เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
3/4 ถ้วย
Level
2
INGREDIENTS
พริกขี้หนูสวน
15 เม็ด
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก
¼ ถ้วย
น้ำส้มสายชู
½ ถ้วย+2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ
¼ ถ้วย
ถั่วลิสงคั่วบุบหยาบ
2 ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. โขลกพริกขี้หนูกับเกลือและกระเทียมเข้าด้วยกันพอแหลก ตักใส่ชามหรืออ่างผสม ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำตาล คนให้ทั่วจนน้ำตาลละลาย ใส่ถั่วลิสง (แบ่งไว้โรยหน้าเล็กน้อย) คนพอทั่ว ชิมรสให้เปรี้ยว หวาน เค็ม กรุบมันถั่วลิสง
2. ตักใส่ถ้วย โรยถั่วลิสงที่เหลือ เสิร์ฟ
Tips
- น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรนี้เลือกใช้น้ำส้มสายชูที่มีรสเปรี้ยวแหลมมาปรุง จิ้มกินกับหอยแครงลวกหรือปิ้งที่มีรสคาว รสเปรี้ยวจะช่วยดับกลิ่นคาวและช่วยให้เนื้อหอยมีรสหวานยิ่งขึ้น ปรุงรสหวานด้วยน้ำตาลปี๊บ รสจึงหวานนุ่มนวล ใส่ถั่วลิสงคั่วทำให้มีความกรุบมัน
Recommended Articles

ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน

พริกดองเผ็ดสไตล์จีน ใช้พริกชี้ฟ้ามาปั่นรวมกับขิงเเละกระเทียม ก่อนนำมาคลุกเค้ลากับเครื่อปรุงอื่นๆ รสเผ็ดเค็ม หอมกลิ่นขิง กระเทียมและเหล้าจีน ส่วนมากนิยมกินกับอาหารประเภททอดหรืออาหารที่มีความมันเลี่ยน อย่างขาหมู หมูกรอบ ข้าวมันไก่ ปลานึ่ง จะใส่ปรุงรสในก๋วยเตี๋ยว ทำซอส น้ำจิ้มหรือทำเป็นกับข้าวก็ได้

ใกล้หน้าร้อนเมื่อไหร่ ผลไม้ยอดนิยมอย่างมะยงชิดก็เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเลยจะมีเมนูที่ทำจากมะยงชิดมากมาย วันนี้เลยจะมาแจกเมนูที่ทำจากมะยงชิดนำไปทำเป็น "ตำมะยงชิด" รสแซ่บที่ไม่เหมือนใคร เพราะสูตรนี้ดัดแปลงมาจากน้ำพริกกะปิ ทำให้หอมกะปิ เข้ากันกับมะยงชิดเปรี้ยวอมหวานเป็นที่สุด และยังโรยปลากรอบและกุ้งแห้ง เพิ่มความอร่อยให้กับตำมะยงชิดอีกด้วย

กะปิพล่าเครื่องปรุงคล้ายน้ำพริกกะปิ ได้แก่ กะปิ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู กุ้งแห้ง น้ำตาล มะนาว ต่างกันตรงที่มีน้ำ เนื้อและผิวส้มซ่าเข้ามาเสริมรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของส้มซ่า ข้อแตกต่างสำคัญคือกะปิพล่าไม่ต้องโขลกในครก ใช้วิธีผสมให้เครื่องต่างๆเข้ากันในถ้วยหรือชาม ดังนั้นส่วนผสมต่างๆเช่น กระเทียม หอม กุ้งแห้งจึงต้องหั่นซอยให้บางให้เป็นเนื้อสัมผัสเวลากิน กะปิพล่ารับประทานกับผักสด ผักต้ม มีเครื่องเคียงเพิ่มความอร่อยเช่น ปลาช่อนแดดเดียวและหมูหวาน ใครจะกินกับไข่ต้มก็ได้ อร่อยเหมือนกัน

