. ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วย ลงในกระทะ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงคั่วที่โขลกผัดจนมีกลิ่นหอมและมีมันสีแดงลอยหน้าใส่กะทิ 2 ถ้วย และใบขี้เหล็กอ่อนต้ม คนพอทั่วใส่กะทิ 2 ถ้วย และขาเห็ดหอมปรุงรสย่างผัดพอทั่ว ใส่กะทิ 2 ถ้วย ผัดจนทั่ว ใส่กะทิที่เหลือปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ และน้ำตาล ผัดจนทั่วและเดือด ชิมรสให้เค็มกลมกล่อม ใส่หัวกะทิที่เหลือ ผัดพอทั่ว ปิดไฟ
4. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Recommended Articles

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

คุกกี้ขนมที่เรียกได้ว่าถ้าอยากจะพักดื่มกาแฟหรือดื่มน้ำชาสักหน่อยขนมที่คิดจะกินคู่กันก็คงหนีไม่พ้น คุกกี้หอมๆกรอบนอกนุ่มในเป็นแน่ อยากสูตรคุกกี้สูตรนี้ก็ทั้งหอม อร่อย และที่สำคัญไม่หวานจนเกินไปแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย เป็นคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ผสมเก๋ากี้ลงไปด้วยเพิ่มสีสันของรสชาติมากขึ้นเลือกใช้อัลมอนด์ป่นแทนใช้แป้งสาลี เพราะฉะนั้นคนที่แพ้แป้งทานได้แน่นอน รสชาติไม่หวานมากไป กินเพลินๆกับน้ำชาคือที่สุด

เมนูที่ทำจากผงวุ้นอีกหนึ่งเมนูที่รับประกันได้ว่าอร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มๆแน่นอน เราคุ้นชิ้นกับกินน้ำเต้าหู้ในรูปแบบเครื่องดื่ม แต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนน้ำเต้าหู้ให้เป็นขนมหวานทานง่ายโดยนำน้ำเต้าหู้มาผสมกับผงวุ้นแล้วนำไปเซ็ตตัวก่อนจะเสิร์ฟมากับธัญพืชต่างๆไม่ว่าจะเป็นลูกเดือย ถั่วเขียว ถั่วแดงต้มที่นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย กินเย็นๆรับลองได้เลยว่าอร่อยชื่นใจเป็นแน่

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

คุกกี้ขนมที่เรียกได้ว่าถ้าอยากจะพักดื่มกาแฟหรือดื่มน้ำชาสักหน่อยขนมที่คิดจะกินคู่กันก็คงหนีไม่พ้น คุกกี้หอมๆกรอบนอกนุ่มในเป็นแน่ อยากสูตรคุกกี้สูตรนี้ก็ทั้งหอม อร่อย และที่สำคัญไม่หวานจนเกินไปแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย เป็นคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ผสมเก๋ากี้ลงไปด้วยเพิ่มสีสันของรสชาติมากขึ้นเลือกใช้อัลมอนด์ป่นแทนใช้แป้งสาลี เพราะฉะนั้นคนที่แพ้แป้งทานได้แน่นอน รสชาติไม่หวานมากไป กินเพลินๆกับน้ำชาคือที่สุด

เมนูที่ทำจากผงวุ้นอีกหนึ่งเมนูที่รับประกันได้ว่าอร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มๆแน่นอน เราคุ้นชิ้นกับกินน้ำเต้าหู้ในรูปแบบเครื่องดื่ม แต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนน้ำเต้าหู้ให้เป็นขนมหวานทานง่ายโดยนำน้ำเต้าหู้มาผสมกับผงวุ้นแล้วนำไปเซ็ตตัวก่อนจะเสิร์ฟมากับธัญพืชต่างๆไม่ว่าจะเป็นลูกเดือย ถั่วเขียว ถั่วแดงต้มที่นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย กินเย็นๆรับลองได้เลยว่าอร่อยชื่นใจเป็นแน่

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

คุกกี้ขนมที่เรียกได้ว่าถ้าอยากจะพักดื่มกาแฟหรือดื่มน้ำชาสักหน่อยขนมที่คิดจะกินคู่กันก็คงหนีไม่พ้น คุกกี้หอมๆกรอบนอกนุ่มในเป็นแน่ อยากสูตรคุกกี้สูตรนี้ก็ทั้งหอม อร่อย และที่สำคัญไม่หวานจนเกินไปแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย เป็นคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ผสมเก๋ากี้ลงไปด้วยเพิ่มสีสันของรสชาติมากขึ้นเลือกใช้อัลมอนด์ป่นแทนใช้แป้งสาลี เพราะฉะนั้นคนที่แพ้แป้งทานได้แน่นอน รสชาติไม่หวานมากไป กินเพลินๆกับน้ำชาคือที่สุด

เมนูที่ทำจากผงวุ้นอีกหนึ่งเมนูที่รับประกันได้ว่าอร่อยแถมได้ประโยชน์เต็มๆแน่นอน เราคุ้นชิ้นกับกินน้ำเต้าหู้ในรูปแบบเครื่องดื่ม แต่ครั้งนี้เราจะเปลี่ยนน้ำเต้าหู้ให้เป็นขนมหวานทานง่ายโดยนำน้ำเต้าหู้มาผสมกับผงวุ้นแล้วนำไปเซ็ตตัวก่อนจะเสิร์ฟมากับธัญพืชต่างๆไม่ว่าจะเป็นลูกเดือย ถั่วเขียว ถั่วแดงต้มที่นำไปเคี่ยวกับน้ำตาลเพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อย กินเย็นๆรับลองได้เลยว่าอร่อยชื่นใจเป็นแน่
Recommended Videos