เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

เดินตลาดสนามหญ้า ตะลุยกินของอร่อย ราชบุรี

Story by สุริวัสสา กล่อมเดช

ตลาดโต้รุ่ง แหล่งรวมของอร่อยที่เป็นเหมือนฟู้ดคอร์ทประจำเมืองราชบุรี

เดินตลาดกลายเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งเวลาได้ไปเที่ยว ฉันว่าหลายคนก็คงชอบเดินตลาด และน่าจะมีตลาดอยู่ในลิสต์เวลาไปต่างที่ต่างถิ่น ตลาดเช้าให้บรรยากาศของเช้าวันใหม่ มีชีวิตชีวา ส่วนตลาดเย็น ตลาดกลางคืน บางจังหวัดให้ความรู้สึกผ่อนคลาย บางที่กลับครึกครื้นและเต็มไปด้วยของอร่อยเช่น ‘ตลาดสนามหญ้า’ ตลาดโต้รุ่งที่เป็นเหมือนฟู้ดคอร์ทประจำเมืองราชบุรี เพราะเป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยหลากหลาย เราตั้งใจมาเดินเล่น ดูว่าของอร่อยอย่างที่ชาวราชบุรีเขากินกันมีอะไรบ้าง

 

 

 

 

ตลาดสนามหญ้าเป็นตลาดโต้รุ่ง เรียกอีกชื่อว่า ‘ตลาดหอนาฬิกา’ หรือ ‘ตลาดราชพัสดุ’ ตั้งขนานกันกับแม่น้ำแม่กลอง ในอดีตที่นี่เป็นสวนสาธารณะกลางเมืองแห่งแรก มีสนามหญ้ากว้างใหญ่ที่ชาวเมืองมาออกกำลังกาย บ้างมาตั้งร้านขายของก่อนจะกลายเป็นตลาดโต้รุ่งอย่างทุกวันนี้และได้ชื่อว่าตลาดสนามหญ้า

 

 

 

 

 

 

 

หอนาฬิกาเป็นจุดสังเกตง่ายๆ เดินเข้ามาเห็นตุ่มมังกรราชบุรีประดับล้อมวงเวียนหน้าตลาดเป็นอันว่ามาถูกที่ ราว 5 โมงเย็น พ่อค้าแม่ขายก็เริ่มตั้งร้าน คนเริ่มคึกคักทยอยกันเข้ามา

 

 

 

 

 

 

 

ขนมเบื้องญวน

 

 

 

 

เห็นคนต่อคิวไม่ได้ใจมันอยากจะเข้าไปดู เจอร้านคุณป้าขายขนมเบื้องญวนเตาถ่าน หน้าตาน่ากิน เลยไปต่อคิวสั่งกับคนอื่นเขาเหมือนกัน รอคิวไม่นานเพราะคุณป้าทำไวมาก ไฟเตาถ่านก็ลุกโชนปะทุสู้ออเดอร์สุดๆ ขนมเบื้องมีให้เลือก 2 แบบ คือแป้งล้วน กับแป้งผสมไข่ คราวนี้อยากกินกรอบๆ เลยสั่งแบบแป้งล้วนไปค่ะ

 

 

 

 

ตัวขนมเบื้องบางกรอบ หอม กินคู่กับไส้รสชาติกลมกล่อม เป็นไส้กุ้งใส่เครื่องต่างๆ เช่น ไชโป๊ ถั่วงอก เต้าหู้ ต้นหอม ฯลฯ ราดน้ำอาจาดรสเปรี้ยวหวานฉ่ำๆ ได้เครื่องอาจาดอย่างแตงกวา หอมแดงซอยในคำเดียว อร่อย สดชื่น ราคาดี 40 บาท อยากจะเบิ้ลอีกสักจานแต่เผื่อกระเพาะไว้ไปลองอย่างอื่นต่อ

 

 

 

 

 

 

 

สังเกตว่าเดี๋ยวนี้ขนมเบื้องญวนหากินตามตลาด หรืองานวัดไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน ว่ามั้ยคะ อยากกินทีก็ต้องเข้าร้านอาหารเวียดนาม เพราะแบบนี้ใครที่ชอบกินขมนเเบื้องญวนถ้ามาที่นี่ต้องแวะลองสักจานค่ะ คุณป้าบอกขายมานานเกือบ 40 ปีแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

