เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

ชูส์ครีมกาแฟ

Recipe by ชรินรัตน์ จริงจิตร

Serves

70 ชิ้น

Level

3

กลิ่นหอมของกาแฟที่ให้รสชาติขมๆ มันๆ ผสมกับความหวานของครีมคัสตาร์ด ทำให้ได้รสชาติหวาน หอม น่าลิ้มลองและเข้ากันได้ดีกับรสโกโก้ในแป้งชูส์

INGREDIENTS

อุปกรณ์​ ถุงบีบ หัวบีบแฉกขนาด 10 มม.สำหรับบีบแป้งชูส์ หัวบีบปลายตัดสำหรับบีบไส้

METHOD

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ปูกระดาษไขหรือแผ่นอบซิลิโคนในถาดอบและร่อนแป้งเค้กกับผงโกโก้ เตรียมไว้

 

2. ทำ แป้งชูส์โดยใส่น้ำ นม เนย และเกลือป่น ลงในหม้อ ปิดฝา ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง พอเดือดเปิดฝา เทแป้งและผงโกโก้ที่ร่อนไว้ใส่ลงในหม้อทั้งหมด ใช้พายไม้คนให้เข้ากัน ลดเป็นไฟอ่อนคนจนแป้งล่อนออกจากข้างหม้อ ยกลง เทแป้งใส่อ่างผสม ค่อยๆ ใส่ไข่ไก่ทีละน้อย คนจนไข่ไก่ซึมเข้าเนื้อแป้ง แล้วจึงทยอยใส่ไข่ไก่ทีละน้อย ทำเช่นนี้จนแป้งเหลวได้ที่ ไม่จำ เป็นต้องใส่ไข่ไก่ทั้งหมด ให้สังเกตจากเมื่อใช้พายไม้ตักแป้งขึ้นมาแล้วแป้งไหลเป็นรูปตัววี

 

3. ตักแป้งชูส์ใส่ถุงบีบ ใช้หัวบีบแฉก บีบแป้งชูส์เป็นก้อนกลมขนาด 2.5 ซม. จนเต็มถาด ใช้แปรงจุ่มไข่ไก่ที่เหลือทาหน้าแป้งชูส์บางๆ นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 18 นาที หรือจนแป้งชูส์สุก นำออกจากเตาอบ พักไว้บนตะแกรงจนเย็นสนิท

 

4. ทำคัสตาร์ดกาแฟโดยใส่นมและวิปปิ้งครีมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง ระหว่างนั้นตีไข่ไก่ น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลา ด้วยตะกร้อในอ่างผสมจนสีอ่อนลง ใส่แป้งข้าวโพด ตีให้เข้ากัน เทนมอุ่นครึ่งหนึ่งลงในอ่างส่วนผสมไข่ไก่ ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงในหม้อนมที่เหลือ คนให้เข้ากัน ตั้งไฟต่อจนส่วนผสมเดือดข้น ปิดไฟใส่กลิ่นกาแฟเข้มข้นและเนย ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากันและเนยละลายเทใส่ชาม ปิดด้วยพลาสติกแรป พักไว้ให้เย็น ตักใส่ถุงบีบพร้อมหัวบีบ เตรียมไว้

 

5. บีบคัสตาร์ดกาแฟใส่ในแป้งชูส์ที่อบไว้ ทำจนหมด

Share this content

Tags:

bakery, Choux, Coffee, cream, dessert, กาแฟ, ขนมหวาน, ของหวาน, ของหวานฝรั่ง, คัสตาร์ดกาแฟ, เบเกอร์รี, แอแคลร์

Recommended Articles

Recipeพายลูกตาลสังขยา
พายลูกตาลสังขยา

พายลูกตาลทำเป็นไส้สังขยาใบเตยผสมเนื้อลูกตาลอ่อน เพิ่มลูกเล่นโดยใช้น้ำตาลโตนดให้กลิ่นสังขยาที่หอมเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ด้านล่างเป็นบิสกิตกรอบร่วนหอมเค็มเนย ปิดด้วยครีมสดข้างบนให้รสนวลๆ หอมหวานจากน้ำตาลโตนด

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recipeมะกรูดลอยแก้ว
มะกรูดลอยแก้ว

มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน

 

Recommended Videos