เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2 คน
Level
2
ส้มโอทั้งสองสี ที่นำมาเคล้ากันเป็นยำรสชาติสดชื่นๆเปรี้ยวอมหวานหน่อยๆ เพิ่มความหวานของอาหารทะเลอย่างเนื้อปูนึ่งและกุ้งนึ่ง ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ คลุกเคล้ากับเครื่องยำต่างๆ และปิดท้ายด้วยการโรยมะพร้าวคั่ว เพิ่มความกรุบกรอบและมัน
INGREDIENTS
เนื้อส้มโอขาวใหญ่แกะ
100 กรัม
เนื้อส้มโอทับทิมแกะ
100 กรัม
มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง
½ ถ้วย
แตงกวาหั่นแว่นบาง
½ ลูก
เเรดิชหั่นแว่นบาง
1 ลูก
เนื้อกุ้งขาวหั่นเต๋าย่าง
½ ถ้วย
กรรเชียงปูนึ่ง
¼ ถ้วย
มะพร้าวคั่วแผ่นสำหรับโรย
ใบผักชีสำหรับตกแต่ง
กระเทียมไทยแกะเปลือก
4 เม็ด
พริกจินดาแดงซอย
12 เม็ด
น้ำมะนาว
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา
1 ช้อนชา
น้ำตาลมะพร้าว
1½ ช้อนชา
METHOD
1. ทำน้ำยำโดยโขลกกระเทียมกับพริกจินดาจนละเอียด ตักใส่ชาม ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว คนส่วนผสมให้เข้ากัน พอน้ำตาลละลาย ชิมรสให้เปรี้ยวอมหวาน พักไว้
2. บิเนื้อส้มโอ 1 กลีบ แบ่งเป็น 4 ชิ้นเล็ก ทำจนหมด ใส่จานพักไว้ ใส่มะเขือเทศ แตงกวา เเรดิช เนื้อกุ้ง กรรเชียงปู และเนื้อส้มโอที่แกะไว้ลงในชาม จากนั้นใส่น้ำยำที่เตรียมไว้ลงในอ่างผสม คลุกเคล้าเบาๆ ให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน พักไว้
3. ตักยำส้มโอใส่จาน โรยด้วยมะพร้าวคั่ว ตกแต่งด้วยใบผักชี เสิร์ฟ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Gallery






Recommended Articles

‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ

วันนี้เรามีเมนูอาหารว่างของไทยที่ทำกินได้ไม่ยากนั่นก็คือ ‘ยำส้มโอ’ เมนูอร่อยครบรส ที่เหมาะสำหรับทานเล่นกันในครอบครัว และว่ากันว่าส้มโอที่อร่อยจะต้องเป็นพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจะให้รสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อแน่นน้ำหนักดี ไม่มีรสขมและรสซ่า เมื่อแก่จัดเนื้อจะแห้งถูกคอคนไทยและคนต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง

ภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสานเช่นกัน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆหวานๆหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดเล็กน้อยจากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ความลงตัวกันของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลย

“โรลครีมชีสลูกตาล” ที่นำวัตถุดิบจากต้นตาลโตนดมาใส่ลงในเมนูนี้ถึง 3 อย่าง น้ำตาลสด น้ำตาลโตนด และลูกตาลอ่อน โดยทั้ง 3 อย่างนี้อยู่ในส่วนของครีมชีสที่เป็นการตีครีมชีสกับน้ำตาลโตนดให้เข้ากันก่อนที่จะผสมตัวน้ำตาลสดเข้าไป บอกเลยว่าตอนตีครีมชีสก็หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นของน้ำตาลโตนดไปทั่วห้อง ก่อนจะนำมาผสมรวมกับวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ เนื้อครีมชีสที่ได้ก็จะนุ่มเบาหอมกลิ่นน้ำตาลโตนด เปรี้ยวอมหวานนิดๆ

“ยำส้มกะปิทรงเครื่อง” เป็นการนำเอากะปิมาละลายกับกะทิจากนั้นนำไปคั่วให้หอมในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา รสชาติที่ได้ก็หอมๆนวลกะปิ จากนั้นก็นำมาเคล้ากับส้มที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มความพิเศษของยำเข้าไปอีกด้วยการใส้เครื่องอย่างกระเทียมซอย หอมแดงซอย พริกจินดาแดงซอย มะพร้าวคั่ว เคล้าๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อปลากะพงแดงที่นำไปเคล้ากับเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้หนังกรอบ เนื้อด้านในสุกกำลังดี ตกแต่งด้วยใบผักชี