แวะมาอุดหนุนได้ แนะนำนั่งกินที่ร้านเลย ฉันว่าเบื้องญวนกินตอนร้อนๆ อร่อยสุด เทกเจอร์แป้งจะยังกรอบสมกับเป็นเบื้องญวน  

 

 

 

 

 

 

 

บะหมี่เกี๊ยวสมบัติ

 

 

 

 

ในตลาดมีร้านขายบะหมี่เกี๊ยวอยู่หลายเจ้า แต่เดินมาถึงร้านบะหมี่เกี๊ยวสมบัติแล้วรู้สึกถูกชะตา ท่าทางทะมัดทะแมงของพ่อค้าขยี้เส้น ลวกเส้น กับแม่ค้าที่ยืนรัดยางห่อบะหมี่เร้าใจ หารู้ไม่ร้านนี้เป็นร้านเด็ดทำเส้นบะหมี่เอง ที่เห็นหน้าร้านโล่งๆ คือหลายคนสั่งไว้แล้วไปเดินซื้อของร้านอื่น ขนาดที่ว่าเราเข้ามานั่งรอในร้านโต๊ะรอบๆ นั่งเต็มหมด ยังไม่มีใครได้บะหมี่กันสักชาม เพราะยังไม่ถึงคิวสักที แต่พ่อค้าก็ลวกหมี่ไวมือระวิง เรารออยู่ 20 นาที บะหมี่เกี๊ยวแห้งก็มาเสิร์ฟ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เส้นบะหมี่ลวกมาสุกกำลังดี เส้นนุ่มหนึบ ไม่เละ หมูแดงหอม นุ่ม ตัวเกี๊ยวแป้งบาง ไส้หมูสับปรุงรสมากลมกล่อม รสชาติดีสมการรอคอย ในราคาย่อมเยา 40 บาท แต่ถ้าหิวๆ มาก็เผื่อเวลากันสักหน่อยค่ะ จะสั่งกี่ที่ต้องรีบตัดสินใจสั่งทีเดียวไปเลย เพราะถ้าสั่งเพิ่มอีกเมื่อไร รอคิวกันยาว เห็นคนที่สั่งไว้หิ้วกลับกันทีหลายห่อ บางคนหิ้วกลับเป็นสิบห่อก็มี

 

 

 

 

 

 

 

 

เด่นไทยไอศกรีม

 

 

 

 

ร้านนี้ออกจะโด่งดังเป็นตำนานคู่ตลาดสนามหญ้าเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าพูดถึงไอศกรีมกะทิไข่แข็งอร่อยๆ ก็ต้องนึกถึงร้านเด่นไทยที่ขายไอศกรีมกะทิมากว่า 40 ปี มีเมนูเด็ดอย่าง ‘ไอศกรีมไข่หมก’ เป็นไอศกรีมกะทิที่ตอกไข่แดงไข่ไก่ดิบลงไป เสิร์ฟในถ้วยมาแบบไข่แดงยังเยิ้มๆ เคล็ดลับคือใช้ไข่สดไม่ใช้ไข่เก่าเก็บ จะได้ไข่แดงไม่คาว มีความมัน พอกินผสมกับรสหวานมันของไอศกรีมกะทิจะยิ่งส่งให้ได้รสนวลนัวอูมามิยิ่งขึ้น หรือใครจะรอให้ไข่แดงเซตตัวจากความเย็น ก็ได้เทกเจอร์ของไข่แดงหนึบๆ มันๆ อร่อยไปอีกแบบ ถ้วยนี้ 30 บาท

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ก่อนเดินออกจากร้านต้องปิดท้ายด้วยน้ำเขียวปั่นโซดาลอยไอศกรีม เป็นซิกเนเจอร์ที่เดินเข้ามาตลาดลาดหญ้าจะต้องเห็นคนเดินหิ้วแก้วน้ำเขียวๆ ก็คือเจ้าเมนูนี้นี่ละค่ะ เป็นน้ำเขียวปั่นโซดาแล้วโปะด้วยไอศกรีมกะทิ รสชาติหวานๆ ซ่าๆ เปรี้ยวปลายๆ ได้รสนวลมันจากกะทิ หอมกลิ่นน้ำเขียวโซดาเตะจมูก เติมความสดชื่นระหว่างเดินหาของอร่อยในตลาด หรือใครจะสั่งแบบน้ำเขียวโซดาปั่นไอศกรีมเป็นเนื้อเดียวกันไปเลยก็ได้นะ อันนี้สะดวกไม่ต้องคนเอง ไอติมมันหลอมรวมไปกับน้ำเลย แก้วละ 25 บาท

