Soft Cookies (ซอฟต์คุกกี้) สำหรับเน็ต เป็นขนมที่กินได้ตลอดเวลา กินเป็นมื้อเช้ากับนมอุ่นๆ ชา กาแฟร้อนๆ สักแก้ว เพราะเนื้อคุกกี้ฉ่ำๆ มีถั่ว ช็อกโกแลต ผลไม้แห้ง กินแล้วอยู่ท้องดีนัก ตามสถานีรถใต้ดินในต่างประเทศมักจะมีซอฟต์คุกกี้ชิ้นโตๆ วางขาย ให้สาวกคุกกี้ทั้งหลายได้หยิบฉวยไปกินกับกาแฟระหว่างเดินทาง อย่างเช่นในอังกฤษไม่มีใครไม่รู้จัก Ben’s Cookies หรือในนิวยอร์กต้องเป็น Jacques Torres ซอฟต์คุกกี้แบบนี้รับรองแค่ชิ้นเดียวก็อิ่มแปล้ เพราะรสชาติเข้มข้นด้วยเนยนม ช็อกโกแลต แถมขนาดใหญ่เบ้งเท่าฝ่ามือ ที่สำคัญ Soft Cookies เก็บไว้ได้นาน โดยไม่ต้องพะวงเรื่องความกรอบ มันจึงเหมาะอย่างยิ่งกับการพกพาไปกินระหว่างเดินทางท่องเที่ยว เช่นพกไปแคมปิ้งหรือเดินป่า อันนี้เคยทำมาแล้ว เหมาะมาก

ที่อยากจะบอกอีกอย่างสำหรับคนที่ชอบกินคุกกี้นุ่มหนึบจมฟันแบบนี้ แนะนำว่าลองทำเองเถอะ เพราะอุปกรณ์น้อยนิดเหลือเกิน  ไม่ต้องใช้เครื่องตีเค้กให้วุ่นวายอะไร (ถ้าคุณมีเตาอบอยู่แล้วนะ) เพราะความสำคัญของซอฟต์คุกกี้อยู่ที่คุณภาพและสัดส่วนวัตถุดิบที่ถูกต้อง ที่ทำให้คุกกี้ออกมา Soft ตามแบบที่คุณอยากกินนั่นแหละ เอาเป็นว่าเรามาเริ่มทำซอฟต์คุกกี้กันเลย

อุปกรณ์ทำซอฟคุกกี้ 

เบสิคซอฟต์คุกกี้ 

หลายคนจะรู้ว่าคุกกี้เป็นเบเกอรีที่ง่ายๆ ตรงไปตรงมา แค่เนย+น้ำตาล+ไข่ไก่+แป้งสาลี +สารขึ้นฟู (เช่น เบกกิ้งหรือผงฟู) แค่นี้ก็ได้คุกกี้แล้ว แต่จะได้คุกกี้กรอบหรือนุ่ม ขึ้นอยู่กับปริมาณแป้ง ชนิดน้ำตาลที่ใช้ และการตีเนย ลักษณะของ ซอฟต์คุกกี้ที่ทุกคนอยากได้คือ กรอบนอกนิดๆ หนึบ ฉ่ำด้านใน เราต้องใช้แป้งสาลีน้อย เพราะการใส่แป้งมากทำให้คุกกี้แน่นและแห้ง ส่วนน้ำตาลที่ใช้ในซอฟต์คุกกี้ใช้สองชนิดคือ น้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดงช่วยให้เนื้อคุกกี้นุ่มหนึบ และมีสีน้ำตาลสวย ส่วนน้ำตาลทรายขาวทำให้คุกกี้กรอบ ร่วน ถ้ายิ่งเพิ่มน้ำตาลทรายแดงจะยิ่งทำให้คุกกี้นุ่ม บางคนชอบใส่ molasses หรือกากน้ำตาล เพื่อเสริมกลิ่นและรสของซอฟคุกกี้ด้วย ดังนั้นน้ำตาลทั้งสองชนิดต้องอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับแป้งในสูตรด้วย

เนยอุณหภูมิห้อง เคล็ดลับอีกอย่างหนึ่งเวลาทำซอฟต์คุกกี้คือ การเอาเนยออกมาไว้ที่อุณหภูมิห้องเพื่อให้เนยนุ่มกำลังดี เวลาตีกับน้ำตาลจะเข้ากันได้ง่ายและเร็วกว่าการใช้เนยเย็นๆ วิธีทดสอบเนยนุ่มคือเมื่อกดลงไปแล้วผิวเนยยุบลงไปโดยไม่เละติดนิ้วขึ้นมา ที่สำคัญไม่ต้องตีเนยกับน้ำตาลนาน เพราะเราไม่ต้องการตีเนยกับน้ำตาลเพื่อสะสมฟองอากาศเหมือนเวลาทำคุกกี้เนยกรอบๆ