“แกงคั่วหอยหลอด” ที่ใช้เครื่องแกงคั่วทางใต้ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกง นำมาผัดให้เข้ากันกับหางกะทิ จากนั้นก็ใส่ผักต่างๆอย่างมะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบชะพลู พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า เป็นต้น และก็ใส่พระเอกของเราอย่าง หอยหลอดเข้าไป ปรุงรสแค่เกลือสมุทรและน้ำตาลมะพร้าวเท่านั้น ปิดท้ายด้วยความมันกลมกล่อมอย่างหัวกะทิ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยหลอดรสชาติเผ็ดร้อนแบบฉบับคนใต้ กินกับข้าวสวยร้อน

“ยำใบบัวบกกะทิ” เป็นการทำน้ำยำโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำแล้วจนนุ่ม กับหอมแดงและกระเทียมไทยที่นำไปเผาให้หอม แกะเอาเนื้อมาโขลกให้ละเอียดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปเคี่ยวกับกะทิให้หอมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะนาว ให้ได้รสชาติเปรี้ยวนำ และเค็มหวานตามกันมา จากนั้นก็ย่างหมูย่างตะไคร้ที่หอมกลิ่นเครื่องหมักอย่างตะไคร้ กระเทียม และพริกไทย ย่างให้สุกหอมและหั่นเป็นชิ้นบางๆ ซอยใบบัวบกให้เป็นเส้นๆ เคล้ากับเครื่องยำอย่างหอมแดงซอย กระเทียมเจียว มะพร้าวคั่ว พริกจินดาซอย และมะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง เคล้ารวมกับน้ำยำเล็กน้อย แล้วจัดใส่จานเสิร์ฟกับหมูย่างตะไคร้ได้เลย

“มะมุด ส้มมุด หรือมะม่วงป่า” แล้วแต่ละท้องถิ่นจะเรียกกัน ซึ่งเจ้ามะมุดหรือส้มมุดที่ว่านี้ เป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ไทย รวมไปถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม ด้วย และยังเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลอ่อนผิวด้านนอกสีเขียวเข้ม พอสุกผิวของเปลือกมีสีเหลืองแกมเขียว เนื้อด้านในสีขาวเช่นเดียวกับมะม่วง มีรสเปรี้ยวกว่า เนื้อแน่น และเหนียวกว่า มันนำมาประกอบอาหารอย่างเอามาใส่ในแกงส้ม แทนมะขามเปียก หรือนำมายำคล้ายกับยำมะม่วง

“แกงสมรม” แกงพื้นถิ่นของคนภาคใต้ โดยส่วนมากนิยมแกงกับเนื้อกุ้งสด รสชาติที่ได้ก็จะหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามๆกันมา ส่วนผักที่ใส่ในแกงนั้นก็มีหลากหลายอยากกินไรก็ใส่ลงไปโดยสูตรนี้ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ชะอม หน่อไม้ต้ม (อันนี้ขาดไม่ได้เลย) และสะตอ เคี่ยวให้ผักนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ได้แกงสมรมอร่อยๆ กินแล้ว

เนื้อแตงโมแกะเม็ดออกให้หมด นำมาปั่นในเครื่องปั่นน้ำ ปั่นให้ละเอียดเข้ากันดี จากนั้นก็เทใส่ถาดหรือภาชนะที่จะใส่แช่ แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งเป็นเวลา 1 ½ ชั่วโมง เป็นต้นไปแล้วแต่ความเย็นของตู้เย็นนั้นๆ พอครบกำหนดก็นำมาขูดให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ โดยเริ่มขูดจากขอบมาหาจุดกลาง (โดยการขูดครั้งแรกนั้นน้ำแข็งอาจจะยังไม่เซ็ตตัวเท่าที่ควรเท่าไร ไม่ต้องตกใจไปนะคะ) แล้วนำเข้าแช่ช่องแข็งอีกครั้งประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำออกมาขูดอีกครั้ง (การขูดหลายๆครั้งทำให้เนื้อของกรานิตามีความเป็นเกล็ดละเอียดมากยิ่งขึ้น) ตักใส่ถ้วยตามด้วยเนื้อแตงโมที่สคูปไว้ โรยด้วยปลาแห้ง เพียงเท่านี้ก็ได้ “กรานิตาแตงโมปลาแห้ง” ไว้กินแก้ดับร้อนกันแล้ว

‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ

วันนี้เรามีเมนูอาหารว่างของไทยที่ทำกินได้ไม่ยากนั่นก็คือ ‘ยำส้มโอ’ เมนูอร่อยครบรส ที่เหมาะสำหรับทานเล่นกันในครอบครัว และว่ากันว่าส้มโอที่อร่อยจะต้องเป็นพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจะให้รสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อแน่นน้ำหนักดี ไม่มีรสขมและรสซ่า เมื่อแก่จัดเนื้อจะแห้งถูกคอคนไทยและคนต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง

ภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสานเช่นกัน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆหวานๆหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดเล็กน้อยจากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ความลงตัวกันของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลย

“โรลครีมชีสลูกตาล” ที่นำวัตถุดิบจากต้นตาลโตนดมาใส่ลงในเมนูนี้ถึง 3 อย่าง น้ำตาลสด น้ำตาลโตนด และลูกตาลอ่อน โดยทั้ง 3 อย่างนี้อยู่ในส่วนของครีมชีสที่เป็นการตีครีมชีสกับน้ำตาลโตนดให้เข้ากันก่อนที่จะผสมตัวน้ำตาลสดเข้าไป บอกเลยว่าตอนตีครีมชีสก็หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นของน้ำตาลโตนดไปทั่วห้อง ก่อนจะนำมาผสมรวมกับวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ เนื้อครีมชีสที่ได้ก็จะนุ่มเบาหอมกลิ่นน้ำตาลโตนด เปรี้ยวอมหวานนิดๆ

“ยำส้มกะปิทรงเครื่อง” เป็นการนำเอากะปิมาละลายกับกะทิจากนั้นนำไปคั่วให้หอมในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา รสชาติที่ได้ก็หอมๆนวลกะปิ จากนั้นก็นำมาเคล้ากับส้มที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มความพิเศษของยำเข้าไปอีกด้วยการใส้เครื่องอย่างกระเทียมซอย หอมแดงซอย พริกจินดาแดงซอย มะพร้าวคั่ว เคล้าๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อปลากะพงแดงที่นำไปเคล้ากับเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้หนังกรอบ เนื้อด้านในสุกกำลังดี ตกแต่งด้วยใบผักชี

“แกงคั่วหอยหลอด” ที่ใช้เครื่องแกงคั่วทางใต้ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกง นำมาผัดให้เข้ากันกับหางกะทิ จากนั้นก็ใส่ผักต่างๆอย่างมะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบชะพลู พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า เป็นต้น และก็ใส่พระเอกของเราอย่าง หอยหลอดเข้าไป ปรุงรสแค่เกลือสมุทรและน้ำตาลมะพร้าวเท่านั้น ปิดท้ายด้วยความมันกลมกล่อมอย่างหัวกะทิ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยหลอดรสชาติเผ็ดร้อนแบบฉบับคนใต้ กินกับข้าวสวยร้อน

“ยำใบบัวบกกะทิ” เป็นการทำน้ำยำโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำแล้วจนนุ่ม กับหอมแดงและกระเทียมไทยที่นำไปเผาให้หอม แกะเอาเนื้อมาโขลกให้ละเอียดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปเคี่ยวกับกะทิให้หอมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะนาว ให้ได้รสชาติเปรี้ยวนำ และเค็มหวานตามกันมา จากนั้นก็ย่างหมูย่างตะไคร้ที่หอมกลิ่นเครื่องหมักอย่างตะไคร้ กระเทียม และพริกไทย ย่างให้สุกหอมและหั่นเป็นชิ้นบางๆ ซอยใบบัวบกให้เป็นเส้นๆ เคล้ากับเครื่องยำอย่างหอมแดงซอย กระเทียมเจียว มะพร้าวคั่ว พริกจินดาซอย และมะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง เคล้ารวมกับน้ำยำเล็กน้อย แล้วจัดใส่จานเสิร์ฟกับหมูย่างตะไคร้ได้เลย

“มะมุด ส้มมุด หรือมะม่วงป่า” แล้วแต่ละท้องถิ่นจะเรียกกัน ซึ่งเจ้ามะมุดหรือส้มมุดที่ว่านี้ เป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ไทย รวมไปถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม ด้วย และยังเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลอ่อนผิวด้านนอกสีเขียวเข้ม พอสุกผิวของเปลือกมีสีเหลืองแกมเขียว เนื้อด้านในสีขาวเช่นเดียวกับมะม่วง มีรสเปรี้ยวกว่า เนื้อแน่น และเหนียวกว่า มันนำมาประกอบอาหารอย่างเอามาใส่ในแกงส้ม แทนมะขามเปียก หรือนำมายำคล้ายกับยำมะม่วง