นอกจากคาร์โบนาราแล้ว Amatriciana (อมาตรีชานา) เป็นหนึ่งในซอสคลาสสิกของอาหารอิตาเลียน ถือกำเนิดขึ้นที่กรุงโรมในแคว้นลาซิโอ้ แต่เดิมพื้นฐานเป็นแค่ซอสมะเขือเทศเผ็ดๆใส่ guanciale (กวนชาเล่ หรือ อิตาเลียนเบคอนที่ใช้ส่วนแก้มหมู) และชีสเพคโคริโน (pecorino) สูตรนี้เพิ่มเนื้อซอสโดยการใส่มะเขือม่วงเข้าไปด้วย และผัดกับ Papadelle (พัพพาร์เดลเล่ย์) พาสต้าไข่เส้นแบนคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ผัดให้น้ำซอสซึมเข้าเนื้อเส้น ก่อนเสิร์ฟโรยริคอตต้าชีส แล้วหยอดเพสโต้าเล็กน้อยเสริมกลิ่นโหระพาไปกับซอสมะเขือเทศ กินกับร็อกเกตให้รสเผ็ดอ่อนๆในปาก

หนึ่งในอาหารฤดูร้อนของคนโบราณจะขาดขนมจีนซาวน้ำไปไม่ได้เลย ถึงจะเป็นสำหรับคาวแต่รับประทานแล้วสดชื่นจากรสชาติหวานหอมของสับปะรด หัวกะทิคั้นสดรสชาติหวานหอม รับประทานกับแจงลอนซึ่งทำให้อร่อยรสชาติต้องไม่คาว กินแบบคลุกเคล้ากับเครื่องทำหมดได้แก่ ขิงอ่อนซอยบางๆ กระเทียมซอยเป็นแผ่นบางๆ กุ้งแห้งป่นฟู ปรุงรสให้ครบได้แก่ น้ำตาล (ถ้าเป็นแถบราชบุรี เพชรบุรีจะใช้น้ำตาลมะพร้าวเคี่ยว) น้ำปลา (พริกขี้หนูซอย) บีบมะนาวเล็กน้อย เป็นขนมจีนที่เรียกว่าอร่อยตำรับใครตำรับมันเพราะเเล้วแต่รสชาติที่ถูกใจของคนปรุง แต่โดยรวมแล้วเมนูนี้รับประทานแล้วอร่อยสดชื่นรับหน้าร้อนแน่นอน

ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน

พริกดองเผ็ดสไตล์จีน ใช้พริกชี้ฟ้ามาปั่นรวมกับขิงเเละกระเทียม ก่อนนำมาคลุกเค้ลากับเครื่อปรุงอื่นๆ รสเผ็ดเค็ม หอมกลิ่นขิง กระเทียมและเหล้าจีน ส่วนมากนิยมกินกับอาหารประเภททอดหรืออาหารที่มีความมันเลี่ยน อย่างขาหมู หมูกรอบ ข้าวมันไก่ ปลานึ่ง จะใส่ปรุงรสในก๋วยเตี๋ยว ทำซอส น้ำจิ้มหรือทำเป็นกับข้าวก็ได้

ใกล้หน้าร้อนเมื่อไหร่ ผลไม้ยอดนิยมอย่างมะยงชิดก็เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเลยจะมีเมนูที่ทำจากมะยงชิดมากมาย วันนี้เลยจะมาแจกเมนูที่ทำจากมะยงชิดนำไปทำเป็น "ตำมะยงชิด" รสแซ่บที่ไม่เหมือนใคร เพราะสูตรนี้ดัดแปลงมาจากน้ำพริกกะปิ ทำให้หอมกะปิ เข้ากันกับมะยงชิดเปรี้ยวอมหวานเป็นที่สุด และยังโรยปลากรอบและกุ้งแห้ง เพิ่มความอร่อยให้กับตำมะยงชิดอีกด้วย