แช่เย็นคุกกี้ก่อนอบ ซอฟต์คุกกี้เป็นคุกกี้ที่ไขมันเยอะ (เนย) แป้งน้อย ดังนั้นคุกกี้โดว์ที่ผสมเสร็จใหม่ๆ จะค่อนข้างแฉะ ไม่สามารถปั้นหรือตักหยอดให้ได้รูปสวยงามเท่าๆกันได้ เราจึงต้องเอาคุกกี้โดว์ไปแช่ตู้เย็นก่อนสัก 3-4 ชั่วโมงเพื่อให้เนยในส่วนผสมเซ็ตตัว (แช่ข้ามคืนเลยก็ยิ่งดี) เนื้อคุกกี้ก็จะตักได้ง่าย ควรใช้สคูปไอศกรีมตักแบ่งคุกกี้เพื่อให้มีขนาดเท่ากัน เพื่อเวลาอบจะได้สุกพร้อมกันและสีสม่ำเสมอกัน ตักหยอดโดยเว้นระยะห่างระหว่างคุกกี้อย่างน้อย 2 นิ้ว เพื่อให้ความร้อนผ่านชิ้นคุกกี้โดยทั่วถึง อีกสาเหตุหนึ่งที่ควรแช่เย็นก่อนเพราะช่วยให้คุกกี้แผ่ตัวช้า เวลาอบออกมาคุกกี้ฟูหนา หรือไม่บางจนเกินไป

ทิ้งคุกกี้ไว้ให้เย็นสนิทจึงเอาออกจากถาด ซอฟต์คุกกี้เมื่ออบเสร็จใหม่ๆ จะอ่อนตัวยวบยาบ ถ้าเรารีบเอาคุกกี้ออกจากถาดก็จะนิ่มย้วยไม่เป็นทรง ควรพักคุกกี้ไว้บนถาดอบร้อนๆ จนเย็นตัวลงเอง แล้วจึงแซะออกจากถาดได้อย่างง่ายดาย  ที่สำคัญควรใช้กระดาษไขหรือแผ่นอบซิลิโคนเวลาอบซอฟต์คุกกี้ เพราะการทาเนยบนถาด บางครั้งเราทาเนยมากเกินไป ทำให้คุกกี้ยิ่งลื่นไหลแผ่ตัวเร็วขึ้น คุกกี้ก็จะแบนราบหรือบางทีไหม้ด้านล่างเพราะเนยมากไป

เมื่อรู้เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการทำซอฟคุกกี้แล้วก็ไปเปิดเตาอบเตรียมทำคุกกี้กันเลยดีกว่า..

แน่นอนสายซอฟต์ฯ 99% ต้องนึกถึงช็อกโกแลตชิพคุกกี้ เน็ตเลยอยากให้สูตรคุกกี้ช็อกโกแลตวอลนัทซีซอล์ทแทนการใช้ช็อกโกแลตชิพเพราะชอบความเยิ้มของช็อกโกแลตแบบชิ้นใหญ่ๆ มากกว่า เน็ตเลือกใช้ถั่ววอลนัทเพราะเนื้อมันและโปร่งเบา กินสบายฟันเข้ากับช็อกโกแลตเยิ้มๆ ที่สำคัญเลือกใช้ดอกเกลือทะเลอย่างดี (อย่างใครมี fleur de sel หรือดอกเกลือทะเลของฝรั่งเศสได้ยิ่งดี) เพื่อขับรสชาติช็อกโกแลตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรคุกกี้ช็อกโกแลตวอลนัทซีซอล์ท

สูตรที่สองเป็นคุกกี้ทริปเปิลช็อกโกแลต ใช้ช็อกโกแลต 3 ชนิดคือ ดาร์ก มิล์ค และไวท์ช็อกโกแลตเลย ทำเนื้อคุกกี้คล้ายเวลาเราทำบราวนี่ แล้วจึงใส่มิล์คและไวท์ช็อกโกแลตเป็นเม็ดๆ ลงไป เวลากินก็จะเจอช็อกโกแลตทั้งสองชนิดแทรกแซงอยู่ในเนื้อคุกกี้ คุกกี้โดว์ตัวนี้แช่เย็นสัก 1 คืนจึงจะดี ก่อนสคูปเอามาทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องสัก 30 นาทีเพื่อให้นุ่มลงก่อน

คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรคุกกี้ทริปเปิลช็อกโกแลต

สูตรสุดท้ายเป็นคุกกี้โอ๊ตมีลช็อกโกแลตชิพ จริงๆ แล้วโอ๊ตมีลมักคู่กับผลไม้แห้งอย่างลูกเกด แครนเบอร์รี เสมอ แต่ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบผลไม้แห้งเท่าไหร่ จึงขอใส่ช็อกโกแลตชิพดีกว่า เพราะรู้สึกว่าเข้ากันดีเหลือเกิน (แต่สูตรนี้จะใส่แครนเบอร์รีลงไปร่วมด้วยก็อร่อยนะ) แนะนำอีกอย่างให้ใส่อบเชยเข้าไปด้วยจะทำให้คุกกี้หอมหวนมีระดับขึ้นอีกเป็นกอง ข้อดีของสูตรนี้คือคุกกี้โดว์สามารถทำเก็บล่วงหน้าไว้ในช่องแข็งได้นาน 1-2 สัปดาห์ อยากกินเมื่อไหร่ค่อยเอามาไว้นอกตู้เย็นให้นุ่ม แล้วอบกิน รับรองหอมอร่อยเหมือนเดิม (เก็บคุกกี้ที่ผสมแล้วในกล่องปิดฝาให้สนิท หุ้มด้วยพลาสติกแร็ปอีกทีไม่ให้กลิ่นตู้เย็นเข้า)

คุกกี้โอ๊ตมีลช็อกโกแลตชิพ