“แกงสมรม” แกงพื้นถิ่นของคนภาคใต้ โดยส่วนมากนิยมแกงกับเนื้อกุ้งสด รสชาติที่ได้ก็จะหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามๆกันมา ส่วนผักที่ใส่ในแกงนั้นก็มีหลากหลายอยากกินไรก็ใส่ลงไปโดยสูตรนี้ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ชะอม หน่อไม้ต้ม (อันนี้ขาดไม่ได้เลย) และสะตอ เคี่ยวให้ผักนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ได้แกงสมรมอร่อยๆ กินแล้ว

เนื้อแตงโมแกะเม็ดออกให้หมด นำมาปั่นในเครื่องปั่นน้ำ ปั่นให้ละเอียดเข้ากันดี จากนั้นก็เทใส่ถาดหรือภาชนะที่จะใส่แช่ แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งเป็นเวลา 1 ½ ชั่วโมง เป็นต้นไปแล้วแต่ความเย็นของตู้เย็นนั้นๆ พอครบกำหนดก็นำมาขูดให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ โดยเริ่มขูดจากขอบมาหาจุดกลาง (โดยการขูดครั้งแรกนั้นน้ำแข็งอาจจะยังไม่เซ็ตตัวเท่าที่ควรเท่าไร ไม่ต้องตกใจไปนะคะ) แล้วนำเข้าแช่ช่องแข็งอีกครั้งประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำออกมาขูดอีกครั้ง (การขูดหลายๆครั้งทำให้เนื้อของกรานิตามีความเป็นเกล็ดละเอียดมากยิ่งขึ้น) ตักใส่ถ้วยตามด้วยเนื้อแตงโมที่สคูปไว้ โรยด้วยปลาแห้ง เพียงเท่านี้ก็ได้ “กรานิตาแตงโมปลาแห้ง” ไว้กินแก้ดับร้อนกันแล้ว

‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ

วันนี้เรามีเมนูอาหารว่างของไทยที่ทำกินได้ไม่ยากนั่นก็คือ ‘ยำส้มโอ’ เมนูอร่อยครบรส ที่เหมาะสำหรับทานเล่นกันในครอบครัว และว่ากันว่าส้มโอที่อร่อยจะต้องเป็นพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจะให้รสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อแน่นน้ำหนักดี ไม่มีรสขมและรสซ่า เมื่อแก่จัดเนื้อจะแห้งถูกคอคนไทยและคนต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง

ภาคใต้ก็ทำเมนูไข่มดแดงกินเช่นเดียวกับครัวล้านนาและครัวอีสานเช่นกัน แต่ว่าทางภาคใต้จะนิยมนำมาต้มกับกะทิ คล้ายกับเมนูใบเหลียง รสชาติจะออกมันๆหวานๆหอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรอย่างตะไคร้และหอมแดง มีความเผ็ดเล็กน้อยจากการบุบพริกขี้หนูสวนใส่ลงไปตอนท้าย ความลงตัวกันของกะทิและไข่มดแดงนั้นทำให้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยเลย

“โรลครีมชีสลูกตาล” ที่นำวัตถุดิบจากต้นตาลโตนดมาใส่ลงในเมนูนี้ถึง 3 อย่าง น้ำตาลสด น้ำตาลโตนด และลูกตาลอ่อน โดยทั้ง 3 อย่างนี้อยู่ในส่วนของครีมชีสที่เป็นการตีครีมชีสกับน้ำตาลโตนดให้เข้ากันก่อนที่จะผสมตัวน้ำตาลสดเข้าไป บอกเลยว่าตอนตีครีมชีสก็หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นของน้ำตาลโตนดไปทั่วห้อง ก่อนจะนำมาผสมรวมกับวิปปิ้งครีมที่ตีไว้ เนื้อครีมชีสที่ได้ก็จะนุ่มเบาหอมกลิ่นน้ำตาลโตนด เปรี้ยวอมหวานนิดๆ

“ยำส้มกะปิทรงเครื่อง” เป็นการนำเอากะปิมาละลายกับกะทิจากนั้นนำไปคั่วให้หอมในกระทะ แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำพริกเผา รสชาติที่ได้ก็หอมๆนวลกะปิ จากนั้นก็นำมาเคล้ากับส้มที่เตรียมไว้ แล้วเพิ่มความพิเศษของยำเข้าไปอีกด้วยการใส้เครื่องอย่างกระเทียมซอย หอมแดงซอย พริกจินดาแดงซอย มะพร้าวคั่ว เคล้าๆให้เข้ากัน จากนั้นก็ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อปลากะพงแดงที่นำไปเคล้ากับเกลือ พริกไทยเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้หนังกรอบ เนื้อด้านในสุกกำลังดี ตกแต่งด้วยใบผักชี

