เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
7 คน
Level
3
แครมบรูเลมะพร้าวใช้กะทิคั้นเองผสมกับวิปปิ้งครีม เนื้อแครมบรูเลจึงหอมมันจากมะพร้าว ทำให้เก๋ไปอีกนิดโดยการอบในลูกมะพร้าวซะเลย เวลากินได้ตักเนื้อมะพร้าวขึ้นกินด้วย
INGREDIENTS
น้ำอุ่น
240 กรัม
มะพร้าวขูด
500 กรัม
ไข่แดงไข่ไก่
6 ฟอง
ไข่ไก่ (ฟองละ 60-65 กรัม)
2 ฟอง
น้ำตาลทราย
30 กรัม
วิปปิ้งครีม
200 กรัม
วานิลลาชนิดฝัก
1/2 ฝัก
น้ำตาลทรายชนิดไม่ฟอกสำหรับโรย
เนื้อมะพร้าวทึนทึกซอยคั่วสำหรับจัดเสิร์ฟ
มะพร้าวทึนทึกผ่าครึ่ง 7ลูก สำหรับเป็นภาชนะจัดเสิร์ฟ
ถาดอบสำหรับรองอบและหั่วพ่นไฟ (blow torch)
METHOD
1. เตรียมน้ำกะทิโดยใส่น้ำอุ่นลงในมะพร้าวขูด พักไว้สักครู่ ขยำและคั้นเอาแต่น้ำกะทิกรองผ่านผ้าขาวบาง จะได้น้ำกะทิประมาณ 275 กรัม เตรียมไว้
2. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ทำคัสตาร์ดโดยใส่ไข่แดง ไข่ไก่ และน้ำตาล ลงในอ่างผสม ตีด้วยตะกร้อจนสีอ่อนลง พักไว้ ใส่วิปปิ้งครีมและน้ำกะทิลงในหม้อ กรีดฝักวานิลลาตามยาว ใช้สันมีดขูดเอาเมล็ดวานิลลาใส่ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนร้อนเทส่วนผสมวิปปิ้งครีมลงในอ่างไข่ คนด้วยตะกร้อให้เข้ากัน
3. วางมะพร้าวผ่าครึ่งในถาดอบ เทน้ำร้อนหล่อรอบนอกให้สูงประมาณ ½ ของกะลามะพร้าว เทคัสตาร์ดประมาณ ½ ถ้วยใส่ในมะพร้าว นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 45 นาที จนคัสตาร์ดเซ็ตตัว ทดสอบโดยใช้นิ้วแตะแล้วเนื้อคัสตาร์ดไม่ติดมือ นำออกจากเตาอบพักไว้จนเย็นสนิท แล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง จนคัสตาร์ดเซ็ตตัว
4. จัดเสิร์ฟโดยนำคัสตาร์ดออกจากตู้เย็นโรยน้ำตาลทราย ใช้หัวพ่นไฟพ่นจนน้ำตาลด้านบนละลายเป็นคาราเมล เสิร์ฟกับมะพร้ำวทึนทึกคั่ว รับประทำนทันทีขณะคำรำเมลด้ำนหน้ำกรอบ
Tips
- ภาชนะที่ใส่ใช้ชามกระเบื้องที่นำเข้าเตาอบได้ หรือหากใช้มะพร้าวเป็นภาชนะเช่นในสูตรนี้ ให้นำมะพร้าวผ่าครึ่งไปอบด้วยไฟ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 ชั่วโมง พอให้เนื้อมะพร้าวด้านในแห้งเล็กน้อยก่อน แล้วจึงใส่คัสตาร์ด มิเช่นนั้นเวลาอบคัสตาร์ดจะมีน้ำมะพร้าวออกมา ทำให้คัสตาร์ดไม่เซ็ตตัว
อ่านบทความเพิ่มเติม
Gallery
Tags:
ขนมฝรั่งเศส, ขนมหวานฝรั่ง, ของหวานฝรั่ง, คัสตาร์ด, น้ำตาลทราย, มะพร้าวขูด, วานิลลาฝัก, วิปปิ้งครีม, ไข่ไก่
Recommended Articles
หากพูดถึงของกินเล่นยามบ่ายของพนักงานออฟฟิศหรือใครหลายคน คุกกี้เป็นขนมยอดฮิตอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ของหวานฉบับนี้นำเสนอซอฟต์คุกกี้แสนอร่อยให้ได้ลองทำกันดู เนื้อสัมผัสค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็งกรอบ เพิ่มลูกเล่นด้วยแครนเบอร์รีและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถ้าใครไม่ชอบเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามชอบ ขั้นตอนวิธีทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาอบไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้คุกกี้แสนอร่อยไว้กินยามบ่าย จะกินอุ่นๆทันทีหรือเก็บใส่ขวดโหลไว้กินวันหลังก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว
คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
หากพูดถึงของกินเล่นยามบ่ายของพนักงานออฟฟิศหรือใครหลายคน คุกกี้เป็นขนมยอดฮิตอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ของหวานฉบับนี้นำเสนอซอฟต์คุกกี้แสนอร่อยให้ได้ลองทำกันดู เนื้อสัมผัสค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็งกรอบ เพิ่มลูกเล่นด้วยแครนเบอร์รีและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถ้าใครไม่ชอบเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามชอบ ขั้นตอนวิธีทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาอบไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้คุกกี้แสนอร่อยไว้กินยามบ่าย จะกินอุ่นๆทันทีหรือเก็บใส่ขวดโหลไว้กินวันหลังก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว
คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
หากพูดถึงของกินเล่นยามบ่ายของพนักงานออฟฟิศหรือใครหลายคน คุกกี้เป็นขนมยอดฮิตอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ ของหวานฉบับนี้นำเสนอซอฟต์คุกกี้แสนอร่อยให้ได้ลองทำกันดู เนื้อสัมผัสค่อนข้างนุ่ม ไม่แข็งกรอบ เพิ่มลูกเล่นด้วยแครนเบอร์รีและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถ้าใครไม่ชอบเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ตามชอบ ขั้นตอนวิธีทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาอบไม่เกิน 10 นาที เราก็ได้คุกกี้แสนอร่อยไว้กินยามบ่าย จะกินอุ่นๆทันทีหรือเก็บใส่ขวดโหลไว้กินวันหลังก็อร่อยไม่แพ้กัน
เมอแรงก์ขนมหวานที่ใช้เทคนิคเฉพาะ เป็นการตีไข่ขาวจนขึ้นฟูแล้วนำไปอบด้วยอุณหภูมิต่ำเพื่อให้ได้เมอแรงก์ขาวสวยและกรอบ สูตรนี้พออบเสร็จแล้วเราจะบีบไส้ครีมเลมอนลงตรงกลาง กินตัดกันดีหวานอมเปรี้ยว เคล็ดลับอยู่ที่เพื่อไม่ให้เมอแรงก์นิ่มไปเสียก่อน ควรบีบไส้ครีมเลมอนก่อนเสิร์ฟเท่านั้น หากยังไม่กินให้เก็บเมอแรงก์ใส่กล่องปิดสนิทเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปช่วยรักษาความกรอบของเมอแรงก์ให้คงอยู่ได้นาน ส่วนไส้ครีมเลมอนเก็บใส่ขวดปิดฝาให้สนิทแช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ เราก็ได้เมอแรงก์หวานๆ ผสานความเปรี้ยวของครีมเลมอนในคำเดียว จัดเสิร์ฟกับน้ำชายามบ่ายแล้ว
คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
Recommended Videos