 

 

 

 

 

 

 

ถั่วปั่น ข้าวปั่น

 

 

 

 

ร้านนี้น่าสนใจ ยิ่งสายสุขภาพน่าจะชอบ หน้าตาร้านดูเฮลธ์ตี้ ขายน้ำถั่วปั่น กับน้ำข้าวปั่น ความอยากลองเพราะไม่เคยกินทั้งสองเมนูนี้มาก่อน เลยสั่งไปอย่างละแก้ว แต่…คนจัดร้านที่เราคิดว่าเป็นเจ้าของร้านบอกให้นั่งรอก่อน คนปั่นกำลังมา

 

 

 

 

จังหวะนั้นหันไปเห็นคุณลุงปั่นจักรยานพุ่งมาหน้าร้านพอดี อืม… คนปั่นจริงๆ ด้วย ฮ่าๆ เขาต้องเป็นคนรักสุขภาพแน่ๆ พอได้คุยเลยรู้ว่าทุกอย่างที่นำมาขาย เฮียต้อยคัดเลือกวัตถุดิบเอง ใช้ถั่วและข้าวปลอดสารจากแหล่งที่ไว้ใจได้ ขายมากว่า 15 ปีแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

น้ำถั่วปั่น ใช้ถั่วต้ม 5 ชนิด คือ ถั่วเขียว ถั่วขาว ถั่วเหลือง ถั่วแดงญี่ปุ่น ถั่วดำ ใครอยากแอทออนถั่วลูกไก่เป็นชนิดที่ 6 ก็ได้ เพิ่มเงินอีกนิดหน่อย แต่เราสั่งเป็นออริจินัล 5 ชนิดมา ปั่นออกมาแล้วสีขาวนวลๆ พอได้ลองดื่มอร่อยมากกกกก นี่เป็นครั้งแรกที่กินน้ำถั่วปั่น มันหอมถั่ว มัน หวานกำลังดี กินแล้วรู้สึกเป็นคนสุขภาพดีเลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

อีกแก้วเป็นน้ำข้าวปั่น ใช้ข้าวสุก 5 ชนิด คือ ข้าวกล้อง ข้าวบาเลย์ ข้าวสังหยด ข้าวหอมนิล และข้าวหอมมะลิ ปั่นและเติมรสหวานด้วยน้ำผึ้ง ปั่นออกมาสีขาวนวลมีจุดๆ ของข้าวสีอื่นๆ แซม รสชาติหอมข้าวเหมือนเรากำลังดื่มธัญพืช หวานอ่อนๆ จากน้ำผึ้ง อร่อยสดชื่นมาก ทั้งสองแก้วเป็นน้ำปั่นของสายสุขภาพที่รสชาติอร่อยฮีลใจสุดๆ ยิ่งใครไม่เคยกินอยากให้เปิดใจลองค่ะ ราคาแก้วละ 40 บาท ที่ร้านยังมีน้ำชาหอมๆ เสิร์ฟบริการฟรีไว้กินคู่กันด้วยนะ

 

 

 

 

 

 

 

โบ๊ยเกี่ย

 

 

 

 

