บาเยีย ที่เราคุ้นเคยที่มีร้านเด็ดร้านดังขายอยู่ที่สะพานเหล็ก มีลักษณะเป็นถั่วบดผสมเครื่องเทศนำไปทอดจนกรอบ ราดด้วยน้ำจิ้มเปรี้ยวๆหวานๆ มีพริกทอดกินแนม ใครแวะเวียนไปแถวนั้นก็ต้องมีซื้อติดไม้ติดมือมาชิมกันบ้าง ปัจจุบันก็ยังมีขายอยู่ ในราคาชุดละ 50 บาท

 

แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกตามรอยร้านดัง ให้สูตร ‘บาเยีย’ ของครัวดอทโคเป็นที่พึ่งพายามยากของเพื่อนๆ ที่พอจะมีสกิลในการทำอาหารอยู่บ้าง หรือใครที่อยากลองหาอะไรขายตามตลาดนั้น เมนูบาเยีย-ของทอดสไตล์พม่า ที่รับอิทธิพลมาจากอินเดียอีกที ถือเป็นเมนูติดอันดับหากินยาก หลายคนชื่นชอบ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่อยากให้พ่อค้า-แม่ค้ามือใหม่ ลองทำขายดู

 

บาเยียสูตรนี้จะใช้ ‘ถั่วเขียวเราะเปลือก’ เป็นหลัก ตัวบาเยียนี้จะคล้ายเมนู ‘บยา จอ’ ของพม่า แต่ที่พม่าเขาจะใช้ yellow split pea เป็นหลัก สูตรนี้ประยุกต์จากเมนูบยา จอ ของพม่า กับ บาเยียที่คนไทยคุ้นเคยเข้าด้วยกัน โดยเราจะใช้ถั่วเขียวเราะเปลือกเพราะในไทยหาถั่วชนิดนี้ได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นถั่วที่คนไทยใช้ทำขนมไทยอยู่แล้ว และที่สำคัญอีกอย่างเลยคือ ราคาถูก! ถ้าอยากทำเมนูนี้ขายเราก็ควรจะเลือกวัตถุดิบที่ราคาถูกและยังคงรสชาติของเมนูได้ดีอยู่ นั่นคือหัวใจหลักของการทำสูตรนี้ขึ้นมา 

 

ขั้นตอนการเตรียมถั่วเขียวเราะเปลือกนั้นไม่ยาก ไม่ได้ต่างกับการเตรียมถั่วชนิดอื่นๆ เลยคือต้องแช่ถั่วก่อนนำมาผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ซึ่งวิธีการแช่ถั่วก็คือ นำถั่วมาล้างทำความสะอาด ใส่ลงในอ่างผสมหรือภาชนะเติมน้ำให้ท่วมถั่วมาประมาณ 1-2 นิ้ว (กะด้วยสายตาได้เลย) หรือจะตวงน้ำเปล่าประมาณ 1.5 ลิตร แช่ถั่วเขียวเราะเปลือกทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงหรือข้ามคืน ทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการแช่ถั่วคือ สามารถใส่เบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำแช่ถั่วได้ เพราะเบกกิ้งโซดาจะช่วยสลายผนังเซลล์ของถั่ว ทำให้ถั่วดูดซับน้ำและนุ่มเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดแก๊สในถั่วได้ด้วยแต่การใช้เบกกิ้งโซดาที่มากเกินไปอาจทำให้ถั่วมีรสชาติเปลี่ยนไป ควรใช้เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา ต่อ น้ำแช่ 1.5 ลิตร และต้องล้างถั่วให้สะอาดอีกครั้งหลังแช่

 

พอเราได้ถั่วที่แช่ข้ามคืนแล้ว ก็นำมาสะเด็ดน้ำใส่ตะแกรง นำไปปั่นใน food processor จนละเอียดดีค่อยๆ เติมน้ำระหว่างปั่น ใส่ลงในอ่างผสม ใส่เบกกิ้งโซดา หอมแดง กระเทียม ผักชี พริกขี้หนู ผงมาซาลาและผงขมิ้น ปรุงรสด้วยเกลือสมุทร เติมแป้งทอดกรอบ ใช้พายยางคนให้ส่วนผสมเข้าดี พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 20 นาที ก่อนนำไปทอด

ส่วนผสมบาเยีย 
– ถั่วเขียวเราะเปลือก 300 กรัม
– น้ำ 200 กรัม
– เบกกิ้งโซดา 3 กรัม
– หอมแดงสับละเอียด 40 กรัม
– กระเทียมกลีบใหญ่สับละเอียด 15 กรัม
– ผักชีสับละเอียด 10 กรัม
– พริกขี้หนูสับละเอียด 5 กรัม
– ผงการัมมาซาลา 1 กรัม
– ผงขมิ้น 2 กรัม
– เกลือสมุทร 7 กรัม
– แป้งทอดกรอบ 60 กรัม

 

วิธีการทอดก็ไม่ยาก ให้ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางพอร้อนลดเป็นไฟอ่อน ใช้ช้อนค่อยๆ หยอดส่วนผสม (10กรัม) ลงทอดอย่างรวดเร็ว (จะได้สุกพร้อมๆ กัน) ทอดจนบาเยียสุก สีเหลืองสวย ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

 

ที่เราต้องใช้ไฟอ่อนค่อยๆทอดเพราะเราไม่ได้ต้มถั่วก่อนนำมาปั่นต้องใช้เวลาทอดในกระทะจนมั่นใจว่าส่วนผสมสุกจริงๆ พอทอดบาเยียเสร็จก็ทอดพริกจินดาแห้งต่อได้เลย เอาไว้กินแนม

 

 

คลิกดูสูตรบาเยีย

ได้บาเยียทอดกรอบร้อนๆ แล้ว จะขาดน้ำจิ้มก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลทรายแดง ซอสพริก น้ำและเกลือสมุทรลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง เคี่ยวจนน้ำตาลละลายดีปิดไฟพักไว้ให้เย็น เมื่อเย็นสนิทแล้วจึงค่อยใส่กระเทียม พริกชี้ฟ้าแดงและถั่วลิสง 

 

บาเยียเป็นเมนูที่อร่อยจนถูกปากใครหลายๆ คน ด้วยรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม เค็มอ่อนๆ หอมเครื่องเทศ และเนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ไม่แปลกที่เมนูนี้จะฮอตฮิตมาก แล้วยังเป็นเมนูที่คนกินมังสวิรัติกินได้อีกด้วย ครบเครื่องขนาดนี้แอบนึกสงสัยอยู่นะว่าทำไมถึงยังไม่มีคนทำขาย อาจจะเพราะไม่สามารถแกะสูตรออกมาให้เหมาะสำหรับทำขายหรือว่ายังไง แต่วันนี้ครัวดอทโคก็แถมตารางคำนวณต้นทุนของเมนูนี้พร้อมน้ำจิ้ม เผื่อว่าใครสนใจอยากลองทำขายอยู่พอดี

 

 

ตามตารางข้างต้นเป็นราคาของสดในตลาดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา หรือถ้ามีแหล่งซื้อวัตถุดิบที่ถูก สั่งมาในปริมาณมากๆ ต้นทุนก็จะถูกลงไปได้อีก

 

และสำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับความเป็นมาของบาเยียหรือบยา จอ แบบเต็มๆ แบบลงลึก ก็สามารถอ่านได้ที่ จะ “บาเยีย” หรือ “บยา จอ” ก็มาจากแขกอินเดีย