กะปิพล่าเครื่องปรุงคล้ายน้ำพริกกะปิ ได้แก่ กะปิ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู กุ้งแห้ง น้ำตาล มะนาว ต่างกันตรงที่มีน้ำ เนื้อและผิวส้มซ่าเข้ามาเสริมรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของส้มซ่า ข้อแตกต่างสำคัญคือกะปิพล่าไม่ต้องโขลกในครก ใช้วิธีผสมให้เครื่องต่างๆเข้ากันในถ้วยหรือชาม ดังนั้นส่วนผสมต่างๆเช่น กระเทียม หอม กุ้งแห้งจึงต้องหั่นซอยให้บางให้เป็นเนื้อสัมผัสเวลากิน กะปิพล่ารับประทานกับผักสด ผักต้ม มีเครื่องเคียงเพิ่มความอร่อยเช่น ปลาช่อนแดดเดียวและหมูหวาน ใครจะกินกับไข่ต้มก็ได้ อร่อยเหมือนกัน

นอกจากคาร์โบนาราแล้ว Amatriciana (อมาตรีชานา) เป็นหนึ่งในซอสคลาสสิกของอาหารอิตาเลียน ถือกำเนิดขึ้นที่กรุงโรมในแคว้นลาซิโอ้ แต่เดิมพื้นฐานเป็นแค่ซอสมะเขือเทศเผ็ดๆใส่ guanciale (กวนชาเล่ หรือ อิตาเลียนเบคอนที่ใช้ส่วนแก้มหมู) และชีสเพคโคริโน (pecorino) สูตรนี้เพิ่มเนื้อซอสโดยการใส่มะเขือม่วงเข้าไปด้วย และผัดกับ Papadelle (พัพพาร์เดลเล่ย์) พาสต้าไข่เส้นแบนคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ผัดให้น้ำซอสซึมเข้าเนื้อเส้น ก่อนเสิร์ฟโรยริคอตต้าชีส แล้วหยอดเพสโต้าเล็กน้อยเสริมกลิ่นโหระพาไปกับซอสมะเขือเทศ กินกับร็อกเกตให้รสเผ็ดอ่อนๆในปาก

หนึ่งในอาหารฤดูร้อนของคนโบราณจะขาดขนมจีนซาวน้ำไปไม่ได้เลย ถึงจะเป็นสำหรับคาวแต่รับประทานแล้วสดชื่นจากรสชาติหวานหอมของสับปะรด หัวกะทิคั้นสดรสชาติหวานหอม รับประทานกับแจงลอนซึ่งทำให้อร่อยรสชาติต้องไม่คาว กินแบบคลุกเคล้ากับเครื่องทำหมดได้แก่ ขิงอ่อนซอยบางๆ กระเทียมซอยเป็นแผ่นบางๆ กุ้งแห้งป่นฟู ปรุงรสให้ครบได้แก่ น้ำตาล (ถ้าเป็นแถบราชบุรี เพชรบุรีจะใช้น้ำตาลมะพร้าวเคี่ยว) น้ำปลา (พริกขี้หนูซอย) บีบมะนาวเล็กน้อย เป็นขนมจีนที่เรียกว่าอร่อยตำรับใครตำรับมันเพราะเเล้วแต่รสชาติที่ถูกใจของคนปรุง แต่โดยรวมแล้วเมนูนี้รับประทานแล้วอร่อยสดชื่นรับหน้าร้อนแน่นอน

ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน

พริกดองเผ็ดสไตล์จีน ใช้พริกชี้ฟ้ามาปั่นรวมกับขิงเเละกระเทียม ก่อนนำมาคลุกเค้ลากับเครื่อปรุงอื่นๆ รสเผ็ดเค็ม หอมกลิ่นขิง กระเทียมและเหล้าจีน ส่วนมากนิยมกินกับอาหารประเภททอดหรืออาหารที่มีความมันเลี่ยน อย่างขาหมู หมูกรอบ ข้าวมันไก่ ปลานึ่ง จะใส่ปรุงรสในก๋วยเตี๋ยว ทำซอส น้ำจิ้มหรือทำเป็นกับข้าวก็ได้

