เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
8 ชิ้น
Level
3
เนื้อครีมสดผสมชาเชียวรสเข้มข้น หอมมัน ไม่หวานมากประกอบกับแป้งเครปเนื้อบาง ทำให้หลายต่อหลายคนติดใจกับรสอร่อยอย่างมีเสน่ห์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ที่ปลายลิ้นหลังรับประทานเสร็จ
INGREDIENTS
เนยสดชนิดจืดสำหรับทากระทะ
ผงชาเขียวมัทฉะสำหรับโรย
แป้งเค้ก
75 กรัม
ผงชาเขียวมัทฉะ
8 กรัม
น้ำตาลทราย
25 กรัม
ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน(ฟองละ 65-70 กรัม)
2 ฟอง
นมสดชนิดจืด
250 กรัม
เนยสดชนิดจืดละลาย
25 กรัม
น้ำตาลทราย
85 กรัม
ผงชาเขียวมัทฉะ
15 กรัม
วิปปิ้งครีม
600 กรัม
เหล้ากรองด์มาร์นีเย (Grand Marnier)
7 ช้อนชา
METHOD
1. เตรียมแป้งเครปโดยร่อนแป้งเค้กและผงชาเขียวลงในอ่างผสม ใส่น้ำตาล ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน แหวกแป้งเป็นหลุมตรงกลาง ใส่ไข่ไก่ ใช้ตะกร้อค่อยๆ คนให้แป้งผสมกับของเหลว เมื่อแป้งกับไข่ไก่พอเข้ากัน ค่อยๆ เทนมสดและเนยละลาย คนให้เข้ากัน กรองแป้งเครปผ่านกระชอน พักแป้งเครปที่เตรียมไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 30 นาที
2. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ทาเนยบางๆบนกระทะ พอกระทะร้อน ตักแป้งเครปประมาณ ¼ ถ้วย ใส่ลงในกระทะ กลอกแป้งเครปบางๆ ให้ทั่วกระทะ แล้วลดไฟลง พอแป้งด้านล่างสุก ใช้ไม้ปลายแหลมสะกิดขอบแป้งขึ้น แล้วใช้มือพลิกกลับแผ่นแป้งอีกด้าน ทอดต่อจนสุกพักแผ่นเครปบนตะแกรงจนเย็นสนิท แล้วนำ ไปวางในจาน ทำจนหมดแผ่นแป้ง ใช้พิมพ์วงแหวนกดแผ่นเครปให้เท่ากันทุกแผ่น นำแผ่นเครปใส่จาน ปิดด้วยพลาสติกแร็ป พักไว้
3. ทำครีมชาเขียวโดยผสมน้ำตาลกับผงชาเขียวในถ้วยคนให้เข้ากัน ตีวิปปิ้งครีมในเครื่องตีเค้กหัวตีตะกร้อความเร็วปานกลาง ใส่ผงชาเขียวที่ผสมไว้ทีละน้อย ตีให้เข้ากัน เมื่อครีมชาเขียวเริ่มข้นและตั้งยอด 80% ใส่เหล้ากรองมาเนียร์ ตีต่อจนวิปปิ้งครีมตั้งยอดแข็ง
4. ทำเครปเค้กโดยตักครีมชาเขียวประมาณ 1 ช้อนชา ทาลงบนฐานแต่งเค้ก วางแผ่นเครปแผ่นแรกบนฐานแต่งเค้ก (ครีมชาเขียวช่วยให้แผ่นเครปไม่เลื่อนขณะปาดครีม) ตักครีมชาเขียวประมาณ ¼ ถ้วย ลงบนแผ่นเครปใช้สเปตูล่าขนาดเล็กปาดครีมให้เรียบทั่วแผ่น วางแผ่นเครปชั้นที่ 2 ทำจนแผ่นแป้งและครีมหมด โดยเมื่อทำได้ 5 ชั้น ใช้แผ่นสเตนเลสหรือจานลักษณะกลมทาบบนหน้าเครปเค้ก แล้วกดเบาๆ เพื่อให้ครีมบางเสมอกัน นำเครปเค้กแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง จนครีมด้านในเซ็ตตัว
5. จัดเสิร์ฟโดยตัดเครปเค้กชาเขียวใส่จาน โรยผงชาเขียวบางๆ
สูตรอาหารโดย ปรางแก้ว บัณฑรรุ่งโรจน์
Tags:
ขนมญี่ปุ่น, ขนมไม่อบ, ของหวานฝรั่ง, ชาเขียว, ทอด, วิปปิ้งครีม, เครป, เบเกอร์รี่ญี่ปุ่น, แป้งสาลี
Recommended Articles

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน
Recommended Videos