“แกงคั่วหอยหลอด” ที่ใช้เครื่องแกงคั่วทางใต้ รสชาติจัดจ้าน หอมกลิ่นเครื่องแกง นำมาผัดให้เข้ากันกับหางกะทิ จากนั้นก็ใส่ผักต่างๆอย่างมะเขือเปราะ มะเขือพวง ใบชะพลู พริกขี้หนู พริกชี้ฟ้า เป็นต้น และก็ใส่พระเอกของเราอย่าง หอยหลอดเข้าไป ปรุงรสแค่เกลือสมุทรและน้ำตาลมะพร้าวเท่านั้น ปิดท้ายด้วยความมันกลมกล่อมอย่างหัวกะทิ เพียงเท่านี้ก็จะได้แกงคั่วหอยหลอดรสชาติเผ็ดร้อนแบบฉบับคนใต้ กินกับข้าวสวยร้อน

“ยำใบบัวบกกะทิ” เป็นการทำน้ำยำโดยโขลกพริกแห้งที่แช่น้ำแล้วจนนุ่ม กับหอมแดงและกระเทียมไทยที่นำไปเผาให้หอม แกะเอาเนื้อมาโขลกให้ละเอียดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเอาไปเคี่ยวกับกะทิให้หอมปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะนาว ให้ได้รสชาติเปรี้ยวนำ และเค็มหวานตามกันมา จากนั้นก็ย่างหมูย่างตะไคร้ที่หอมกลิ่นเครื่องหมักอย่างตะไคร้ กระเทียม และพริกไทย ย่างให้สุกหอมและหั่นเป็นชิ้นบางๆ ซอยใบบัวบกให้เป็นเส้นๆ เคล้ากับเครื่องยำอย่างหอมแดงซอย กระเทียมเจียว มะพร้าวคั่ว พริกจินดาซอย และมะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง เคล้ารวมกับน้ำยำเล็กน้อย แล้วจัดใส่จานเสิร์ฟกับหมูย่างตะไคร้ได้เลย

“มะมุด ส้มมุด หรือมะม่วงป่า” แล้วแต่ละท้องถิ่นจะเรียกกัน ซึ่งเจ้ามะมุดหรือส้มมุดที่ว่านี้ เป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ไทย รวมไปถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม ด้วย และยังเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะม่วง เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ผลอ่อนผิวด้านนอกสีเขียวเข้ม พอสุกผิวของเปลือกมีสีเหลืองแกมเขียว เนื้อด้านในสีขาวเช่นเดียวกับมะม่วง มีรสเปรี้ยวกว่า เนื้อแน่น และเหนียวกว่า มันนำมาประกอบอาหารอย่างเอามาใส่ในแกงส้ม แทนมะขามเปียก หรือนำมายำคล้ายกับยำมะม่วง

“แกงสมรม” แกงพื้นถิ่นของคนภาคใต้ โดยส่วนมากนิยมแกงกับเนื้อกุ้งสด รสชาติที่ได้ก็จะหวาน เปรี้ยว เค็ม ตามๆกันมา ส่วนผักที่ใส่ในแกงนั้นก็มีหลากหลายอยากกินไรก็ใส่ลงไปโดยสูตรนี้ใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง ชะอม หน่อไม้ต้ม (อันนี้ขาดไม่ได้เลย) และสะตอ เคี่ยวให้ผักนุ่ม เพียงเท่านี้ก็ได้แกงสมรมอร่อยๆ กินแล้ว

เนื้อแตงโมแกะเม็ดออกให้หมด นำมาปั่นในเครื่องปั่นน้ำ ปั่นให้ละเอียดเข้ากันดี จากนั้นก็เทใส่ถาดหรือภาชนะที่จะใส่แช่ แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งเป็นเวลา 1 ½ ชั่วโมง เป็นต้นไปแล้วแต่ความเย็นของตู้เย็นนั้นๆ พอครบกำหนดก็นำมาขูดให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ โดยเริ่มขูดจากขอบมาหาจุดกลาง (โดยการขูดครั้งแรกนั้นน้ำแข็งอาจจะยังไม่เซ็ตตัวเท่าที่ควรเท่าไร ไม่ต้องตกใจไปนะคะ) แล้วนำเข้าแช่ช่องแข็งอีกครั้งประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำออกมาขูดอีกครั้ง (การขูดหลายๆครั้งทำให้เนื้อของกรานิตามีความเป็นเกล็ดละเอียดมากยิ่งขึ้น) ตักใส่ถ้วยตามด้วยเนื้อแตงโมที่สคูปไว้ โรยด้วยปลาแห้ง เพียงเท่านี้ก็ได้ “กรานิตาแตงโมปลาแห้ง” ไว้กินแก้ดับร้อนกันแล้ว
Recommended Videos