ใกล้หน้าร้อนเมื่อไหร่ ผลไม้ยอดนิยมอย่างมะยงชิดก็เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเลยจะมีเมนูที่ทำจากมะยงชิดมากมาย วันนี้เลยจะมาแจกเมนูที่ทำจากมะยงชิดนำไปทำเป็น "ตำมะยงชิด" รสแซ่บที่ไม่เหมือนใคร เพราะสูตรนี้ดัดแปลงมาจากน้ำพริกกะปิ ทำให้หอมกะปิ เข้ากันกับมะยงชิดเปรี้ยวอมหวานเป็นที่สุด และยังโรยปลากรอบและกุ้งแห้ง เพิ่มความอร่อยให้กับตำมะยงชิดอีกด้วย

กะปิพล่าเครื่องปรุงคล้ายน้ำพริกกะปิ ได้แก่ กะปิ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู กุ้งแห้ง น้ำตาล มะนาว ต่างกันตรงที่มีน้ำ เนื้อและผิวส้มซ่าเข้ามาเสริมรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของส้มซ่า ข้อแตกต่างสำคัญคือกะปิพล่าไม่ต้องโขลกในครก ใช้วิธีผสมให้เครื่องต่างๆเข้ากันในถ้วยหรือชาม ดังนั้นส่วนผสมต่างๆเช่น กระเทียม หอม กุ้งแห้งจึงต้องหั่นซอยให้บางให้เป็นเนื้อสัมผัสเวลากิน กะปิพล่ารับประทานกับผักสด ผักต้ม มีเครื่องเคียงเพิ่มความอร่อยเช่น ปลาช่อนแดดเดียวและหมูหวาน ใครจะกินกับไข่ต้มก็ได้ อร่อยเหมือนกัน

นอกจากคาร์โบนาราแล้ว Amatriciana (อมาตรีชานา) เป็นหนึ่งในซอสคลาสสิกของอาหารอิตาเลียน ถือกำเนิดขึ้นที่กรุงโรมในแคว้นลาซิโอ้ แต่เดิมพื้นฐานเป็นแค่ซอสมะเขือเทศเผ็ดๆใส่ guanciale (กวนชาเล่ หรือ อิตาเลียนเบคอนที่ใช้ส่วนแก้มหมู) และชีสเพคโคริโน (pecorino) สูตรนี้เพิ่มเนื้อซอสโดยการใส่มะเขือม่วงเข้าไปด้วย และผัดกับ Papadelle (พัพพาร์เดลเล่ย์) พาสต้าไข่เส้นแบนคล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ผัดให้น้ำซอสซึมเข้าเนื้อเส้น ก่อนเสิร์ฟโรยริคอตต้าชีส แล้วหยอดเพสโต้าเล็กน้อยเสริมกลิ่นโหระพาไปกับซอสมะเขือเทศ กินกับร็อกเกตให้รสเผ็ดอ่อนๆในปาก

หนึ่งในอาหารฤดูร้อนของคนโบราณจะขาดขนมจีนซาวน้ำไปไม่ได้เลย ถึงจะเป็นสำหรับคาวแต่รับประทานแล้วสดชื่นจากรสชาติหวานหอมของสับปะรด หัวกะทิคั้นสดรสชาติหวานหอม รับประทานกับแจงลอนซึ่งทำให้อร่อยรสชาติต้องไม่คาว กินแบบคลุกเคล้ากับเครื่องทำหมดได้แก่ ขิงอ่อนซอยบางๆ กระเทียมซอยเป็นแผ่นบางๆ กุ้งแห้งป่นฟู ปรุงรสให้ครบได้แก่ น้ำตาล (ถ้าเป็นแถบราชบุรี เพชรบุรีจะใช้น้ำตาลมะพร้าวเคี่ยว) น้ำปลา (พริกขี้หนูซอย) บีบมะนาวเล็กน้อย เป็นขนมจีนที่เรียกว่าอร่อยตำรับใครตำรับมันเพราะเเล้วแต่รสชาติที่ถูกใจของคนปรุง แต่โดยรวมแล้วเมนูนี้รับประทานแล้วอร่อยสดชื่นรับหน้าร้อนแน่นอน
Recommended Videos