ข้างหลังร้านถั่วปั่นเป็นร้านโบ๊ยเกี่ยของป้าเป๊ก ที่เครื่องทุกอย่างทำเองต้มเองทั้งหมด รวมทั้งตัวแป้งโบ๊ยเกี่ยที่เฮียต้อย (ลุงขายถั่วปั่น ไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรกับป้าเราไม่ได้ถาม อาจจะพี่น้องหรือแฟน เอาเป็นว่าไม่ใช่สาระสำคัญ) กวนแป้ง ปั่น ต้มเองกับมือ สิ่งนี้ล่ะค่ะไฮไลท์ของถ้วยเลย ทุกคนที่ได้กินพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแป้งโบ๊ยเกี่ยดีมาก โดยเฉพาะแบบแผ่นแป้งนุ่ม หนุบหนับ เคี้ยวสนุก ไม่แข็งเลย เครื่องอื่นๆ อย่างพุทราจีนเชื่อม แปะก๊วยก็ทำมาดีตามมาตรฐาน ที่สำคัญน้ำลำไยหอม หวานพอดี ไม่หวานจัด ซดแล้วชื่นใจไม่แสบคอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นอกจากโบ๊ยเกี่ยน้ำลำไย ยังมีโบ๊ยเกี่ยนมสดเอาใจวัยรุ่นด้วย นมสดหอม หวานกำลังดีเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ที่ไปด้วยกันโหวตให้น้ำลำไยค่ะ เทใจให้เลย ส่วนถ้วยนี้อาจจะถูกใจวัยรุ่นแหละ ซึ่งเราไม่ใช่ทาร์เกตเพราะคนโหวตนี่ก็แตะสามสิบกันทุกคน

 

 

 

 

 

 

 

ฝรั่งเชื่อมบ๊วย

 

 

 

 

เห็นป้ายแล้วสะดุด เคยได้ยินแต่ฝรั่งแช่บ๊วย แล้วฝรั่งเชื่อมบ๊วยเป็นยังไงเลยแวะสักหน่อย สั่งมาลองชุดเล็ก 30 บาท พี่สาวก็จัดแจงหยิบฝรั่งที่แช่เย็นอยู่ในตู้เอามาเฉาะ ใส่กะละมังสเตนเลส ตักน้ำบ๊วยราดลงไป ตามด้วยผงบ๊วยแบบที่เอาไว้จิ้มฝรั่ง คลุกลงไปพร้อมกัน คนๆ เป็นอันเสร็จ

 

 

 

 

ฝรั่งกรอบ เคลือบน้ำบ๊วยกับผงบ๊วยมาทั่วถึง ได้รสหวาน เค็ม เปรี้ยวปลายๆ ครบ 3 รส อร่อยเลย คล้ายเรากินฝรั่งแช่บ๊วยแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะเขาใช้ฝรั่งสด เน้นให้รสชาติเคลือบตัวฝรั่ง เพราะแบบนี้ฝรั่งที่ใช้เลยต้องเลือกเนื้อดีฟูกรอบ ให้ความรู้สึกสดใหม่ในขณะที่ก็ได้รสบ๊วยชัดเจน กินเพลินมาก

 

 

 

 

 

 

 

ตลาดสนามหญ้ายังมีร้านอร่อย อาหารน่ากินอีกมาก ยิ่งค่ำคนยิ่งเยอะ ครึกครื้น แต่ละร้านคนนั่งเต็ม วันที่เราไปอากาศค่อนข้างดี ลมเย็น สบาย ทำให้เดินตลาดสนุก แต่ถึงจะสนุกแค่ไหนกระเพาะก็ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัด ขนาดเดินๆ อยู่ได้กลิ่นหอยทอดหอมๆ ยังต้องห้ามใจ คงต้องมาอัปเดทร้านอร่อยร้านอื่นๆ กันคราวหน้าแล้วละค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

ใครมาราชบุรี ไม่รู้จะกินอะไร ลองชวนกันมาเดินตลาดสนามหญ้า รับรองมีของอร่อยถูกใจทุกคน ทุกวัย เลือกได้ตามใจชอบแน่นอน ที่สำคัญราคาย่อมเยามาก นี่ละที่ทำให้ชอบมาเดินตลาด!

 

 

 

 

 

 

 

ตลาดสนามหญ้า

 

 

 

 

เปิด-ปิด: ทุกวัน เวลา 17:00-24:00 น. (บางร้านเปิดตั้งแต่ช่วงบ่าย แต่ถ้าเปิดกันเต็มตลาดจะเริ่มตั้งแต่ 5 โมงเป็นต้นไป)
google map: https://maps.app.goo.gl/HaHqWkJbpwPZF4aT8

Share this content

Contributor

Recommended Articles

Food Storyรวมร้านอร่อยอยุธยา แบบ one day trip
รวมร้านอร่อยอยุธยา แบบ one day trip

เที่ยวเมืองเก่า แบบไม่พลาดของอร่อย

 

Recommended Videos